ดราม่าข้าราชการไปสอบ GAT/PAT เจอเจ้าหน้าที่คุมสอบโชว์พาว ลากออกห้องสอบ บอกว่าทำผิดกฎ แต่เช็กไปเช็กมา ไม่ผิด ทำชีวิตเสียเวลาสอบไป 1 ปีเต็ม ๆ แบบนี้ใครรับผิดชอบ
เมื่อวานนี้ (12 มีนาคม 2565) มีการจัดสอบ GAT/PAT หรือเรียกว่า การทดสอบวิชาความถนัดทั่วไป (GAT) กับการทดสอบวิชาความถนัดทางวิชาการและวิชาชีพ (PAT) ซึ่งการสอบนี้จะสามารถนำคะแนนเข้าสมัครเรียนต่อมหาวิทยาลัยได้ อย่างไรก็ตาม กลับมีดราม่าใหญ่ที่เกิดขึ้น เมื่อมีข้าราชการรายหนึ่งถูกปฏิเสธการสอบ มีเรื่องราวต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
พยาบาลสาว เข้าสอบ GAT/PAT ไม่นาน เจอเจ้าหน้าที่ล้อมโต๊ะ ถามว่าเป็นครูจากโรงเรียนไหน
เรื่องราวนี้มาจาก เฟซบุ๊ก Phatchayapa Vipulakorn ซึ่งเป็นข้าราชการพยาบาล เดินทางมาสอบ GAT/PAT เพื่อเอาคะแนนไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เพราะทางมหาวิทยาลัยกำหนดให้ใช้คะแนน GAT/PAT ด้วย แต่ระหว่างที่สอบนั้นจู่ ๆ เจ้าหน้าที่เดินมาล้อมที่โต๊ะ บอกให้หยุดทำข้อสอบ ก่อนโดนสอบถามถึงประวัติว่า "เป็นครูจากโรงเรียนไหน" เพียงแค่คำถามนี้ ทำให้เกิดบรรยากาศกดดันเล็ก ๆ เพราะเด็กที่อยู่ในห้องสอบหันมามองทุกคน
ทั้งนี้ เธอชี้แจงว่า เธอไม่ได้เป็นครู เป็นแค่ข้าราชการเฉย ๆ ซึ่งคำตอบนี้ ทำให้สถานการณ์เหมือนแย่ลงไปกว่าเดิม เพราะกลายเป็นว่า เจ้าหน้าที่เชิญเธอออกมาจากห้องสอบ และซักประวัติกันยกใหญ่
ทางเจ้าหน้าที่ พยายามถามว่า คนสอบเป็นครูโรงเรียนไหน มาสอบได้ยังไง จะได้ไปแจ้งต้นสังกัด แต่ทางเธอก็ชี้แจงอีกครั้งว่า ไม่ได้เป็นครู แต่เป็นพยาบาล ที่มาสอบเพราะต้องการเอาคะแนนสอบไปยื่นเรียนหลักสูตรผลิตบุคลากรที่ ม.นเรศวร มันมีข้อกำหนดต้องใช้
ทว่าเจ้าหน้าที่กลับตอบมาว่า "งั้นคุณก็ใช้คะแนน GAT/PAT ตอน ม.6 สิ" ส่วนเธอก็พยายามจะเปิดระเบียบการสอบให้ดูผ่านโทรศัพท์มือถือ แต่ด้วยความลน ทำให้เธอหาโทรศัพท์ไม่เจอ จึงถูกส่งกลับเข้าห้องสอบอีกครั้ง แต่มีข้อห้ามสำคัญคือ ห้ามทำข้อสอบ จากนั้นมีเจ้าหน้าที่มาไกล่เกลี่ย แนะนำว่า หากยังต้องการสอบอยู่ ให้ไปเขียนคำร้องได้ แล้วจะชดเชยเวลาให้ ซึ่งข้อนี้เธอปฏิเสธ สิ่งสำคัญคือ อยากรู้มากกว่าว่าทำอะไรผิด
