สรุปดราม่า สินสอดหาย 1 ล้าน โบ้ยช่างภาพ โป๊ะแตกสินสอดเช่า ตอนนี้ไม่กล้าสู้หน้า

          สรุปดราม่าแรง สินสอด 1 ล้านหาย โบ้ยช่างภาพว่าหยิบไป ก่อนแม่ด่าบ้านเปิง สุดท้ายพบสินสอดนั้นเป็นของเช่า ต้องเอาไปคืน แถมไม่กล้าสู้หน้าช่างภาพ

สินสอดหาย 1 ล้านบาท แม่เจ้าสาวเรียกช่างภาพมาด่าเปิง โบ้ยว่าเป็นคนขโมย

           เรื่องราวเริ่มจากที่ช่างภาพคนหนึ่ง ได้รับการว่าจ้างจากทีมออร์แกไนซ์ ให้ไปช่วยถ่ายภาพงานแต่งงานของบ่าวสาวคู่หนึ่ง ซึ่งทุกอย่างก็ราบรื่นไม่สะดุด เสร็จงานแล้วก็กลับบ้าน แต่ทางออร์แกไนซ์ได้โทร. มาบอกว่า สินสอดหายไป เป็นเงินจำนวน 1 ล้านบาท

           เห็นดังนั้น ทางทีมงานจึงรีบกลับไปบ้านที่เกิดเหตุเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้เอาสินสอดไป และทางครอบครัวบ่าวสาวอ้างว่า สินสอดนั้นเก็บเอาไว้ในห้องนอนบนบ้าน มีการล็อกกุญแจไว้ แต่กุญแจไม่ดี และห้องที่ทีมงานใช้เตรียมงานอยู่ติดกับห้องเก็บสินสอด นั่นจึงทำให้ครอบครัวบ่าวสาวเชื่อว่า ทีมงานขโมยสินสอดไป แม่เจ้าสาวเดินมาด่าทีมงาน ต่อว่าสารพัด หน้าตาเหวี่ยงขั้นสุด สร้างความอับอายให้ทีมงานเป็นอย่างมาก

ช่างภาพเอะใจ สินสอดเงินล้านห่อไว้ไม่แผ่บนพาน ก่อนโป๊ะแตก ที่แท้สินสอดเช่ามา

           อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ได้ไปถึงตำรวจ และตำรวจได้ประสานเพื่อมาขอภาพและข้อมูล รวมถึงตำแหน่งที่อยู่ของคนในงานในช่วงที่เงินหาย ซึ่งเหตุที่ทางพ่อแม่บ่าวสาวสงสัยช่างภาพ เพราะว่าห้องเก็บอุปกรณ์อยู่ใกล้กับห้องสินสอด และช่วงงานเลี้ยงตอนเที่ยง เจ้าสาวอยากถ่ายภาพ แต่ตามหาช่างภาพไม่เจอ ทางบ่าวสาวก็คิดว่าตอนนั้นคือช่วงขโมยไป ทั้งที่ตอนนั้นทีมงานกำลังเตรียมอุปกรณ์กันอยู่

           อย่างไรก็ตาม ทางช่างภาพได้ให้ข้อมูลกับตำรวจ จนตำรวจหายสงสัย และตัดข้อสงสัยที่ว่าช่างภาพคือคนขโมยสินสอดออกไป ซึ่งช่างภาพได้ตั้งข้อสังเกตว่า งานนี้ค่อนข้างต่างจากงานแต่งทั่วไป บ่าวสาวไม่ค่อยอยากถ่ายภาพสักเท่าไร สินสอด 1 ล้านบาทก็ไม่แกะพลาสติกออก และคิดว่านั่นคือเงินสินสอดที่เช่ามา แต่บ่าวสาวไม่กล้าบอกครอบครัว

           ด้านตำรวจเผยว่า เงินสินสอด 1 ล้านบาทนั้น ทางครอบครัวไม่ได้นับ เป็นแค่เงินหุ้มพลาสติกและเขียนว่า 1 ล้านบาท และคนถือกุญแจห้องเก็บสินสอดมีแค่เจ้าบ่าวเจ้าสาว บ้านที่จัดก็เป็นบ้านของอดีตกำนันเก่า เป็นคนมีชื่อเสียงเป็นที่เคารพนับถือของคนในหมู่บ้าน แขกที่มาก็เป็นฝั่งเจ้าสาวส่วนใหญ่ ไม่มีใครกล้าเข้าไปขโมย

บ่าวสาวสารภาพ สินสอดเช่ามาจริง เสร็จงานต้องเอาไปคืน ตอนนี้ไม่กล้าสู้หน้าช่างภาพแล้ว

           สุดท้ายแล้ว ทางบ่าวสาวก็ให้การรับสารภาพว่า สินสอดเงิน 1 ล้านบาทนั้น ไม่ใช่ของตัวเอง เป็นสินสอดที่เช่ามา หลังเสร็จงานจึงต้องนำไปคืน แต่พ่อแม่ฝั่งเจ้าสาวไม่รู้ว่าเช่ามา จึงคิดว่าโดนช่างภาพขโมยไป

           ด้านเรื่องเล่าเช้านี้ เผยว่า ตอนนี้ตำรวจได้สอบปากคำไปหลายปากแล้ว ยังเหลือแค่เจ้าบ่าวเจ้าสาวที่ไม่มา ซึ่งเมื่อสอบถามทางโทรศัพท์ เจ้าบ่าวเจ้าสาวก็ยอมรับว่าหยิบไปเอง เพราะเป็นสินสอดเช่ามา และเมื่อตำรวจพยายามติดต่อกลับไป ปรากฏว่าบ่าวสาวไม่รับสาย

           ด้านช่างภาพบอกว่า ตนมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ และมารอพบคู่บ่าวสาวว่าจะให้การกับตำรวจอย่างไร ตนต้องการคำขอโทษ เพราะที่ผ่านมา ตนตกเป็นผู้ต้องสงสัยจนทำให้ได้รับความเสียหาย แต่หลังจากคดีจบแล้วตนก็จะจบเหมือนกัน ไม่คิดฟ้องกลับ ขอไปทำงานเป็นช่างภาพต่อ