หนุ่มเครียดจัดขาดทุนกับคริปโตย่อยยับ คิดสั้นบุกปล้นร้านทอง แต่ทำพลาดไปอย่างหนึ่ง ทำให้ตำรวจตามตัวเจอ และเจ้าของร้านจำหน้าได้แม่น นั่นคือ ลืมสวมหมวกปิดบังใบหน้า
จากกรณีที่มีคนร้ายบุกเดี่ยวใช้ปืนชิงทรัพย์ห้างทองแห่งหนึ่งย่านวังบูรพาภิรมย์ โดยเป็นชายสวมหน้ากากอนามัย สวมแว่นตา ไม่สวมหมวกปิดบังใบหน้า เข้ามาในร้านก่อนชักปืนข่มขู่เจ้าของร้าน จากนั้นก็ปีนข้ามเคาน์เตอร์คว้าทองคำหนัก 5 บาทจำนวน 40 เส้นแล้ววิ่งหนีไปยังถนนฝั่งตรงข้าม ขี่จักรยานยนต์ย้อนศรหนีไปทางสะพานพระปกเกล้า
ล่าสุด วันที่ 19 มิถุนายน 2565 เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมคนร้ายได้แล้ว ก่อนนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา มีของกลางคือ สร้อยคอทองคำหนัก 60 บาท มูลค่าร่วม 2 ล้านบาท
ผู้ต้องหาให้การสารภาพว่า ทำไปเพราะเกิดอาการเครียดที่ขาดทุนจากการลงทุนในคริปโตอย่างย่อยยับ ขณะเดียวกัน สาเหตุที่ตำรวจจับคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว เพราะเจ้าของร้านจดจำใบหน้าคนร้ายได้อย่างแม่นยำ เนื่องจากไม่มีการสวมหมวกปิดบังใบหน้าเลย
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
จากกรณีที่มีคนร้ายบุกเดี่ยวใช้ปืนชิงทรัพย์ห้างทองแห่งหนึ่งย่านวังบูรพาภิรมย์ โดยเป็นชายสวมหน้ากากอนามัย สวมแว่นตา ไม่สวมหมวกปิดบังใบหน้า เข้ามาในร้านก่อนชักปืนข่มขู่เจ้าของร้าน จากนั้นก็ปีนข้ามเคาน์เตอร์คว้าทองคำหนัก 5 บาทจำนวน 40 เส้นแล้ววิ่งหนีไปยังถนนฝั่งตรงข้าม ขี่จักรยานยนต์ย้อนศรหนีไปทางสะพานพระปกเกล้า
ล่าสุด วันที่ 19 มิถุนายน 2565 เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมคนร้ายได้แล้ว ก่อนนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา มีของกลางคือ สร้อยคอทองคำหนัก 60 บาท มูลค่าร่วม 2 ล้านบาท
ผู้ต้องหาให้การสารภาพว่า ทำไปเพราะเกิดอาการเครียดที่ขาดทุนจากการลงทุนในคริปโตอย่างย่อยยับ ขณะเดียวกัน สาเหตุที่ตำรวจจับคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว เพราะเจ้าของร้านจดจำใบหน้าคนร้ายได้อย่างแม่นยำ เนื่องจากไม่มีการสวมหมวกปิดบังใบหน้าเลย