โดนป้ายสี ทุจริตการสอบ เรียกเข้าห้องเย็น งงใจทำผิดตรงไหน สอบถามแล้วข้าราชการสอบได้หมด
จากนั้น มีกรรมการคุมสอบเดินเข้ามาพร้อมหนังสือที่ติ๊กในข้อ 6 บอกว่า เธอทำผิดระเบียบและทุจริตการสอบ พร้อมกับให้เธอเซ็นยอมรับ เธอถามว่าเธอทำผิดตรงไหน ทางนั้นก็ยังคงยืนยันว่า "เป็นข้าราชการมาสอบ" ดังนั้น เธอจึงเปิดคุณสมบัติผู้เข้าสอบให้กรรมการอ่าน ซึ่งกรรมการก็บอกว่า "ไม่ผิดนี่" ทำให้เธอตัดสินใจไม่เซ็นชื่อยอมรับเรื่องการทำผิดระเบียบ
จากนั้นก็มีชายชุดดำคล้ายกับเจ้าหน้าที่ รปภ. มาเชิญไปสอบปากคำที่กองกลาง โดยในช่วงการสอบปากคำ ทางเจ้าหน้าที่ก็เน้นย้ำว่า เธอทำผิดกฎอย่างชัดเจน เพราะคนสอบต้องเป็นคนที่เรียนอยู่ ม.6 เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าไปในห้องเย็น กลับพบว่าเจ้าหน้าที่ที่สอบสวนกลับพูดขัดแย้งกันเอง เจ้าหน้าที่บอกว่า คนที่จะสอบได้ต้องจบ ม.6 ก่อน เธอก็ตอบกลับไปว่า ตนเรียนจบพยาบาล ก็จบ ม.6 เหมือนกัน เจ้าหน้าที่เลยโทร. หา ทปอ. ซึ่งเป็นหน่วยงานกลางที่จัดการสอบ เพื่อให้ ทปอ. ตัดสิน ซึ่งเธอขอร้องให้เปิดลำโพงแต่เจ้าหน้าที่ไม่ยอม แต่ผลออกมาคือ เจ้าหน้าที่บอกว่าอนุญาตเฉพาะนักเรียนที่จบ ม.6 สอบเท่านั้น ข้าราชการห้ามสอบ แต่หากเธอต้องการสอบ จะยกเป็นกรณีพิเศษให้ แต่เธอต้องเขียนคำร้องด้วย
ด้วยความที่ไม่ยอม พยาบาลสาวเลยสอบถามกลับไปว่า หากว่ากันตามกฎเป๊ะ ๆ เธอก็ไม่ผิดอะไร คุณสมบัติครบ แล้วทางกรรมการสอบเหตุใดจึงมาดึงตัวเธอออกจากห้องสอบ แล้วตอนนี้จะให้เธอกลับไปสอบใหม่แต่ต้องเขียนคำร้อง เธอไม่มีอารมณ์จะสอบแล้ว
ตอนนี้ผลสรุปไม่ผิด แต่ไม่มีอารมณ์สอบแล้ว เสียเวลาไป 1 ปี
สุดท้าย ข้อสรุปของเรื่องนี้คือ เธอมีความผิดตรงที่ยังไม่สมัครสอบของ ม.นเรศวร อีกทั้งเจ้าหน้าที่ยังอ้างว่า คะแนน GAT/PAT เก็บได้ปีต่อปีเท่านั้น เท่ากับว่า เธอเสียโอกาสทางการเรียนไปฟรี ๆ 1 ปี
นอกจากนี้ เธอยังโพสต์หลักฐานการแชตไปสอบถามเจ้าหน้าที่ ทปอ. ถึงเรื่องนี้ ถามว่า ข้าราชการสามารถสอบได้หรือไม่ ทางเจ้าหน้าที่ ทปอ. ตอบว่า สามารถสมัครสอบได้หมด ไม่มีข้อกำหนดอะไร ไม่ถือว่าขาดคุณสมบัติ