กรมบัญชีกลาง ปลดล็อกข้าราชการที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศ สามารถเบิกค่าใช้จ่ายได้ - ชุดราตรีก็เบิกได้ชุดละไม่เกิน 15,000 บาท สำหรับเข้าร่วมงาน เพื่อแต่งตัวให้ถูกกาลเทศะของแต่ละประเทศ
![ชุดราตรี]( "ชุดราตรี")
วันที่ 7 กรกฎาคม 2565 กรุงเทพธุรกิจ รายงานว่า น.ส.วารี แว่นแก้ว รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เผยว่า กรมบัญชีกลางได้ปรับปรุงระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2565 เพื่อให้สอดคล้องกลับพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2560 โดยตัดตำแหน่งข้าราชการฝ่ายตุลาการ ฝ่ายอัยการ และปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้เกิดความเหมาะสมชัดเจนในทางปฏิบัติมากยิ่งขึ้นในหลายประเด็น โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565
![ชุดราตรี]( "ชุดราตรี")
ตามรายงานข่าวระบุว่าเหตุผลในการแก้ไขเพื่อให้การทำงานมีความคล่องตัว และสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันมากขึ้น ส่วนสาระสำคัญที่มีการแก้ไขมีดังนี้
- เพิ่มประเภทเครื่องแต่งกายราตรีสโมสรสำหรับผู้เดินทางไปราชการประจำในต่างประเทศ เนื่องจากระยะหลังมีข้าราชการผู้หญิงไปประจำต่างประเทศมากขึ้น จึงเพิ่มประเภทเครื่องแต่งกายให้สอดคล้องกับกาลเทศะ แต่ไม่ได้มีการเพิ่มวงเงิน หรือจำนวนชุดที่เบิกจ่ายได้
- ผู้เดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราว มีความจำเป็นต้องเดินทางล่วงหน้าก่อนเริ่มงาน และเดินทางกลับหลังเสร็จงานเกินกว่าระยะเวลาที่กำหนดไว้ในบัญชีหมายเลข 1 ให้ขออนุมัติระยะเวลาจากปลัดกระทรวงเจ้าสังกัด หรือผู้บังคับบัญชาที่มีอำนาจเช่นเดียวกับปลัดกระทรวง
- กรณีเดินทางไปราชการในท้องที่ ที่มีค่าครองชีพสูงหรือเป็นแหล่งท่องเที่ยวให้เบิกจ่ายค่าเช่าที่พักในลักษณะจ่ายจริง สูงกว่าอัตราที่กำหนดเพิ่มขึ้นอีกไม่เกิน 25%
- แก้ไขหลักการเบิกค่าใช้จ่ายสมทบ ประเด็นเกี่ยวกับการเบิกค่าบัตรโดยสารเครื่องบินตามสิทธิของผู้เดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราวด้วย
ทั้งนี้ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ที่ลงประกาศเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2565 ได้เผยแพร่ ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2565 โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการเพื่อให้เกิดความเหมาะสม ชัดเจนในการปฏิบัติ และสอดคล้องกับพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2560
โดยข้อความในส่วนของการเบิกค่าชุดราตรีนั้น ระบุว่า
"ข้าราชการผู้ดำรงตำแหน่งตาม (1) ยกเว้นคู่สมรส และบุตร ถ้ามีความจำเป็นต้องใช้เครื่องแต่งตัวราตรีสโมสร (White tie หรือ Black tie) หรือเครื่องแต่งตัวราตรีสโมสรแบบสตรีหรือเครื่องแต่งตัวมอร์นิ่งโค้ตเพราะมีหน้าที่ต้องเข้างานพิธีต่าง ๆ ตามประเพณีของประเทศนั้น ให้ปลัดกระทรวงเจ้าสังกัดเป็นผู้ใช้ดุลพินิจพิจารณาอนุมัติให้เบิกค่าเครื่องแต่งตัวดังกล่าวอย่างละ 1 ชุด เพิ่มขึ้นอีกได้เท่าที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินชุดละ 15,000 บาท สำหรับส่วนราชการใดที่ไม่มีปลัดกระทรวงให้ผู้บังคับบัญชาที่มีอำนาจเช่นเดียวกับปลัดกระทรวง
