ทนายอนันต์ชัย พานักศึกสาว วัย 22 แจ้งความเอาผิด 2 แพทย์ โรงพยาบาลเอกชนดัง วินิจฉัยโรคผิดพบเนื้อร้าย 3 จุดในลำไส้เล็ก แต่กลับผ่าตัดไส่ติ่ง-รังไข่ออกแทน ทั้งที่ได้ไม่ได้มีผลร้ายต่อร่างกาย ซ้ำสร้างรอยแผลเป็นเสียโฉมตลอดชีวิต เตรียมเรียกค่าเสียหาย 10 ล้าน
ภาพจาก ข่าวช่อง 3
วันที่ 23 เมษายน 2565 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ ได้พา น.ส.ปิยะดา ปิสายะโส อายุ 22 ปี นักศึกษาปี 1 มหาวิทยาลัยเอกชน ย่านรังสิต เข้าแจ้งความที่ สน.โชคชัย เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ เพื่อให้ดำเนินคดีกับ 2 แพทย์ของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง ย่านลาดพร้าว วินิจฉัยโรคผิด ในข้อหา ร่วมกันกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส
วินิจฉัยโรคผิดพลาดอย่างร้ายแรง ผ่าซีสต์ในรังไข่-ตัดรังไข่ด้านซ้าย-ไส้ติ่ง ออกโดยพลการ
ทนายอนันต์ชัย เผยว่า น.ส.ปิยะดา ได้เข้ามาขอให้ตนช่วยทำคดีนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2564 เจ้าตัวมีอาการปวดท้อง จึงไปหาหมอที่โรงพยาบาลดังกล่าว และได้รับการตรวจวินิจฉัยโรคจากแพทย์ถึง 2 ท่าน ว่ามีการตรวจพบก้อนเนื้อ 3 ก้อน ในลำไส้เล็ก และมีแนวโน้มว่าจะเป็นเนื้อร้ายจำเป็นต้องได้รับการรักษาโดยวิธีผ่าตัดใหญ่เป็นการด่วน ทำให้คุณพ่อคุณแม่ของ น.ส.ปิยะดา ตัดสินใจให้ดำเนินการ เพราะกลัวว่าลูกสาวจะได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิต
จากนั้นวันที่ 22 ธันวาคม แพทย์ทั้งสองที่วินิจฉัยและได้ร่วมกันผ่าตัดใหญ่ โดยวิธีเปิดหน้าท้องเพื่อผ่าตัดเอาเนื้อร้าย 3 ก้อนออกจากลำไส้เล็ก แต่ปรากฏว่าเมื่อผ่าตัดแล้วกลับไม่พบเนื้อร้ายดังกล่าว อันเป็นการวินิจฉัยโรคผิดพลาดอย่างร้ายแรง
เสียทั้งเงินผ่าตัดเป็นแสน ๆ ซ้ำยังมีแผลเป็นเสียโฉมติดตัวตลอดชีวิต โดยที่โรงพยาบาลนิ่งเฉย
จากการเข้าตรวจกับทางโรงพยาบาลซ้ำอีกครั้ง กลับพบแพทย์ทั้งสองผ่าตัดเอาก้อนเนื้อซีสต์ในรังไข่ พร้อมทั้งรังไข่ด้านซ้าย 1 ข้าง และไส้ติ่งของ น.ส.ปิยะดา ออกโดยพลการ ไม่ได้รับความยินยอม และไม่มีความจำเป็นต้องกระทำเช่นนั้น
เป็นเหตุให้ น.ส.ปิยะดา สูญเสียไส้ติ่ง ซึ่งยังนับว่าเป็นอวัยวะมีประโยชน์และเป็นอวัยวะสำคัญ เพราะมีหน้าที่สร้างและปกป้องเชื้อจุลินทรีย์ในช่องท้อง ซึ่งจุลินทรีย์จะช่วยในระบบการย่อยอาหาร และยังทำหน้าที่กระตุ้นระบบย่อยอาหารให้กลับมาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพในกรณีที่ติดเชื้อโรคอหิวาต์ และสูญเสียค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดที่ไม่จำเป็น ที่เจ้าตัวต้องหยิบยืมมาจ่ายไป จำนวน 334,199 บาท
อีกทั้งยังต้องบาดเจ็บทนทุกข์ทรมานจากการผ่าตัดเปิดหน้าท้อง ซึ่งเป็นการผ่าตัดใหญ่ ทำให้หน้าท้องมีแผลเป็นเสียโฉมติดตัว ซึ่งกระทบต่อสุขภาพจิตในระยะยาวตลอดชีวิต แถมแพทย์ทั้ง 2 รายและโรงพยาบาล เพิกเฉยใส่อีกด้วย
ทั้งนี้ การกระทำของแพทย์ทั้งสอง ถือว่าเป็นการตรวจวินิจฉัยโรคผิดพลาดอย่างร้ายแรง และได้ร่วมกันผ่าตัดโดยประมาท เป็นเหตุให้ น.ส.ปิยะดา ได้รับอันตรายสาหัสสูญเสียอวัยวะสำคัญ และเจ็บป่วยด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่า 20 วัน อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300 ประกอบ มาตรา 83 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ขอให้ทาง สน.โชคชัย ดำเนินคดีกับแพทย์และโรงพยาบาลดังกล่าวเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับผู้เสียหาย ไม่เกินอาทิตย์หน้าฟ้องแพ่งคดีผู้บริโภคเรียกค่าเสียหาย 10 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5 ต่อปี และร้องแพทยสภา หากไม่มีการเจรจาเกิดขึ้นตนจะดูที่เจตนา
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3