นายวลาดีมีร์ ปูติน เซ็นคำสั่งรับสถานภาพความเป็นเอกราช แยกเมืองโดเนตสก์และลูฮานสก์ออกจากการปกครองของยูเครน ไฟเขียวส่งทหารรัสเซียบุกเข้าไปช่วยกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดน จุดชนวนหลังชาติตะวันตกบอกว่าอย่าริเข้ามาใกล้ พร้อมไขคำตอบสู่คำถามสำคัญ จะกลายเป็นสงครามครั้งใหญ่หรือไม่
ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐบาลของสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา จะออกมาตรการแทรกแซงทางเศรษฐกิจต่อทางโดเนตสก์และลูฮานสก์ ซึ่งเป็นภูมิภาคที่ทางนายปูตินให้การรับรองว่าประกาศอิสรภาพจากยูเครนแล้ว แต่จะไม่มีการเผชิญหน้าโดยตรงต่อรัสเซีย
ในขณะที่แหล่งข่าวระดับสูงของสหรัฐอเมริกาที่ไม่ขอเอ่ยนาม กล่าวว่า ขณะนี้นายไบเดนกำลังอยู่ในช่วงของการประเมินก้าวต่อไปของรัสเซีย ภายหลังจากที่นายปูตินลงนามให้บุกยูเครน สหรัฐอเมริกาอยู่ในช่วงของการประเมินว่ารัสเซียกำลังจะทำอะไร ไม่ใช่รัสเซียพูดว่าจะทำอะไร และยืนยันว่า ทางสหรัฐอเมริกายังไม่ตัดตัวเลือกที่ว่า สหรัฐอเมริกาจะไม่มีมาตรการแทรกแซงครั้งสำคัญต่อรัสเซีย
นอกจากนี้ นายแอนโทนี่ บลินเก้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวตำหนิต่อแถลงการณ์ของนายปูตินว่า "นี่คือการโจมตีอำนาจในการปกครองประเทศและเอกราชของยูเครน" และกล่าวว่านายโจ ไบเดน จะลงนามในคำสั่งพิเศษเพื่อป้องกันไม่ให้มีการลงทุน ค้าขาย และให้ความช่วยเหลือทางการเงินโดยคนอเมริกัน ต่อ "สาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์และสาธารณรัฐประชาชนลูฮานสก์"
ทั้งนี้ จะเห็นว่า ชาติตะวันตกที่นำโดยสหรัฐอเมริกา ยังไม่มีท่าทีที่จะไปปะทะโดยตรงต่อรัสเซีย สงครามครั้งใหญ่ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นนั้น จึงอาจยังไม่เกิดขึ้นในเร็ววันนี้
เป็นที่รู้กันว่า กลุ่มแบ่งแยกดินแดนทางตะวันออกของยูเครนนั้น มีรัสเซียคอยหนุนหลังอยู่เสมอ โดยเมื่อปี 2014 กลุ่มแบ่งแยกดินแดนในโดเนตสก์และลูฮานสก์ ได้ประกาศอิสรภาพจากยูเครน จนทำให้กลุ่มกบฏและทหารยูเครนปะทะกันบ่อย ๆ ในพื้นที่ และมีผู้เสียชีวิตกว่า 10,000 คนนับตั้งแต่ปี 2014
ทั้งนี้ สหรัฐอเมริกา นาโต้ และเจ้าหน้าที่ของยูเครน กล่าวว่าทางรัสเซียเป็นผู้คอยให้คำปรึกษาและส่งข่าวกรองต่อกลุ่มกบฏ รวมทั้งยังส่งเจ้าหน้าที่ทหารเข้ามาในพื้นที่ แม้ว่ารัสเซียจะปฏิเสธมาโดยตลอด
ภาพจาก Alexey NIKOLSKY / Sputnik / AFP
วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 นิวยอร์กไทม์ส นายวลาดีมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีของรัสเซีย ได้ลงนามในคำสั่งให้กองทัพของรัสเซีย เข้าไปบุกยูเครนและแบ่งแยกดินแดนในเมืองโดเนตสก์และลูฮานสก์ของยูเครน ซึ่งเป็น 2 พื้นที่ที่ทางรัสเซียหนุนหลังให้ก่อการกบฏแบ่งแยกดินแดน และจุดชนวนให้ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและชาติตะวันตกในยุโรปบานปลาย จนมีชาติตะวันตกได้ออกคำเตือนว่า นี่อาจจะเป็นการจุดชนวนสงครามและก่อให้เกิดการปะทะครั้งใหญ่ที่สุดในยุโรป นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นายปูตินได้ออกแถลงการณ์ถึงชาวรัสเซีย และพูดเป็นนัยถึงการขยับขยายกำลังทางทหาร พร้อมกับบอกว่า ประเทศยูเครนนั้น ถือกำเนิดได้เพราะรัสเซีย พร้อมกับที่โทรทัศน์ทางการของรัสเซีย เผยให้เห็นภาพของนายปูตินที่ลงนามในการยอมรับการแยกตัวเป็นเอกราชของเมืองโดเนตสก์และลูฮานสก์ ในฐานะสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์และสาธารณรัฐประชาชนลูฮานสก์ และออกคำสั่งให้กระทรวงกลาโหมของรัสเซีย จัดกองกำลังทหารเข้าไปในภูมิภาคนี้เพื่อ "รักษาความสงบในพื้นที่"