เป็นผู้พิจารณาอนุมัติ"
ขอบคุณข้อมูลจาก กรุงเทพธุรกิจ, ราชกิจจานุเบกษา
วันที่ 7 กรกฎาคม 2565 กรุงเทพธุรกิจ รายงานว่า น.ส.วารี แว่นแก้ว รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เผยว่า กรมบัญชีกลางได้ปรับปรุงระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2565 เพื่อให้สอดคล้องกลับพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2560 โดยตัดตำแหน่งข้าราชการฝ่ายตุลาการ ฝ่ายอัยการ และปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้เกิดความเหมาะสมชัดเจนในทางปฏิบัติมากยิ่งขึ้นในหลายประเด็น โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565
ตามรายงานข่าวระบุว่าเหตุผลในการแก้ไขเพื่อให้การทำงานมีความคล่องตัว และสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันมากขึ้น ส่วนสาระสำคัญที่มีการแก้ไขมีดังนี้
- เพิ่มประเภทเครื่องแต่งกายราตรีสโมสรสำหรับผู้เดินทางไปราชการประจำในต่างประเทศ เนื่องจากระยะหลังมีข้าราชการผู้หญิงไปประจำต่างประเทศมากขึ้น จึงเพิ่มประเภทเครื่องแต่งกายให้สอดคล้องกับกาลเทศะ แต่ไม่ได้มีการเพิ่มวงเงิน หรือจำนวนชุดที่เบิกจ่ายได้
- ผู้เดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราว มีความจำเป็นต้องเดินทางล่วงหน้าก่อนเริ่มงาน และเดินทางกลับหลังเสร็จงานเกินกว่าระยะเวลาที่กำหนดไว้ในบัญชีหมายเลข 1 ให้ขออนุมัติระยะเวลาจากปลัดกระทรวงเจ้าสังกัด หรือผู้บังคับบัญชาที่มีอำนาจเช่นเดียวกับปลัดกระทรวง
- กรณีเดินทางไปราชการในท้องที่ ที่มีค่าครองชีพสูงหรือเป็นแหล่งท่องเที่ยวให้เบิกจ่ายค่าเช่าที่พักในลักษณะจ่ายจริง สูงกว่าอัตราที่กำหนดเพิ่มขึ้นอีกไม่เกิน 25%
- แก้ไขหลักการเบิกค่าใช้จ่ายสมทบ ประเด็นเกี่ยวกับการเบิกค่าบัตรโดยสารเครื่องบินตามสิทธิของผู้เดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราวด้วย
ทั้งนี้ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ที่ลงประกาศเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2565 ได้เผยแพร่ ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2565 โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการเพื่อให้เกิดความเหมาะสม ชัดเจนในการปฏิบัติ และสอดคล้องกับพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2560
โดยข้อความในส่วนของการเบิกค่าชุดราตรีนั้น ระบุว่า
"ข้าราชการผู้ดำรงตำแหน่งตาม (1) ยกเว้นคู่สมรส และบุตร ถ้ามีความจำเป็นต้องใช้เครื่องแต่งตัวราตรีสโมสร (White tie หรือ Black tie) หรือเครื่องแต่งตัวราตรีสโมสรแบบสตรีหรือเครื่องแต่งตัวมอร์นิ่งโค้ตเพราะมีหน้าที่ต้องเข้างานพิธีต่าง ๆ ตามประเพณีของประเทศนั้น ให้ปลัดกระทรวงเจ้าสังกัดเป็นผู้ใช้ดุลพินิจพิจารณาอนุมัติให้เบิกค่าเครื่องแต่งตัวดังกล่าวอย่างละ 1 ชุด เพิ่มขึ้นอีกได้เท่าที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินชุดละ 15,000 บาท สำหรับส่วนราชการใดที่ไม่มีปลัดกระทรวงให้ผู้บังคับบัญชาที่มีอำนาจเช่นเดียวกับปลัดกระทรวง
เป็นผู้พิจารณาอนุมัติ"
ขอบคุณข้อมูลจาก กรุงเทพธุรกิจ, ราชกิจจานุเบกษา
