สาวธุรการโรงเรียน แฉผู้ใหญ่รังแกเด็ก ทำงานมา 4 ปี อยู่ดี ๆ ผอ. บอกคะแนนประเมินไม่ผ่าน ชี้พิรุธคะแนนลดข้ามวัน แถมพยายามป้ายสีว่าสาเหตุไม่ผ่าน เพราะขาดราชการ
![สาวแฉผู้ใหญ่รักแกเด็ก โดน ผอ.รร. ป้ายสีให้ขาดราชการ]( "สาวแฉผู้ใหญ่รักแกเด็ก โดน ผอ.รร. ป้ายสีให้ขาดราชการ")
กำลังเป็นประเด็นดราม่าที่คนในโซเชียลให้ความสนใจ กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กหนึ่งได้มีการโพสต์ข้อความร้องขอความเป็นธรรมอ้างว่าถูกผู้ใหญ่รังแก หลังเข้าไปทำงานเป็นธุรการโรงเรียนแห่งหนึ่งได้ประมาณ 4 ปี 5 เดือน อยู่ ๆ ก็ถูกผู้อำนวยการโรงเรียนแจ้งผลการประเมินงานว่าไม่ผ่าน และมีการกล่าวหาว่าสาเหตุเพราะเธอขาดราชการ และพยายามแนะนำให้เซ็นลาออกเอง เพื่อไม่ให้เสียประวัติ
โดยเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2565 เจ้าของโพสต์โพสต์เฟซบุ๊กเล่าไทม์ไลน์ว่า ตนเองทำงานตำแหน่งธุรการที่โรงเรียนดังกล่าวมาได้ 4 ปี 5 เดือน ได้เงินเดือน 15,000 บาท กว่าจะสอบได้ยากมาก ๆ กว่าจะเรียกให้ทำงานก็นานเกือบปี แต่อยู่ ๆ วันที่ 16 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ได้ถูกเรียกให้ไปพบ ผอ. เพื่อแจ้งประเมินผลปฏิบัติงานจากคณะกรรมการ รอบที่ 1 (1 ตุลาคม - 30 เมษายน 2565) ว่าตนเองไม่ผ่านการประเมิน ซึ่งเท่ากับว่าตนเองจะไม่ถูกจ้างงานต่อ
![สาวแฉผู้ใหญ่รักแกเด็ก โดน ผอ.รร. ป้ายสีให้ขาดราชการ]( "สาวแฉผู้ใหญ่รักแกเด็ก โดน ผอ.รร. ป้ายสีให้ขาดราชการ")
เจ้าของโพสต์ระบุว่า ก่อนหน้านี้ที่อยู่กับ ผอ. คนเก่าไม่เคยมีปัญหาเรื่องนี้ โดย ผอ. บอกว่าจะไม่ส่งผลประเมินนี้ไปที่ สำนักงานเขตฯ แต่จะเธอลาออก เพื่อรักษาประวัติในการทำงาน พร้อมกับสั่งให้มอบหมายงานให้แล้วเสร็จภายในวันเดียวกัน ส่วนของในบ้านพักครูให้มาเก็บภายหลัง
ทั้งนี้ ตนเองขอดูคะแนนประเมินในวันที่ 17 พบว่าได้คะแนน 51.8 คะเเนน แต่พอมาดูอีกครั้งในวันที่ 18 ซึ่งเป็นวันที่ ผอ. ให้ไปเซ็นรับทราบผลการประเมิน กลับพบว่าคะแนนลดลงอีก เหลือ 49.30 คะแนน ตอนนั้นตนเองถึงกับร้องไห้ เพราะมั่นใจว่าทำงานอย่างเต็มความสามารถ ไม่เคยละเลยต่อหน้าที่ ไปไหนก็ขออนุญาตทุกครั้ง ทำงานอย่างเต็มกำลัง และเท่าที่มีความรู้ จึงตัดสินใจที่จะไม่เซ็น จึงอยากออกมาขอความยุติธรรมให้ตัวเอง
![สาวแฉผู้ใหญ่รักแกเด็ก โดน ผอ.รร. ป้ายสีให้ขาดราชการ]( "สาวแฉผู้ใหญ่รักแกเด็ก โดน ผอ.รร. ป้ายสีให้ขาดราชการ")
อย่างไรก็ตาม พบว่าเอกสารที่เจ้าของโพสต์แนบมานั้น ผลคะแนนลดลงจริงตามที่อ้าง รวมถึงมีเอกสารฉบับหนึ่งที่เจ้าของโพสต์อ้างว่าเกิดขึ้นหลังมีการเรียกตัวไปแจ้งให้ทราบผลการประเมิน คือวันที่ 16 แต่วันที่ 17 และ 18 พบว่ามีการระบุว่าข้อความว่าเจ้าของโพสต์ "ขาดราชการไม่ทราบสาเหตุ"
นอกจากนี้ในหนังสือลาออกที่จะให้เจ้าของโพสต์เซ็นมีการระบุเหตุผลของการลาออกว่า จะออกไปทำธุระส่วนตัว ซึ่งหลังโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไปก็มีคนเข้ามาแสดงความเห็นจำนวนมาก และส่วนใหญ่ส่งกำลังใจให้เจ้าของโพสต์
![สาวแฉผู้ใหญ่รักแกเด็ก โดน ผอ.รร. ป้ายสีให้ขาดราชการ]( "สาวแฉผู้ใหญ่รักแกเด็ก โดน ผอ.รร. ป้ายสีให้ขาดราชการ")
![สาวแฉผู้ใหญ่รักแกเด็ก โดน ผอ.รร. ป้ายสีให้ขาดราชการ]( "สาวแฉผู้ใหญ่รักแกเด็ก โดน ผอ.รร. ป้ายสีให้ขาดราชการ")
![สาวแฉผู้ใหญ่รักแกเด็ก โดน ผอ.รร. ป้ายสีให้ขาดราชการ]( "สาวแฉผู้ใหญ่รักแกเด็ก โดน ผอ.รร. ป้ายสีให้ขาดราชการ")
กำลังเป็นประเด็นดราม่าที่คนในโซเชียลให้ความสนใจ กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กหนึ่งได้มีการโพสต์ข้อความร้องขอความเป็นธรรมอ้างว่าถูกผู้ใหญ่รังแก หลังเข้าไปทำงานเป็นธุรการโรงเรียนแห่งหนึ่งได้ประมาณ 4 ปี 5 เดือน อยู่ ๆ ก็ถูกผู้อำนวยการโรงเรียนแจ้งผลการประเมินงานว่าไม่ผ่าน และมีการกล่าวหาว่าสาเหตุเพราะเธอขาดราชการ และพยายามแนะนำให้เซ็นลาออกเอง เพื่อไม่ให้เสียประวัติ
โดยเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2565 เจ้าของโพสต์โพสต์เฟซบุ๊กเล่าไทม์ไลน์ว่า ตนเองทำงานตำแหน่งธุรการที่โรงเรียนดังกล่าวมาได้ 4 ปี 5 เดือน ได้เงินเดือน 15,000 บาท กว่าจะสอบได้ยากมาก ๆ กว่าจะเรียกให้ทำงานก็นานเกือบปี แต่อยู่ ๆ วันที่ 16 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ได้ถูกเรียกให้ไปพบ ผอ. เพื่อแจ้งประเมินผลปฏิบัติงานจากคณะกรรมการ รอบที่ 1 (1 ตุลาคม - 30 เมษายน 2565) ว่าตนเองไม่ผ่านการประเมิน ซึ่งเท่ากับว่าตนเองจะไม่ถูกจ้างงานต่อ
เจ้าของโพสต์ระบุว่า ก่อนหน้านี้ที่อยู่กับ ผอ. คนเก่าไม่เคยมีปัญหาเรื่องนี้ โดย ผอ. บอกว่าจะไม่ส่งผลประเมินนี้ไปที่ สำนักงานเขตฯ แต่จะเธอลาออก เพื่อรักษาประวัติในการทำงาน พร้อมกับสั่งให้มอบหมายงานให้แล้วเสร็จภายในวันเดียวกัน ส่วนของในบ้านพักครูให้มาเก็บภายหลัง
ทั้งนี้ ตนเองขอดูคะแนนประเมินในวันที่ 17 พบว่าได้คะแนน 51.8 คะเเนน แต่พอมาดูอีกครั้งในวันที่ 18 ซึ่งเป็นวันที่ ผอ. ให้ไปเซ็นรับทราบผลการประเมิน กลับพบว่าคะแนนลดลงอีก เหลือ 49.30 คะแนน ตอนนั้นตนเองถึงกับร้องไห้ เพราะมั่นใจว่าทำงานอย่างเต็มความสามารถ ไม่เคยละเลยต่อหน้าที่ ไปไหนก็ขออนุญาตทุกครั้ง ทำงานอย่างเต็มกำลัง และเท่าที่มีความรู้ จึงตัดสินใจที่จะไม่เซ็น จึงอยากออกมาขอความยุติธรรมให้ตัวเอง
อย่างไรก็ตาม พบว่าเอกสารที่เจ้าของโพสต์แนบมานั้น ผลคะแนนลดลงจริงตามที่อ้าง รวมถึงมีเอกสารฉบับหนึ่งที่เจ้าของโพสต์อ้างว่าเกิดขึ้นหลังมีการเรียกตัวไปแจ้งให้ทราบผลการประเมิน คือวันที่ 16 แต่วันที่ 17 และ 18 พบว่ามีการระบุว่าข้อความว่าเจ้าของโพสต์ "ขาดราชการไม่ทราบสาเหตุ"
นอกจากนี้ในหนังสือลาออกที่จะให้เจ้าของโพสต์เซ็นมีการระบุเหตุผลของการลาออกว่า จะออกไปทำธุระส่วนตัว ซึ่งหลังโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไปก็มีคนเข้ามาแสดงความเห็นจำนวนมาก และส่วนใหญ่ส่งกำลังใจให้เจ้าของโพสต์