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นายปูตินได้ออกแถลงการณ์ถึงชาวรัสเซีย และพูดเป็นนัยถึงการขยับขยายกำลังทางทหาร พร้อมกับบอกว่า ประเทศยูเครนนั้น ถือกำเนิดได้เพราะรัสเซีย พร้อมกับที่โทรทัศน์ทางการของรัสเซีย เผยให้เห็นภาพของนายปูตินที่ลงนามในการยอมรับการแยกตัวเป็นเอกราชของเมืองโดเนตสก์และลูฮานสก์ ในฐานะสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์และสาธารณรัฐประชาชนลูฮานสก์ และออกคำสั่งให้กระทรวงกลาโหมของรัสเซีย จัดกองกำลังทหารเข้าไปในภูมิภาคนี้เพื่อ "รักษาความสงบในพื้นที่"
ท่าทีของสหรัฐอเมริกา ยืนยันจะแทรกแซงทางเศรษฐกิจต่อทั้ง 2 ภูมิภาค แต่จะไม่เผชิญหน้ารัสเซียโดยตรง
ภาพจาก ANATOLII STEPANOV / AFP
ในขณะที่แหล่งข่าวระดับสูงของสหรัฐอเมริกาที่ไม่ขอเอ่ยนาม กล่าวว่า ขณะนี้นายไบเดนกำลังอยู่ในช่วงของการประเมินก้าวต่อไปของรัสเซีย ภายหลังจากที่นายปูตินลงนามให้บุกยูเครน สหรัฐอเมริกาอยู่ในช่วงของการประเมินว่ารัสเซียกำลังจะทำอะไร ไม่ใช่รัสเซียพูดว่าจะทำอะไร และยืนยันว่า ทางสหรัฐอเมริกายังไม่ตัดตัวเลือกที่ว่า สหรัฐอเมริกาจะไม่มีมาตรการแทรกแซงครั้งสำคัญต่อรัสเซีย
นอกจากนี้ นายแอนโทนี่ บลินเก้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวตำหนิต่อแถลงการณ์ของนายปูตินว่า "นี่คือการโจมตีอำนาจในการปกครองประเทศและเอกราชของยูเครน" และกล่าวว่านายโจ ไบเดน จะลงนามในคำสั่งพิเศษเพื่อป้องกันไม่ให้มีการลงทุน ค้าขาย และให้ความช่วยเหลือทางการเงินโดยคนอเมริกัน ต่อ "สาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์และสาธารณรัฐประชาชนลูฮานสก์"
ทั้งนี้ จะเห็นว่า ชาติตะวันตกที่นำโดยสหรัฐอเมริกา ยังไม่มีท่าทีที่จะไปปะทะโดยตรงต่อรัสเซีย สงครามครั้งใหญ่ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นนั้น จึงอาจยังไม่เกิดขึ้นในเร็ววันนี้
ความขัดแย้งตั้งแต่ปี 2014 กับการคืบคลานทีละน้อยของรัสเซีย ก่อนปะทุในปี 2022
ภาพจาก ALEXEY NIKOLSKY / SPUTNIK / AFP
ทั้งนี้ สหรัฐอเมริกา นาโต้ และเจ้าหน้าที่ของยูเครน กล่าวว่าทางรัสเซียเป็นผู้คอยให้คำปรึกษาและส่งข่าวกรองต่อกลุ่มกบฏ รวมทั้งยังส่งเจ้าหน้าที่ทหารเข้ามาในพื้นที่ แม้ว่ารัสเซียจะปฏิเสธมาโดยตลอด
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ทางรัสเซียยังออกพาสปอร์ตให้กับประชาชนในเมืองดอนบาสใน และปูตินมีความพยายามที่จะให้สัญชาติกับคนยูเครน ให้เปลี่ยนมาเป็นคนรัสเซีย ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลยูเครนและชาติตะวันตกต่างยืนยันว่า ภูมิภาคนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของยูเครน แม้ในความเป็นจริงแล้ว รัฐบาลยูเครนจะยืนยันว่า ทั้งโดเนสตก์และลูฮานสก์ ต่างตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของรัสเซียนับตั้งแต่ปี 2014 ซึ่งเป็นปีที่เริ่มมีความขัดแย้งเกิดขึ้น