อัจฉริยะ แถลงแฉพิรุธคดี แตงโม นิดา ทั้งแชต ผอ.นิติเวช พร้อมคลิปอ้างคือ ตำรวจ-แพทย์ นำร่างทดสอบใบพัดจนเกิดแผลเพิ่ม ชี้พลตำรวจตรี ว. วางแผนให้เป็นตกจากท้ายเรือ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Ch3ThailandNews
วันที่ 9 พฤษภาคม 2565 นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำทีมงานแถลงเปิดคลิปหลักฐานสำคัญคดี แตงโม นิดา พลัดตกเรือกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ชี้มีขบวนการใหญ่สร้างพยานหลักฐานเท็จ โดยมีประเด็นที่น่าสนใจเช่น
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Ch3ThailandNews
เป็นได้ยากที่ แตงโม จะนั่งท้ายเรือ
ประเด็นที่ว่าแตงโมนั่งปัสสาวะท้ายเรือจริงหรือไม่ ซึ่งจากคำกล่าวอ้างของแซน ว่าแตงโมตกลงไปบริเวณท้ายเรือ แต่จากภาพเปรียบเทียบเรือรุ่นเดียวจะพบว่า ขณะเรือแล่นจะพบว่ามีน้ำเปียกที่บอร์ดสีแดงท้ายเรือตลอดเวลา จึงเป็นไปไม่ได้ว่าแตงโมจะไปนั่งตรงจุดนั้น
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Ch3ThailandNews
จับโป๊ะ จีพีเอสเรือสปีดโบ๊ท ที่ตำรวจใช้แถลง
นายอัจฉริยะ ยังตั้งข้อสงสัยถึงหลักฐานเส้นทางจีพีเอสที่ตำรวจเคยเปิดเผยในวันแถลงข่าวก่อนส่งสำนวนอัยการ มองว่าเส้นทางนั้นน่าจะมีการดัดแปลงได้ โดยนำเอาเส้นทางจีพีเอสของเรือที่มีออกตามสื่อ มาเทียบเคียงกับเส้นทางจีพีเอสของตำรวจ จะพบว่า บางจุดไม่เหมือนกัน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Ch3ThailandNews
พิรุธจากไทม์ไลน์ ส่อไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า กล้องวงจรปิดบริเวณสะพานพระราม 8 ที่ตำรวจเอามาแถลง ขัดแย้งกับคำให้การของแซน ที่บอกว่าใช้เวลาไม่เกิน 30 วินาที แต่จากคลิปใช้เวลาประมาณ 1 นาที นอกจากนี้ กระติก ก็ถูกตั้งข้อสังเกตเช่นกัน ทั้งเรื่องภาพถ่ายที่ลงในเวลา 22.11 น. แต่เมื่อเทียบเคียงจีพีเอส น่าจะเลยออกมาจากสะพานพระราม 8 แล้ว และยังตั้งข้อสังเกตเรื่องการเรียกใช้บริการแอปฯ ยูดริ๊งก์ ไอ ไดร์ฟ ทั้งที่ตอนนั้นแตงโมยังไม่ตกเรือ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Ch3ThailandNews
แชตหลุดอ้างเป็น ผอ.นิติเวช รับตำรวจภาค 1 สารภาพใช้หลักฐานเท็จแถลงข่าว
หนึ่งในหลักฐานสำคัญในครั้งนี้ เป็นแชตข้อความที่อ้างว่าเป็นผู้อำนวยการสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ คุยผ่านทางแมสเซนเจอร์กับอดีตศัลยแพทย์ โรงพยาบาลพระมงกุฎ ซึ่งระบุว่าตำรวจสืบสวนภูธรภาค 1 ยอมรับกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติว่า มีการนำภาพที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีไปแถลงข่าวเมื่อวันที่ 26 เมษายน จริง และบาดแผลเข้าไม่ได้กับใบพัดเรือ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Ch3ThailandNews
แฉคลิปเจ้าหน้าที่แอบนำศพ แตงโม ทดสอบกับใบพัดเรือจนเกิดแผลใหม่
