ประวัติ ชินโซ อาเบะ ทายาทตระกูลการเมือง นายกญี่ปุ่น สู่วันถูกลอบยิง

เปิดประวัติ ชินโซ อาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรี จากไปด้วยวัย 67 ปี ชีวิตบนเส้นทางการเมืองตระกูลใหญ่ ผลงานที่น่าจดจำ และโมเมนต์ประทับใจคนทั่วโลก

ภาพจาก KAZUHIRO NOGI / AFP

เป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของแวดวงการเมืองญี่ปุ่น กับเหตุการณ์ที่ นายชินโซ อาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น ถูกลอบสังหารขณะช่วยลูกพรรคหาเสียง ที่จังหวัดนารา ทางภาคตะวันตกของญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2565 ส่งผลให้หนึ่งในนักการเมืองผู้เป็นตำนานยิ่งใหญ่ ถึงแก่อสัญกรรมด้วยวัย 67 ปี

ประวัติส่วนตัว

ชินโซ อาเบะ เกิดเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2497 ที่เมืองนางาโตะ จังหวัดยามากุจิ ศึกษาด้านรัฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเซเกะ เมื่อปี 2520 จากนั้นจึงไปศึกษาระยะสั้นเป็นเวลา 3 ภาคการศึกษา เกี่ยวกับนโยบายสาธารณะ ที่มหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย

ภายหลังจบการศึกษา ชินโซ อาเบะ เข้าทำงานกับบริษัทโคเบะสตีล และได้ลาออกในปี 2525 เพื่อมุ่งหน้าสู่เส้นทางการเมือง ได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในจังหวัดยามากูชิ ซึ่งเดิมเคยเป็นของผู้เป็นพ่อ

ฉายาเจ้าชายแห่งตระกูลการเมือง

ชินโซ อาเบะ มีฉายาว่า เจ้าชาย เนื่องจากครอบครัวของเขานั้นคือตระกูลใหญ่ทางการเมืองจากจังหวัดยามากุจิ โดยคุณตาของเขานั้นคือ โนบุสุเกะ คิชิ อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ที่ช่วยวางรากฐานก่อตั้งพรรค LDP ส่วนคุณปู่และพ่อนั้นก็เป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรค LDP เช่นกัน

คุณพ่อ ชินโซ อาเบะ คือ ชินทาโร อาเบะ เคยดำรงตำแหน่งอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ ซึ่งทั้งคุณพ่อและอาเบะ ต่างมีนโยบายการเมืองแบบอนุรักษนิยม หรือถูกมองว่าเป็นกลุ่มชาตินิยมฝ่ายขวา เขาเป็นสมาชิกของนิปปงไคจิ และมีทัศนะแบบแก้ไขประวัติศาสตร์ (revisionist) ซึ่งมักไม่ยอมรับประวัติศาสตร์ที่เสื่อมเสียในอดีตของญี่ปุ่น

เส้นทางการเมือง

          นายอาเบะ ได้รับเลือกตั้งทั่วไปในปี 2536 หลังจากการเสียชีวิตของคุณพ่อ และเริ่มเข้ามามีอิทธิพลในแวดวงการเมืองของญี่ปุ่นตั้งแต่นั้น ในฐานะรองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และตำแหน่งหัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐบาลในเดือนกันยายนปี 2548

          เขาขึ้นมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครั้งแรก ในวัย 52 ปี เมื่อปี 2549 ทำให้เขากลายเป็นนายกรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุดของญี่ปุ่น นับตั้งแต่ยุคหลังสงครามโลก หลังจากนั้น 1 ปีให้หลัง พรรค LDP ได้เสียเก้าอี้ในการเลือกตั้ง ส.ว. และนายอาเบะได้ลาออกจากตำแหน่งจากปัญหาสุขภาพ

          อย่างไรก็ตาม ต่อมาปัญหาสุขภาพของนายอาเบะค่อย ๆ ดีขึ้น เขาได้กลับมานั่งตำแหน่งประธานพรรค LDP เป็นสมัยที่ 2 ในเดือนกันยายนปี 2555 ก่อนได้รับชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้ง ส.ส. และครองตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกสมัย ต่อมาอาเบะยังคงแสดงความสามารถในฐานะผู้นำได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการนำพรรค LPD คว้าชัยในการเลือกตั้งอย่างขาดลอยทั้งในปี 2557 และ 2563 และถือเป็นผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่ยาวนานที่สุดของญี่ปุ่น

            อย่างไรก็ตาม ในปี 2563 นายอาเบะได้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องมาจากปัญหาสุขภาพ แต่ยังคงเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในพรรค LDP

นโยบายและผลงาน

          ชินโซ อาเบะ ขึ้นชื่อในเรื่องนโยบายเศรษฐกิจที่ได้รับฉายาว่า "อาเบะโนมิกส์" ซึ่งผ่อนคลายนโยบายการเงิน กระตุ้นการคลัง และปฏิรูปโครงสร้างใหม่ มาตรการเหล่านี้ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งวาระแรก แต่การชะลอตัวในช่วงเวลาต่อมาทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับประสิทธิผลของอาเบะโนมิกส์

          ขณะเดียวกัน นายอาเบะ เป็นที่รู้จักจากท่าทีที่ใฝ่สงครามต่อนโยบายต่างประเทศและกลาโหม เขาได้พยายามที่จะหาทางแก้ไข้รัฐธรรมนูญใฝ่สันติที่เกิดขึ้นในช่วงหลังสงครามของญี่ปุ่นมาเป็นเวลานานแล้ว ในปี 2558 เขาได้ผลักดันสิทธิ์ในการร่วมป้องกันตัวเอง (collective self-defence) ซึ่งทำให้ญี่ปุ่นสามารถส่งทหารไปต่างประเทศเพื่อป้องกันตัวเองและพันธมิตรจากการโจมตีได้ เป้าหมายที่ใหญ่กว่านั้นคือ การปรับปรุงรัฐธรรมนูญให้ญี่ปุ่นมีกองทัพได้ แต่ยังคงไม่สำเร็จ

          นอกจากนี้ ชินโซ อาเบะ ยังดำเนินนโยบายเชิงรุกต่าง ๆ เพื่อฟื้นฟูภาพลักษณ์ญี่ปุ่นในเวทีโลก เช่น ผลักดันจนกรุงโตเกียวได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกปี 2020 เป็นต้น

ภาพจาก KAZUHIRO NOGI / AFP

ชีวิตส่วนตัว

          ชินโซ อาเบะ แต่งงานกับ อากิเอะ มัตสึซากิ บุตรสาวของอดีตผู้บริหารบริษัทโมรินางะ หนึ่งในบริษัทผลิตขนมหวานที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ทั้งคู่สมรสกันในปี 2530 แต่ไม่มีบุตร-ธิดาด้วยกัน

          หลังจากการสมรสกับ อากิเอะ ทำงานเป็นนักจัดรายการวิทยุในช่วงปี 2533 โดยจัดรายการที่บ้านเกิดของสามีที่ชิโมะโนะเซกิ จนมีชื่อเสียงในนามของดีเจอักกี (Akky) โดยอากิเอะเป็นภริยาของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่มีความกล้าแสดงจุดยืน เช่น ต่อต้านการใช้พลังงานนิวเคลียร์ หรือ ร่วมงานเดินขบวนของกลุ่ม LGBTQ รวมทั้งยังมักโพสต์เรื่องราวที่น่าสนใจในเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมส่วนตัวอยู่เสมอ

            ทั้งนี้ พบว่าเมื่อเดือนเมษายน 2565 อากิเอะ ยังได้ลงภาพย้อนความหลังสมัยที่สามีกำลังช่วยพ่อของเขาหาเสียงเลือกตั้ง ขณะที่เขายังเป็นหนุ่มใส ๆ อายุ 26 ปี ซึ่งก็ได้เรียกรอยยิ้มจากชาวเน็ตจำนวนไม่น้อย

ภาพจาก Instagram akieabe

หลายโมเมนต์ที่น่าประทับใจต่อชาวโลก

หนึ่งในภาพจำของ ชินโซ อาเบะ ในสายตาชาวโลก คงหนีไม่พ้นการปรากฏตัวในชุดสูทสีน้ำเงิน ยืนท่ามกลางสายฝน สวมหมวกของ ซูเปอร์มาริโอ ตัวละครจากวิดีโอเกมยอดฮิต ในพิธีปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ริโอ เกมส์ ที่ประเทศบราซิล เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2559 ซึ่งถือเป็นการประกาศศักดา ป็อบคัลเจอร์ ของประเทศญี่ปุ่นถึงชาวโลกอย่างแท้จริง

นอกจากนี้ ภาพของ ชินโซ อาเบะ เมื่อเดือนเมษายน 2564 ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรี กับใบหน้ายิ้มแย้มยืนถือสับปะรดไต้หวัน เป็นการส่งกำลังใจให้กับชาวไต้หวันหลังประสบปัญหาถูกจีนสั่งแบน จนขณะนั้นคนไต้หวันต่างรู้สึกซาบซึ้งใจในการสนับสนุนของเขา และปัจจุบันภาพนี้ได้เป็นไวรัลอีกครั้งหลังข่าวการจากไปของนักการเมืองชื่อดังรายนี้ หลายคนถือโอกาสนี้ในการขอบคุณและไว้อาลัย พร้อมจะจดจำภาพที่น่าประทับใจนี้ไว้ตลอดไป