คุณหมอหนุ่มเจอทุบรถที่ฝรั่งเศส ฉกแบรนด์เนมเกลี้ยง - แฉ โจรรู้ได้ไงคนไหนนักท่องเที่ยว

           คุณหมอหนุ่มเผยประสบการณ์เที่ยวฝรั่งเศส เจอทุบรถกวาดของแบรนด์เนมเรียบ ทั้งที่เพิ่งซื้อมา แฉโจรจ้องเหยื่อตั้งแต่ออกจากช็อปแบรนด์เนม - ทำเป็นขบวนการ เฉลยรู้ได้ยังไง คนไหนนักท่องเที่ยว


          วันที่ 12 เมษายน 2565 เฟซบุ๊ก Nai MeKwattanakul ของคุณหมอนัย นพ.ดิรนัย เมฆวัฒนกุล ได้เปิดเผยเรื่องราวที่ตนเองเจอโจรทุบรถขณะไปเที่ยวที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส โดนขโมยของแบรนด์เนมไปเกลี้ยง โดยเล่าว่า..

กลับจากโมนาโก มาเมืองนีซ ฝรั่งเศส แวะซื้อขนมและถึงกับช็อกรถโดนทุบ

          วันที่ 31 มีนาคม 2565 ตนมีประชุมที่ประเทศโมนาโก หลังจากประชุมตนก็ได้ซื้อของแบรนด์เนมมาเพียบ เพราะประเทศนี้มีช็อปแบรนด์เนม มีซูเปอร์คาร์ เห็นได้เป็นปกติ และแน่นอนก็จะมีโจรดักรอนักท่องเที่ยวหัวดำ หลังจากนั้นเจ้าของเรื่องก็ขับรถกลับมาพักที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางเพียง 20 นาที และก่อนที่จะเข้าโรงแรม เวลาประมาณ 20.00 น. ตนได้แวะซื้อขนม และจอดรถไว้ที่ตึกจอดรถที่มีไฟส่องสว่าง มีกล้องวงจรปิด ตนออกไปซื้อขนมแค่ 15 นาทีเท่านั้น พอกลับมาที่รถก็ถึงกับช็อกเพราะกระจกรถโดนทุบ ของที่เพิ่งซื้อมาโดนกวาดไปเรียบ

แฉขบวนการโจรทุบรถ จ้องเหยื่อตั้งแต่ออกจากช็อปแบรนด์เนม - ตำรวจไม่ทำอะไร

          เจ้าของเรื่องเล่าอีกว่า ตอนนั้นตนตั้งสติแล้วไปแจ้งตำรวจ แต่ก็เป็นไปตามคาดเพราะตำรวจไม่ทำอะไรทั้งสิ้น ทำเพียงแค่ให้ตนเขียนบันทึกเอง ไม่ได้ตรวจสอบกล้องด้วยซ้ำเพราะเป็นเรื่องปกติของที่นี่ ส่วนพวกโจรนั้นจะทำงานกันเป็นทีม จะเล็งเหยื่อตั้งแต่ออกจากช็อปแบรนด์เนมเลย หลังจากเกิดเรื่องตนก็ต้องรีบเอารถไปเปลี่ยนให้ทันก่อนศูนย์ปิด และระหว่างรอรถคันใหม่ ก็เจอคนกำลังขโมยถุงขนมในรถอีก หลังจากนั้นตนก็รีบเปลี่ยนโรงแรม ตอนนี้ตนกำลังทำเรื่องเคลมค่าสินไหมซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะได้หรือเปล่า

สิ่งที่อยากจะบอกทุกคนที่ไปเที่ยวยุโรป - เผย โจรรู้ได้ยังไงว่าใครคือนักท่องเที่ยว !!

          1. ทำประกันการเดินทางที่ครอบคลุมทุกอย่าง

          2. ทำประกันรถเช่า เพราะป้ายทะเบียนรถเช่า 2 ตัวท้ายจะเหมือนกันหมด โจรที่นี่เขารู้กัน ถ้าเกิดเหตุสามารถเปลี่ยนรถได้ แถมเคลมกับบริษัทได้อีก สูงสุด 30,000 ยูโร

          3. ใช้บัตรเครดิตที่คุ้มครองสินค้าที่เราซื้อ โดยเช็กกับบัตรที่เราใช้ให้ดีก่อนว่า มีความคุ้มครองไหม ซึ่งส่วนใหญ่บัตรที่มีระดับสูง ๆ มักจะมี แต่จะคุ้มครองสินค้าประมาณครึ่งหนึ่งจากที่สูญหาย

          4. เกิดเหตุแล้ว ให้แจ้งตำรวจทุกครั้ง ถึงแม้จะไม่ทำอะไร แต่เราต้องใช้หลักฐาน ในการเคลม ซึ่งเวลาเขียนเราต้องเขียนเอง ต้องบรรยายเหตุการณ์ให้ละเอียด ของที่หาย ใบเสร็จของที่ซื้อ สถานที่เกิดเหตุ ถ่ายรูป ถ่ายวีดีโอให้หมด เหนื่อยหน่อย แต่จะมีประโยชน์มาก ๆ ตอนเกิดเหตุ

          5. สุดท้าย สติ คอยระวังตลอด

ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Nai MeKwattanakul