สันธนะ แฉยับ ปมทลายบ่อนรัชดาฯ อ้างเฮีย ฮ. ญาติอดีตตำรวจใหญ่เป็นเจ้าของ มีสารวัตร ท. คอยประสานงานในการจ่ายส่วยเดือนละ 4.8 ล้าน
จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บุกทลายบ่อนการพนันย่านรัชดาภิเษก ซึ่งสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ 52 คน และแจ้งข้อหา ร่วมกันลักลอบเล่นการพนัน (บาคาร่า) พนันเอาทรัพย์สินกันโดยผิดกฎหมายส่งพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ล่าสุด (28 มิถุนายน 2565) ไทยพีบีเอส รายงานว่า นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล ได้เดินทางไปยื่นหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจนครบาลหลังถูกบุคคลแอบอ้างชื่อไปเรียกรับผลประโยชน์กรณีบ่อนการพนันดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวจ้อง และไม่ได้เป็นคนกลางไกล่เกลี่ยระหว่างบ่อนกับเจ้าหน้าที่
นายสันธนะ อ้างว่าบ่อนดังกล่าวเป็นบ่อนระดับวีไอพี มี "เฮีย ฮ." เป็นเจ้าของ ซึ่งเฮีย ฮ. เป็นญาติอดีตนายตำรวจผู้ใหญ่ เริ่มเปิดตั้งแต่วันที่ 9-23 มิถุนายน 2565 โดยมี สารวัตร ท. เป็นคนประสานงานให้มีการจ่ายเงินในลักษณะตั๋วเดือนให้กับเจ้าหน้าที่ จ่ายเงินโต๊ะละ 800,000 บาท จากทั้งหมด 6 โต๊ะ รวมกว่า 4.8 ล้าน และยังมีตั๋วนอกส่งให้กับหน่วยงานอื่นไม่น้อยกว่า 17 หน่วยงาน
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการใช้นโยบายปราบปรามอบายมุขอย่างเข้มงวด จึงมีการประสานให้บ่อนดังกล่าวหยุดดำเนินการชั่วคราว แต่เมื่อไม่ปฏิบัติตาม จึงนำมาสู่การจับกุม
นายสันธนะ ระบุอีกว่า ผู้ต้องหาทั้ง 52 คน ที่ถูกจับกุมนั้นไม่ใช่ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยมีลูกค้าวีไอพีไม่เกิน 10 คน และมีเงินหมุนเวียนแต่ละวันหลายร้อยล้านบาท ขอให้ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลตรวจสอบรายละเอียดและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด
ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยพีบีเอส
จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บุกทลายบ่อนการพนันย่านรัชดาภิเษก ซึ่งสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ 52 คน และแจ้งข้อหา ร่วมกันลักลอบเล่นการพนัน (บาคาร่า) พนันเอาทรัพย์สินกันโดยผิดกฎหมายส่งพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ล่าสุด (28 มิถุนายน 2565) ไทยพีบีเอส รายงานว่า นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล ได้เดินทางไปยื่นหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจนครบาลหลังถูกบุคคลแอบอ้างชื่อไปเรียกรับผลประโยชน์กรณีบ่อนการพนันดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวจ้อง และไม่ได้เป็นคนกลางไกล่เกลี่ยระหว่างบ่อนกับเจ้าหน้าที่
นายสันธนะ อ้างว่าบ่อนดังกล่าวเป็นบ่อนระดับวีไอพี มี "เฮีย ฮ." เป็นเจ้าของ ซึ่งเฮีย ฮ. เป็นญาติอดีตนายตำรวจผู้ใหญ่ เริ่มเปิดตั้งแต่วันที่ 9-23 มิถุนายน 2565 โดยมี สารวัตร ท. เป็นคนประสานงานให้มีการจ่ายเงินในลักษณะตั๋วเดือนให้กับเจ้าหน้าที่ จ่ายเงินโต๊ะละ 800,000 บาท จากทั้งหมด 6 โต๊ะ รวมกว่า 4.8 ล้าน และยังมีตั๋วนอกส่งให้กับหน่วยงานอื่นไม่น้อยกว่า 17 หน่วยงาน
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการใช้นโยบายปราบปรามอบายมุขอย่างเข้มงวด จึงมีการประสานให้บ่อนดังกล่าวหยุดดำเนินการชั่วคราว แต่เมื่อไม่ปฏิบัติตาม จึงนำมาสู่การจับกุม
นายสันธนะ ระบุอีกว่า ผู้ต้องหาทั้ง 52 คน ที่ถูกจับกุมนั้นไม่ใช่ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยมีลูกค้าวีไอพีไม่เกิน 10 คน และมีเงินหมุนเวียนแต่ละวันหลายร้อยล้านบาท ขอให้ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลตรวจสอบรายละเอียดและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด
ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยพีบีเอส
