สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เจอปารองเท้าเฉียดหน้า ขณะไปร่วมประชุมที่สหรัฐฯ คนแค้นลั่น เกลียดเผด็จการ ฆ่าประชาธิปไตย
วันที่ 13 พฤษภาคม 2565 เว็บไซต์รอยเตอร์ส รายงานว่า สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เดินทางไปเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ ที่ทำเนียบขาว กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ซึ่งนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปกครองกัมพูชามาตั้งแต่ปี 2528 อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าจะมีกลุ่มผู้ประท้วงเข้าไปเผชิญหน้าแสดงความไม่พอใจ
ตามรายงานของเว็บไซต์ monoroom.info เผยให้เห็นคลิปวิดีโอเหตุการณ์ เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 11 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ขณะที่ ฮุน เซน กำลังยิ้มทักทายจับมือกับฝูงชน ที่ไปรอต้อนรับ อยู่ ๆ ก็เกิดปรากฏการณ์ "รองเท้าบิน" ผ่านหน้าไปในช่วงเวลาสั้น ๆ โดยที่ไม่โดนตัว ก่อนที่สถานการณ์จะจบลงอย่างรวดเร็ว ไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงหลังจากนั้น
โดยเจ้าของรองเท้าดังกล่าว เป็นชายชื่อว่า Ouk Touch ซึ่งเป็นชาวกัมพูชา-อเมริกัน จากแคลิฟอร์เนีย เขากล่าวในวิดีโอที่แชร์บนโซเชียลมีเดีย ระบุว่า "ผมขว้างรองเท้าใส่หัวของฮุน เซน เพราะฮุน เซน เป็นเผด็จการ ที่ฆ่าครอบครัวของผมในกัมพูชา ผมขว้างรองเท้าใส่หัวเขา แต่เขาขว้างระเบิดใส่ผู้ประท้วงที่ก่อเหตุในกัมพูชา ฮุน เซน ฆ่าคนจำนวนมาก ฆ่าประชาธิปไตย เขาฆ่าพ่อแม่ของผม"
ทั้งนี้ Ouk Touch ยังเผยว่า ภายหลังจากเกิดเหตุ บอดี้การ์ดของนายกฯ กัมพูชา ได้เข้าไปหาเขาโดยมีเจตนาที่จะฉีกเสื้อและทุบตีเขา แต่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสหรัฐฯ อยู่ที่นั่น จึงได้เข้าไปปกป้องเขา และบอกให้เขาออกจากจุดนั้น
รูปภาพ "รองเท้าบิน" ดังกล่าว ถูกนำไปแชร์บนสังคมออนไลน์ ผู้ใช้โซเชียลมีเดียในต่างประเทศชี้ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็น "สิทธิการแสดงออก" ในฐานะพลเมือง ขณะที่สื่อท้องถิ่นของกัมพูชา รายงานข่าว ฮุน เซน ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากประชาชน ผู้คนต่างยิ้มแย้มเข้าไปทักทายและขอเซลฟี่กับนายกฯ กัมพูชา
ฮุน เซน เป็น 1 ใน 8 ผู้นำประเทศอาเซียน เช่นเดียวกับ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีประเทศไทย ที่เดินทางไปเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกที่กรุงวอชิงตัน เหล่าผู้นำจะได้พบกับผู้นำธุรกิจของสหรัฐฯ และรับประทานอาหารค่ำกับประธานาธิบดี โจ ไบเดน ที่ทำเนียบขาว โดยคาดว่าจะมีประเด็นหัวข้อสำคัญเกี่ยวกับการปกป้องสิทธิมนุษยชน และระบอบประชาธิปไตยในภูมิภาคอาเซียน
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก Reuters, Monoroom, Khmer Times