สาวมนุษย์เงินเดือน วัย 25 ปี แชร์ประสบการณ์ทำงาน 4 เดือน เปลี่ยนงาน 4 ครั้ง ปัจจุบันทำงานแห่งที่ 4 เจอกดดัน ด่าหนักทุกวันจนเสียสุขภาพจิต คล้ายซึมเศร้าอ่อน ๆ จะลาออกอีกครั้ง จะดูเป็นคนขี้แพ้ไหม
ภาพจาก AtimeOnline
รายการพุธทอล์คพุธโทรของ EFM94 ดีเจเผือก ดีเจไตเติ้ล และดีเจต้นหอม รับสายหน้าไมค์จากคุณเอส (นามสมมุติ) อายุ 25 ปี โทร. มาขอคำปรึกษาเรื่องการงาน เนื่องจากภายใน 4 เดือนที่ผ่านมา เปลี่ยนงาน 3 บริษัทแล้ว ปัจจุบันกำลังทำงานแห่งที่ 4 แต่ก็เกิดปัญหาและความกดดันอีก
ประวัติทำงานในช่วง 4 เดือนนี้
ทำงานที่ 2 ไปทำงานได้สักพัก ทราบมาว่าบริษัทกำลังจะย้ายสาขาไปต่างจังหวัด เลยตัดสินใจเปลี่ยน ทางบริษัทก็เคารพการตัดสินใจของเรา
ทำงานที่ 3 ตอนสัมภาษณ์ทางบริษัทไม่ได้แจ้งว่าจะต้องใช้ภาษาอังกฤษเยอะ แต่พอไปทำงานจริงคือ ต้องใช้ภาษาอังกฤษแบบเป็นหลัก เข้าไปก็ต้องทำเอกสารภาษาอังกฤษหมดเลย 4 แผ่น เป็นภาษาแบบเป็นทางการด้วย ซึ่งตัวเองไม่ได้เก่งขนาดนั้นเลยตัดสินใจลาออก สัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษก็จริง แต่เราแจ้งแล้วว่าเราได้แค่การพูดสื่อสาร ทางบริษัทก็เข้าใจว่าพลาดเองที่ตอนสัมภาษณ์เขาไม่ได้แจ้งชัดเจน
ทำงานที่ 4 ยื่นสมัครตำแหน่งหนึ่ง แต่ได้เข้าไปทำตำแหน่งผู้จัดการ ซึ่งเคยทำงานสายงานนี้มา 4 ปีแล้ว แต่เป็นตำแหน่งลูกน้องที่ทำหน้าที่เฉพาะของตัวเอง แต่ตำแหน่งผู้จัดการคือ ต้องทำเป็นทั้งหมดในสายงานนั้น ๆ ซึ่งเราไม่มีประสบการณ์ ความจริงต้องรับคนที่อายุ 30-40 คนขึ้นไป
เจอปัญหาอีกแล้ว
ส่วนเรื่องเงินเดือน คุณเอสบอกว่าได้ค่าตอบแทนในระดับที่พอใจ ถ้าให้เทียบบริษัทอื่นก็อาจจะได้มากกว่านี้ หรือน้อยกว่านี้ แต่ความกดดันคงไม่เท่านี้ อยากรู้ว่าจะลาออกดีไหม ตอนนี้ทำงานที่นี่มา 2 เดือนกว่า ใจหนึ่งอยากทำงานให้ครบ 1 ปี เพราะอยากได้บ้าน จะสามารถยื่นกู้บ้านได้ง่ายกว่า แต่เมื่อเจอความกดดันแบบนี้จึงไม่รู้จะทำอย่างไร
ก่อนหน้าที่จะเปลี่ยนงานรัว ๆ คือ ทำงานกับบริษัทใหญ่มา 2 แห่ง ระยะเวลาที่ละประมาณ 2 ปี ไม่มีปัญหาอะไร และไม่ได้เป็นการลาออกด้วย เหมือนเป็นการโอนย้ายไป กระทั่งออกจากแห่งที่ 2 ก็เปลี่ยนงานต่อเนื่องเลย
3 ดีเจ ฟันธง ! เลือกเซฟโซนไม่ผิด หรือคิดบวกเพื่อความก้าวหน้า
ดีเจต้นหอม ถามว่าคือว่าจะแก้ปัญหานั้นที่บริษัทให้ทำได้ไหม คุณเอส ตอบว่า มันเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่เราคิดว่าสามารถแก้ปัญหาได้ แต่คาดว่าต้องใช้เวลา 6 เดือน - 1 ปี ในการแก้ปัญหา แต่ทางบริษัทบังคับให้เราแก้ปัญหาให้เสร็จก่อนผ่านโปร คือประมาณ 4 เดือน ไม่มีการเทรนหรือสอนเบื้องต้นให้ด้วย
ภาพจาก AtimeOnline
ดีเจเผือก เข้าใจได้กับสาเหตุที่ลาออกแต่ละแห่ง แต่ที่แรก ถ้าเป็นพี่อาจจะอยู่ดูลู่ทางไปอีกสักหน่อยว่ามันจริงไหมที่เขาว่า แต่ก็ชอบน้องที่ตัดสินใจเร็ว ที่ผ่านมาพี่เคยบอกตลอดว่า อยู่ที่ไหนควรอยู่ให้ได้ 1 ปี เรซูเม่ก็จะโอเคหน่อย ถือว่าเรามีความอดทนทำงานแล้ว แต่ปัจจุบันโลกเปลี่ยนไป คนเราต้องทำงานเพื่อเลี้ยงปากท้อง เงินเดือนไม่ได้ก็ต้องออก ส่วนที่ปัจจุบัน ถ้ามีบริษัทอื่นที่ให้เงินได้เท่ากันหรือมากกว่า ก็ไม่แปลกที่คนเราจะเลือกเซฟโซนให้ตัวเอง มองว่าไม่ขี้แพ้ ส่วนจะสู้ไหมแล้วแต่ ที่อื่นดีกว่าก็ไป
ภาพจาก AtimeOnline
ดีเจไตเติ้ล บอกว่าถ้าจะออกเพราะเรื่องที่เล่ามามองว่าลาออกที่ 4 ไม่ขี้แพ้ แต่ต้องอยู่ที่ว่าเราชอบงานนี้หรือเปล่า ซึ่งเอสบอกว่าก็สามารถทำได้ แรก ๆ รู้สึกไม่อยากทำงาน แต่ตอนนี้ปลงแล้ว ดีเจไตเติ้ล บอกอีกว่าถ้าเขามอบหมายตำแหน่งและภาระให้ขนาดนี้ แสดงว่าเขาต้องเห็นอะไรในตัวเรา อยากให้มองว่านี่เป็นโอกาสที่เราจะได้พัฒนา และก้าวกระโดดในหน้าที่การงานอย่างมาก แต่เรื่องสุขภาพก็สำคัญ แต่ไปชั่งน้ำหนักกันดูว่า รับได้ไหมกับสุขภาพจิตที่เสียไป ยังไงเขาก็ไม่เอาเอสออกหรอก
ภาพจาก AtimeOnline
ดีเจเผือก ยังบอกอีกว่าถ้ามั่นใจว่าเขาไม่ให้เราออกแน่ ๆ ตอนเหนื่อยมาก ๆ ลองเดินไปบอกเขาเลยว่าไม่ไหวจะขอลาออกแล้ว ยังไงก็เลิกด่า ถ้ามั่นใจว่ายังไงเขาก็ง้อ ลองทำดู เผื่อจะได้เปิดใจพูดคุยกันมากขึ้น เผื่อหัวหน้าจะดีขึ้น ปิดท้ายด้วยการที่ทั้ง 3 ดีเจ อวยพรให้ตัดสินใจเลือกทางที่โอเค
ขณะที่ชาวเน็ตมองว่าอายุเท่านี้กับเงินเดือนที่ได้รับถือว่า สูงมาก โชคดีกว่าใครหลาย ๆ คน พร้อมเป็นกำลังใจให้ไม่ว่าจะเลือกทางไหน