คลิปหลักฐานอ้างว่า ตำรวจร่วมมือกับแพทย์นิติเวช นำศพแตงโม ออกมาจากสถาบันนิติเวช เพื่อนำมาทดสอบกับใบพัดเรือของจริง ในสถานที่สกปรก โดยไม่มีการทำหนังสือขออนุญาตจากแม่แตงโมและทนายความ ซึ่งการทดสอบทำให้เกิดบาดแผลใหม่เพิ่มขึ้น ยืนยันบาดแผลที่ขาไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ มีการสร้างหลักฐานเท็จ และไม่ถูกหลักทางนิติวิทยาศาสตร์
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Ch3ThailandNews
พยานคุยคนสนิทปอ จากคลิปเสียงยันไม่มีการฉี่ท้ายเรือ
พยานสำคัญ ที่นายอัจฉริยะ นำมาเปิดตัว คือ นายตี๋ เจ้าของคลิปเสียงการสนทนาที่ปล่อยออกมา ซึ่งรู้จักกับคนสนิทของผู้ต้องหาบนเรือ คุยกันทำนองว่ามีการสร้างเรื่องว่าแตงโมไปปัสสาวะท้ายเรือ ซึ่งนายตี๋ยืนยันว่า เขาเป็นเพื่อนกับเพื่อนของปอ และเคยไปซื้อรถกับปอด้วย และยืนยันว่า ไม่มีการฉี่ท้ายเรือ โดยมีพลตำรวจตรี ว. เป็นคนวางแผนจัดฉาก ทำให้คดีออกมาในรูปนี้ว่าแตงโมไปฉี่ท้ายเรือ
เรียกร้อง ผบ.ตร. ต้องขยับคดีนี้เพิ่ม ไม่งั้นเจอเอาผิด
ช่วงท้าย นายอัจฉริยะ เรียกร้องให้มีการโอนย้ายคดีให้แผนกอื่นทำ เช่น กองปราบปราม หรือตั้งชุดเฉพาะกิจขึ้นมาทำ หากมีการตั้งชุดสืบสวนเรื่องนี้จะได้ความจริงใน 15 วัน วึ่งตนพร้อมจะเปิดหลักฐานและพาไปชี้จุด พร้อมฝากถึง ผบ.ตร. หากยังเพิกเฉย อีก 4 วัน จะมีผู้ใหญ่ซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับ พลเอก ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไปพบเพื่อพูดคุยเรื่องนี้ถึงทำเนียบรัฐบาล และถ้า ผบ.ตร. ไม่ยอมดำเนินการ วันพรุ่งนี้ (10 พฤษภาคม) ตนจะไปแจ้งเอาผิด ผบ.ตร. ว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Ch3ThailandNews, เที่ยงวันทันเหตุการณ์
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Ch3ThailandNews
วันที่ 9 พฤษภาคม 2565 นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำทีมงานแถลงเปิดคลิปหลักฐานสำคัญคดี แตงโม นิดา พลัดตกเรือกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ชี้มีขบวนการใหญ่สร้างพยานหลักฐานเท็จ โดยมีประเด็นที่น่าสนใจเช่น
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Ch3ThailandNews
เป็นได้ยากที่ แตงโม จะนั่งท้ายเรือ
ประเด็นที่ว่าแตงโมนั่งปัสสาวะท้ายเรือจริงหรือไม่ ซึ่งจากคำกล่าวอ้างของแซน ว่าแตงโมตกลงไปบริเวณท้ายเรือ แต่จากภาพเปรียบเทียบเรือรุ่นเดียวจะพบว่า ขณะเรือแล่นจะพบว่ามีน้ำเปียกที่บอร์ดสีแดงท้ายเรือตลอดเวลา จึงเป็นไปไม่ได้ว่าแตงโมจะไปนั่งตรงจุดนั้น
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Ch3ThailandNews
จับโป๊ะ จีพีเอสเรือสปีดโบ๊ท ที่ตำรวจใช้แถลง
นายอัจฉริยะ ยังตั้งข้อสงสัยถึงหลักฐานเส้นทางจีพีเอสที่ตำรวจเคยเปิดเผยในวันแถลงข่าวก่อนส่งสำนวนอัยการ มองว่าเส้นทางนั้นน่าจะมีการดัดแปลงได้ โดยนำเอาเส้นทางจีพีเอสของเรือที่มีออกตามสื่อ มาเทียบเคียงกับเส้นทางจีพีเอสของตำรวจ จะพบว่า บางจุดไม่เหมือนกัน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Ch3ThailandNews
พิรุธจากไทม์ไลน์ ส่อไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า กล้องวงจรปิดบริเวณสะพานพระราม 8 ที่ตำรวจเอามาแถลง ขัดแย้งกับคำให้การของแซน ที่บอกว่าใช้เวลาไม่เกิน 30 วินาที แต่จากคลิปใช้เวลาประมาณ 1 นาที นอกจากนี้ กระติก ก็ถูกตั้งข้อสังเกตเช่นกัน ทั้งเรื่องภาพถ่ายที่ลงในเวลา 22.11 น. แต่เมื่อเทียบเคียงจีพีเอส น่าจะเลยออกมาจากสะพานพระราม 8 แล้ว และยังตั้งข้อสังเกตเรื่องการเรียกใช้บริการแอปฯ ยูดริ๊งก์ ไอ ไดร์ฟ ทั้งที่ตอนนั้นแตงโมยังไม่ตกเรือ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Ch3ThailandNews
แชตหลุดอ้างเป็น ผอ.นิติเวช รับตำรวจภาค 1 สารภาพใช้หลักฐานเท็จแถลงข่าว
หนึ่งในหลักฐานสำคัญในครั้งนี้ เป็นแชตข้อความที่อ้างว่าเป็นผู้อำนวยการสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ คุยผ่านทางแมสเซนเจอร์กับอดีตศัลยแพทย์ โรงพยาบาลพระมงกุฎ ซึ่งระบุว่าตำรวจสืบสวนภูธรภาค 1 ยอมรับกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติว่า มีการนำภาพที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีไปแถลงข่าวเมื่อวันที่ 26 เมษายน จริง และบาดแผลเข้าไม่ได้กับใบพัดเรือ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Ch3ThailandNews
แฉคลิปเจ้าหน้าที่แอบนำศพ แตงโม ทดสอบกับใบพัดเรือจนเกิดแผลใหม่
คลิปหลักฐานอ้างว่า ตำรวจร่วมมือกับแพทย์นิติเวช นำศพแตงโม ออกมาจากสถาบันนิติเวช เพื่อนำมาทดสอบกับใบพัดเรือของจริง ในสถานที่สกปรก โดยไม่มีการทำหนังสือขออนุญาตจากแม่แตงโมและทนายความ ซึ่งการทดสอบทำให้เกิดบาดแผลใหม่เพิ่มขึ้น ยืนยันบาดแผลที่ขาไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ มีการสร้างหลักฐานเท็จ และไม่ถูกหลักทางนิติวิทยาศาสตร์
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Ch3ThailandNews
พยานคุยคนสนิทปอ จากคลิปเสียงยันไม่มีการฉี่ท้ายเรือ
พยานสำคัญ ที่นายอัจฉริยะ นำมาเปิดตัว คือ นายตี๋ เจ้าของคลิปเสียงการสนทนาที่ปล่อยออกมา ซึ่งรู้จักกับคนสนิทของผู้ต้องหาบนเรือ คุยกันทำนองว่ามีการสร้างเรื่องว่าแตงโมไปปัสสาวะท้ายเรือ ซึ่งนายตี๋ยืนยันว่า เขาเป็นเพื่อนกับเพื่อนของปอ และเคยไปซื้อรถกับปอด้วย และยืนยันว่า ไม่มีการฉี่ท้ายเรือ โดยมีพลตำรวจตรี ว. เป็นคนวางแผนจัดฉาก ทำให้คดีออกมาในรูปนี้ว่าแตงโมไปฉี่ท้ายเรือ
เรียกร้อง ผบ.ตร. ต้องขยับคดีนี้เพิ่ม ไม่งั้นเจอเอาผิด
ช่วงท้าย นายอัจฉริยะ เรียกร้องให้มีการโอนย้ายคดีให้แผนกอื่นทำ เช่น กองปราบปราม หรือตั้งชุดเฉพาะกิจขึ้นมาทำ หากมีการตั้งชุดสืบสวนเรื่องนี้จะได้ความจริงใน 15 วัน วึ่งตนพร้อมจะเปิดหลักฐานและพาไปชี้จุด พร้อมฝากถึง ผบ.ตร. หากยังเพิกเฉย อีก 4 วัน จะมีผู้ใหญ่ซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับ พลเอก ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไปพบเพื่อพูดคุยเรื่องนี้ถึงทำเนียบรัฐบาล และถ้า ผบ.ตร. ไม่ยอมดำเนินการ วันพรุ่งนี้ (10 พฤษภาคม) ตนจะไปแจ้งเอาผิด ผบ.ตร. ว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป