x close

ชัชชาติ พูดแล้ว ปมซื้อบ้านหรูที่ซีแอตเทิล ไม่ถึง 72 ล้าน เผยเอาเงินมาจากไหน


         ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ชี้แจงปมโดนขุดเรื่องบ้านหรู 72 ล้านบาท ที่เมืองซีแอตเทิล สหรัฐอเมริกา เคยแจง ป.ป.ช. เมื่อ 8 ปีที่แล้ว ตอนนี้ยกให้ แสนดี ลูกชายไปแล้ว พร้อมให้ตรวจสอบเต็มที่


          จากกรณีโซเชียลมีการลือว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มีบ้านพักในเมืองซีแอตเทิล สหรัฐอเมริกา เป็นบ้านหลังใหญ่ขนาด 2 ชั้น จำนวน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ด้านหน้าและบริเวณโดยรอบ มีสนามหญ้าและต้นไม้ ซึ่งคาดว่ามูลค่าถึง 72 ล้านบาท ทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก

          ล่าสุด วันที่ 15 มิถุนายน 2565 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ระบุว่า เมื่อ 7 ปีที่แล้ว ตนได้รับมรดกที่ดินพระราม 4 ที่มารดายกให้คนละ 1 ไร่ กับ นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์


          ทั้งนี้ ตนเคยแจ้งต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไปแล้วชัดเจน และเราอยากให้ แสนดี แสนปิติ สิทธิพันธุ์ ลูกชาย มีทรัพย์สินเป็นของตัวเอง เพราะไม่รู้ว่าอนาคตเขาจะทำอาชีพอะไร ตนจึงโอนให้กับลูกชายเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ดังนั้น ที่ดินจึงเป็นทรัพย์สินของลูกชาย แต่เนื่องจาก นายแสนปิติ ยังไม่บรรลุนิติภาวะ

          จากนั้นมีคนขอเข้าซื้อที่ดินบริเวณนั้น เป็นช่วงที่ นายแสนปิติ ย้ายไปเรียนที่สหรัฐฯ พอดี โดยมีการวิเคราะห์ว่าอสังหาริมทรัพย์ขณะนั้นที่สหรัฐฯ ยังไม่แพงมาก โดยเอานำเงินนี้ไปลงทุนให้เขาเพราะดอกเบี้ยมันต่ำ ซึ่งเงินที่ขายที่ดินได้กับเงินที่ซื้อบ้านมีเงินมากพอ จนตัดสินใจซื้อด้วยราคา 1.4 ล้านดอลลาร์ ประมาณ 49 ล้านบาท โดยใส่เป็นชื่อของ นางปรมินทร์ทิยา สิทธิพันธุ์ แม่ของแสนปิติ เนื่องจาก แสนปิติ ยังไม่บรรลุนิติภาวะ


          ต่อมาเมื่อ นายแสนปิติ เรียนจบ มีความคิดจะขายบ้านหลังนี้ แต่ได้รับคำแนะนำจากนายหน้าขายบ้านว่า ให้โอนเป็นชื่อนายแสนปิติก่อน ด้วยเหตุผลเรื่องภาษี ขณะนั้น บ้านราคา 1.4 ล้านดอลลาร์ ราคาขึ้นมาเป็น 2 ล้านกว่าดอลลาร์ เรื่องนี้ ชัชชาติยอมรับว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องมาก เพราะราคาบ้านสูงขึ้น โดยสามารถตรวจสอบได้ว่าซื้อเท่าไร บ้านดังกล่าวไม่ได้ซื้อในราคา 72 ล้านบาท แต่ซื้อที่ราคาประมาณ 49 ล้านบาท

          นายชัชชาติ ยืนยันว่ามีหลักฐานตั้งแต่การยื่นที่ดินต่อ ป.ป.ช. หลักฐานการโอนที่ดินให้ลูก หลักฐานที่ศาลให้ดูแลเงินก้อนนี้ เพราะเขายังเด็ก ยังไม่บรรลุนิติภาวะ การซื้อการโอนที่มีชื่อปรากฏทั้งหมด

          "ของอเมริกามันดี มีการบันทึกข้อมูลที่เป็นสาธารณะ สามารถตรวจสอบได้ว่าซื้อเท่าไร บังเอิญเราไม่ได้ชี้แจง 8 ปีที่ผ่านมา เราไม่ได้อยู่ในการเมือง เราทำธุรกิจ จึงไม่มีข้อมูลเหล่านี้บันทึกอยู่"


           ส่วนตัวไม่มีความกังวลเรื่องการตรวจสอบ อยู่ในจุดนี้พร้อมให้ตรวจสอบ แต่กังวลเรื่องความปลอดภัย ขออย่าเผยแพร่รายละเอียดที่อยู่อาศัยซึ่งเป็นข้อมูลส่วนตัว เป็นเรื่องความปลอดภัย หากต้องการส่งต่อ รบกวนให้ช่วยลบที่อยู่ออก

           ส่วนเรื่องการโอนชื่อบ้านให้นายแสนปิติ ก่อนเลือกตั้งไม่กี่วัน นายชัชชาติ กล่าวว่า ไม่เคยคิดจะขายบ้าน เมื่อเขาเรียนจบ เมื่อเขาคิดว่าจะขายบ้าน จึงศึกษาข้อกฎหมายแล้วว่า ถ้าเป็นคนขายจะเสียภาษีที่แพงขึ้น เนื่องจากนางปรมินทร์ทิยา ไม่ได้อยู่สหรัฐฯ ต่อเนื่องนานกว่า 2 ปี จึงได้รับคำแนะนำมาว่าให้โอนบ้านเป็นชื่อ นายแสนปิติ ก่อน

          เพราะหากนายแสนปิติ เรียนต่อหรืออยู่สหรัฐฯ ต่อเกิน 2 ปี ทำให้สามารถลดภาษีได้สูงสุดกว่า 20% ลูกชายเป็นเจ้าของที่แท้จริง ไม่มีข้อมูลปกปิดอะไร ทรัพย์สินบ้านหลังนี้ไม่ต้องแจ้งต่อ ป.ป.ช. เนื่องจากมีเคยแจ้งตั้งแต่การขายที่ดินและได้โอนเงินส่วนนี้ให้ลูก ซึ่งมีรายละเอียดที่แจ้งต่อ ป.ป.ช. อยู่แล้ว


           ทั้งนี้คุณวรัทธน์ วงศ์มณีกิจ ผู้ก่อตั้งบริษัท ZocialRipple ได้มีการโพสต์ข้อความระบุว่า "ชัชชาติตอบเรื่องบ้านที่ Seattle ได้ ดูฉลาดการลงทุนมาก ซื้อบ้านเพราะลูกไปเรียน ได้มาตอนนั้น 4 ปีที่แล้ว 1.4 ล้าน ลูกกลับไทยกำลังขายทิ้ง ราคา market price 2.2 ล้าน ถ้าคิดตอนนั้นว่า USD ประมาณ 32 กว่า ๆ นี่ก็ฟันกำไรไป 30 ล้าน สบาย ๆ คุ้มโคตร ไม่เปลืองค่าเช่าบ้านลูก แถมได้กำไรจากการถืออสังหาฯ ใน US อีก"



ขอบคุณข้อมูลจาก เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand, เดลินิวส์ออนไลน์



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ชัชชาติ พูดแล้ว ปมซื้อบ้านหรูที่ซีแอตเทิล ไม่ถึง 72 ล้าน เผยเอาเงินมาจากไหน อัปเดตล่าสุด 15 มิถุนายน 2565 เวลา 17:54:04 34,563 อ่าน
TOP