เชียร์ ฑิฆัมพร จี้ถามตำรวจกลางรายการ โหนกระแส ทำไมไม่ยึดเรือ ปล่อยหายทั้งพยานบุคคลและพยานวัตถุ ลั่นที่ประชาชนเกิดคำถาม เพราะกระบวนการทำงานเป็นแบบนี้หรือเปล่า ?
ภาพจาก โหนกระแส
ถือเป็นการพูดคุยและวิเคราะห์คดี แตงโม นิดา ครั้งที่ 4 แล้ว สำหรับรายการ โหนกระแส โดยล่าสุด (3 มีนาคม 2565) ได้เชิญ 2 นักแสดงซึ่งเป็นเพื่อนใกล้ชิดของแตงโม ได้แก่ เชียร์ ฑิฆัมพร และ แต๊งค์ พงศกร รวมถึง พล.ต.ต. วิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ พ.ต.อ. วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร อดีตรองผู้บังคับการจเรตำรวจ มาร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลกันในครั้งนี้
โดยช่วงหนึ่ง เชียร์ และ แต๊งค์ ในฐานะเพื่อนและตัวแทนของประชาชนที่ติดตามเรื่องนี้ เกิดคำถามขึ้นมากมายว่า ทำไมพยานบุคคลไม่อยู่ในที่เกิดเหตุ ถ้าบอกว่าเรือเป็นพยานวัตถุสำคัญ ทำไมวันแรกเรือถึงไม่อยู่ แถมล่าสุดใบพัดเรือยังมาจมน้ำหายไปอีก
โดยช่วงหนึ่ง เชียร์ และ แต๊งค์ ในฐานะเพื่อนและตัวแทนของประชาชนที่ติดตามเรื่องนี้ เกิดคำถามขึ้นมากมายว่า ทำไมพยานบุคคลไม่อยู่ในที่เกิดเหตุ ถ้าบอกว่าเรือเป็นพยานวัตถุสำคัญ ทำไมวันแรกเรือถึงไม่อยู่ แถมล่าสุดใบพัดเรือยังมาจมน้ำหายไปอีก
ทำไมวันแรกเรือถึงไม่อยู่ การอายัดเรือถึงไม่เกิด ?
พล.ต.ต. วิชัย กล่าวว่า หลักการสืบสวนสอบสวน หรือการกระทำอะไรต่าง ๆ บางเรื่องตนเป็นตำรวจ ตนก็ไม่แถลง จะแถลงความจำเป็นที่ให้ประชาชนได้รู้เท่านั้น เนื้อสำนวนหรือหลักฐานอะไรบางทีแถลงไม่ได้ สมมติว่าแถลงไปวันนี้ ถ้าเกิดมีการขึ้นศาล ทนายก็จะถามวันนั้นแถลงอย่างนี้ วันนี้ทำไมเป็นอย่างนี้ มันไม่ได้ เขาห้ามเอาเนื้อหาของสำนวนมาแถลง ตนไม่ได้เข้าข้างตำรวจ แต่ทำงานสืบสวนสอบสวนมาทั้งชีวิต
เรื่องเรือ ตามหลักการหลังเกิดเหตุตำรวจจะต้องเอาเรือไปเก็บ แต่วันนั้นตำรวจยังไม่มา จะเอาไปจอดที่ตลิ่ง หรือเอาไปเข้าอู่ ตรงนั้นมันไม่สำคัญ แต่ที่สำคัญคือเอาไปจอดแล้วมีการทำลายหลักฐานในเรือหรือไม่ ถ้าทำลายถือว่าเป็นความผิด
ภาพจาก โหนกระแส
เชียร์ : ก็นี่แหละค่ะ มันเลยเป็นคำถามว่า จริง ๆ แล้วเรือไม่ควรจะอยู่ในการดูแลของตำรวจเหรอคะ ?
พล.ต.ต. วิชัย : ก็ตอนนั้นตำรวจยังไม่มา
เชียร์ : งั้นเชียร์เป็นคำถามต่อเลยว่า ถือว่ากระบวนการทำงานของตำรวจช้าไหมคะ ?
พล.ต.ต. วิชัย : ไม่ช้า
เชียร์ : ถ้าท่านบอกว่าไม่ช้า แล้วทำไมถึงไม่เก็บพยานวัตถุที่สำคัญที่สุดในตอนนั้นล่ะคะ
พยานบุคคล ทำไมไม่อยู่ในที่เกิดเหตุ ?
ภาพจาก โหนกระแส
พล.ต.ต. วิชัย กล่าวว่า สิ่งที่เชียร์พูดมันจะเป็นหลักฐานทำให้เป็นข้อพิรุธที่ตำรวจต้องไปทำการสืบสวนสอบสวน ถ้าให้การตรงกันจะไม่มีพิรุธ
แต๊งค์ พงศกร กล่าวเสริมว่า กรณีที่คนบนเรือเป็นคนมีเงิน และทั้งประเทศกำลังจับตามองอยู่ว่ามันเป็นการเลือกปฏิบัติหรือเปล่า ถ้าเป็นชาวประมงคนหาปลา ตำรวจคงจะคุมเรือไว้ตรงนั้นเลยหรือเปล่า
พล.ต.ต. วิชัย ตอบว่า ขณะนี้สังคมมันเปลี่ยนแปลงเยอะพอสมควร สังคมเดิมบอกว่าคนจนติดคุก คนรวยไม่ติดคุก แต่ทุกวันนี้สังคมเริ่มเปลี่ยนไป
ประชาชนมีคำถามเพราะกระบวนการทำงานเป็นแบบนี้หรือเปล่า ?
ภาพจาก โหนกระแส
พล.ต.ต. วิชัย : ได้ครับ คืออย่างนี้ครับ ศพที่เวลาเกิดเหตุเขาจะต้องส่งไปโรงพยาบาลที่รับรองว่ามีนิติเวช สามารถจะผ่าพิสูจน์ได้ บางโรงพยาบาลเนี่ยส่งไปไม่ได้นะ
เชียร์ : แต่ว่าอันนี้นักข่าวไปรอแล้วนะคะ
พล.ต.ต. วิชัย : เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับนักข่าว อย่าไปพูดตามความรู้สึกดิ คือผมเป็นพนักงานสอบสวนมาตั้งแต่เด็กยันโตนะ ผมจะพูดหลักกฎหมายให้ฟัง คือประชาชนไม่เข้าใจไงเลยไปตีความ ผมถามว่านิติเวชเนี่ยการตรวจพิสูจน์มีอยู่ 2 ที่ นิติวิทยาศาสตร์ กับนิติเวชของกรมตำรวจ คดีทุกวันนี้ที่ตรวจกันเนี่ย นิติเวชกรมตำรวจหมด ทีนี้ผมถามว่าถ้าคุณไปส่งธรรมศาสตร์ ถ้าไม่มีหมอที่เป็นนิติวิทยาศาสตร์หรือนิติเวชที่เขารับรอง เขาก็ต้องส่งมาที่โรงพยาบาลตำรวจเหมือนเดิม มีนักข่าวรอแล้วทำไมไม่ไป มันไม่ใช่นะ อย่าไปเข้าใจผิดอย่างนั้นนะ
ภาพจาก โหนกระแส
ภาพจาก โหนกระแส
ขอบคุณข้อมูลจาก โหนกระแส