สาวดื่มเหล้ากับเพื่อนชาย 2 คน ตื่นมาโป๊เปลือย แถมมีอุจจาระบนตัว โร่แจ้งตำรวจจับ แต่เรื่องกลับตาลปัตร คดีพลิก

เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2565 เว็บไซต์แอปเปิลเดลี่ เผยเรื่องราวคดีความของหญิงสาวรายหนึ่งในไต้หวัน เธอได้ฟ้องดำเนินคดีเพื่อนชาย 2 คน โดยกล่าวหาว่าพวกเขาวางยาและฉวยโอกาสล่วงละเมิดทางเพศเธอ ภายหลังจากที่ไปดื่มแอลกอฮอล์สังสรรค์ด้วยกัน ทว่าหลังจากมีการสืบสวนกลับพบว่า เหตุการณ์ทุกอย่างกลับตาลปัตรหมด
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา รายงานการฟ้องร้องจากทางหญิงสาว ระบุว่า เธอออกไปดื่มไวน์กับเพื่อนชาย 2 คน ชื่อว่า หลิน และหวัง (นามสมมุติ) หลังจากนั้นทั้งหมดก็ไปต่อกันที่บูทีคโมเทล ย่านถนนลินเซินเหนือ ในเมืองไทเป หลังจากดื่มต่อกันประมาณ 10 นาที เธอก็ภาพตัดหลับไป จนกระทั่งตื่นขึ้นมาก็ต้องช็อก
หญิงสาวมีสภาพเปลือยกายอยู่ในห้องน้ำ มีอาเจียน
และอุจจาระเปรอะเปื้อนไปทั่วร่างกาย หลังจากนั้น
เธอตรวจสอบโทรศัพท์มือถือตัวเองพบว่า
ภาพถ่ายเซลฟี่นู้ดของเธอที่เก็บไว้ในเครื่อง ถูกส่งไปยังโทรศัพท์ของหลิน
เธอสับสนมาก ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกไม่ดี
เธอรู้สึกว่าดื่มแอลกอฮอล์ไปเพียงนิดเดียว แต่ทำไมเมามากเช่นนั้น
หลังจากคิดไปคิดมา เธอก็เชื่อว่า หลินและหวัง มีเจตนาไม่ดีกับเธอ สงสัยว่าในระหว่างที่เธอลุกไปเข้าห้องน้ำ พวกเขาแอบวางยาเธอในแก้วไวน์ หลังจากเธอเมาไม่ได้สติก็จับเธอแก้ผ้าแล้วทำมิดีมิร้าย จนทำให้มีอุจาระเปื้อนตัว รวมไปถึงอาเจียนที่เลอะทั่วตัวผิดปกติ เธอจึงตัดสินใจแจ้งความฟ้องเพื่อนชายทั้งสองคน
อย่างไรก็ดี หลินและหวัง ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาอย่างชัดเจน โดยหลินเผยว่า พวกเขาและหญิงสาวไปดื่มไวน์ต่อกันที่โรงแรม และด้วยความที่กลัวว่าจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด จึงได้เปิดห้อง 2 ห้อง ห้องหนึ่งของหญิงสาว ส่วนอีกห้องเขานอนกับหวัง
ในตอนแรก ทั้งสามคนไปดื่มอยู่ที่ห้องเดียวกัน แต่สุดท้าย หญิงสาวดื่มมากเกินไป เธอจึงไปเข้าห้องน้ำและอาเจียนไปทั่ว หลินและหวังเห็นก็รู้สึกผะอืดผะอมจึงกลับห้องไปพักผ่อน หลังจากนั้นไม่นาน หญิงสาวก็ได้ไลน์มาหาหลิน เขาจึงกลับไปดูเพื่อนด้วยความเป็นห่วง แต่ไม่พบเธออยู่ในห้อง
หลินจึงเข้าไปดูในห้องน้ำ ก่อนจะพบหญิงสาวอยู่ในสภาพไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้าท่อนล่าง แถมยังมีอุจจาระก้อนโตเลอะเทอะ เขาแทบจะอาเจียนออกมา จึงตัดสินใจกลับไปนอนที่ห้องของตัวเอง โดยยืนยันว่า "พวกเขาไม่ได้วางยาเธอ ไม่ได้ล่วงละเมิดทางเพศ หรือขืนใจเธอ เธอถอดเสื้อผ้าเอง"
นอกจากนี้ จากผลการตรวจสอบทางการแพทย์พบว่า ในเลือดและปัสสาวะของเธอยังพบเพียงสารประเภทคาเฟอีน และนิโคติน ไม่พบปฏิกิริยาของยาอื่นใดที่เป็นพิษ รวมทั้งไม่พบบาดแผลทางร่างกาย หรือบาดแผลที่เกิดจากการต่อสู้ใด ๆ
ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะพิสูจน์ได้ว่า ชายทั้งสองมีความผิดตามข้อกล่าวหาของหญิงสาว ทางอัยการจึงไม่ดำเนินคดี หญิงสาวไม่พอใจ และได้ยื่นเรื่องให้พิจารณาใหม่ แต่สุดท้ายสำนักงานอัยการสูงสุดมีความเห็นว่า การสอบสวนคดีทั้งหมดเสร็จสิ้นแล้ว จึงยกฟ้องในที่สุด
ขอบคุณข้อมูลจาก appledaily.com

เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา รายงานการฟ้องร้องจากทางหญิงสาว ระบุว่า เธอออกไปดื่มไวน์กับเพื่อนชาย 2 คน ชื่อว่า หลิน และหวัง (นามสมมุติ) หลังจากนั้นทั้งหมดก็ไปต่อกันที่บูทีคโมเทล ย่านถนนลินเซินเหนือ ในเมืองไทเป หลังจากดื่มต่อกันประมาณ 10 นาที เธอก็ภาพตัดหลับไป จนกระทั่งตื่นขึ้นมาก็ต้องช็อก
หลังจากคิดไปคิดมา เธอก็เชื่อว่า หลินและหวัง มีเจตนาไม่ดีกับเธอ สงสัยว่าในระหว่างที่เธอลุกไปเข้าห้องน้ำ พวกเขาแอบวางยาเธอในแก้วไวน์ หลังจากเธอเมาไม่ได้สติก็จับเธอแก้ผ้าแล้วทำมิดีมิร้าย จนทำให้มีอุจาระเปื้อนตัว รวมไปถึงอาเจียนที่เลอะทั่วตัวผิดปกติ เธอจึงตัดสินใจแจ้งความฟ้องเพื่อนชายทั้งสองคน
อย่างไรก็ดี หลินและหวัง ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาอย่างชัดเจน โดยหลินเผยว่า พวกเขาและหญิงสาวไปดื่มไวน์ต่อกันที่โรงแรม และด้วยความที่กลัวว่าจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด จึงได้เปิดห้อง 2 ห้อง ห้องหนึ่งของหญิงสาว ส่วนอีกห้องเขานอนกับหวัง
ในตอนแรก ทั้งสามคนไปดื่มอยู่ที่ห้องเดียวกัน แต่สุดท้าย หญิงสาวดื่มมากเกินไป เธอจึงไปเข้าห้องน้ำและอาเจียนไปทั่ว หลินและหวังเห็นก็รู้สึกผะอืดผะอมจึงกลับห้องไปพักผ่อน หลังจากนั้นไม่นาน หญิงสาวก็ได้ไลน์มาหาหลิน เขาจึงกลับไปดูเพื่อนด้วยความเป็นห่วง แต่ไม่พบเธออยู่ในห้อง
หลินจึงเข้าไปดูในห้องน้ำ ก่อนจะพบหญิงสาวอยู่ในสภาพไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้าท่อนล่าง แถมยังมีอุจจาระก้อนโตเลอะเทอะ เขาแทบจะอาเจียนออกมา จึงตัดสินใจกลับไปนอนที่ห้องของตัวเอง โดยยืนยันว่า "พวกเขาไม่ได้วางยาเธอ ไม่ได้ล่วงละเมิดทางเพศ หรือขืนใจเธอ เธอถอดเสื้อผ้าเอง"
นอกจากนี้ จากผลการตรวจสอบทางการแพทย์พบว่า ในเลือดและปัสสาวะของเธอยังพบเพียงสารประเภทคาเฟอีน และนิโคติน ไม่พบปฏิกิริยาของยาอื่นใดที่เป็นพิษ รวมทั้งไม่พบบาดแผลทางร่างกาย หรือบาดแผลที่เกิดจากการต่อสู้ใด ๆ
ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะพิสูจน์ได้ว่า ชายทั้งสองมีความผิดตามข้อกล่าวหาของหญิงสาว ทางอัยการจึงไม่ดำเนินคดี หญิงสาวไม่พอใจ และได้ยื่นเรื่องให้พิจารณาใหม่ แต่สุดท้ายสำนักงานอัยการสูงสุดมีความเห็นว่า การสอบสวนคดีทั้งหมดเสร็จสิ้นแล้ว จึงยกฟ้องในที่สุด
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก appledaily.com