หนุ่มญี่ปุ่นวัย 30 ปี บริจาคน้ำอสุจิ 800 ครั้ง คิดว่าจะไม่ได้แต่งงาน แต่อยากสืบทอดเผ่าพันธุ์ เผยเป็นพ่อของลูกแล้ว 50 คน
วันที่ 18 สิงหาคม 2565 เว็บไซต์ CTWant เผยเรื่องราวชวนอึ้ง ของชายหนุ่มชาวญี่ปุ่นรายหนึ่ง อายุ 30 ปี ผู้ใช้นามแฝงว่า คาซึโตะ เมื่อเร็ว ๆ นี้เขาได้ออกมาสัมภาษณ์เปิดใจกับสถานีโทรทัศน์ NHK ของญี่ปุ่น เผยว่า เขาประสบความสำเร็จในการ "บริจาคอสุจิ" ผ่านทางออนไลน์ โดยสามารถบริจาคน้ำอสุจิให้แก่ผู้ต้องการไปแล้วกว่า 800 ครั้ง และจนถึงปัจจุบัน เขาเป็นพ่อของเด็กไปแล้วถึง 50 คน
ตั้งแต่ตอนอายุ 22 ปี คาซึโตะ เริ่มบริจาคอสุจิบนแพลตฟอร์มโซเชียลและช่องทางออนไลน์ ก่อนที่เขากลายเป็นที่รู้จักในฐานะ "อาสาสมัครนักบริจาคอสุจิ" โดยคาซึโตะ เผยว่า ตอนนั้นเขายุ่งมากกับเรื่องงาน และรู้สึกว่าไม่มีโอกาสที่จะได้แต่งงาน ทว่าเขายังต้องการที่จะสืบทอดเผ่าพันธุ์ของเขา อยากจะ "ทิ้งหลักฐานการมีอยู่ของเขาไว้"
คาซึโตะไปเจอแนวคิดเรื่องการบริจาคอสุจิ จึงซื้อหนังสือมาเรียนรู้เรื่องการบริจาคอสุจิอย่างจริงจัง และเริ่มบริจาคอสุจิผ่านทางออนไลน์นับตั้งแต่นั้น จนกระทั่งตอนที่เขาอายุ 26 ปี เขาได้แต่งงานและมีลูก ตอนนั้นเขาจึงหยุดบริจาคอสุจิไปชั่วคราว จนกระทั่งเมื่อลูกของเขาเกิด เขาก็กลับมาบริจาคอสุจิอีกครั้ง
คาซึโตะ กล่าวว่า ในญี่ปุ่นหลายครอบครัวประสบภาวะมีบุตรยาก แต่ต้องการมีทายาทสืบทอดเป็นของตัวเอง ตัวเขาจึงมีความปรารถนาที่จะเป็นเหมือน "พ่อพันธุ์ม้า" บริจาคอสุจิเพื่อช่วยเหลือผู้คนเหล่านั้นให้บรรลุเป้าหมายในการมีบุตร เขาบริจาคอสุจิมากกว่า 100 ครั้งต่อปี รวมจนถึงตอนนี้มากกว่า 800 ครั้ง มีเด็กที่คลอดออกมาด้วยน้ำเชื้อของเขาแล้ว 50 คน
วิธีการบริจาคอสุจิของคาซึโตะ ขั้นแรกเขาจะเตรียมภาชนะสุญญากาศที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว เพื่อให้แน่ใจว่าน้ำอสุจิจะไม่รั่วไหลออกมา จากนั้นเขาก็จะนัดเจอกับผู้รับโดยตรง ภายหลังจากที่ติดต่อกันทางออนไลน์ พร้อมทั้งยื่นหลักฐานที่แสดงว่า เขาปลอดภัยจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือการติดเชื้ออื่น ๆ
เมื่อถึงเวลานัด คาซึโตะก็เดินทางไปที่ห้องพักในโรงแรม แล้วก็จะไปเข้าห้องน้ำเพื่อปฏิบัติกิจ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที หลังจากนั้นก็นำขวดภาชนะพร้อมน้ำอสุจิส่งมอบให้กับผู้รับที่รออยู่ข้างนอก อีกฝ่ายก็จะให้เงิน "ค่าขนส่ง" และค่าตอบแทนอื่น ๆ รวมถึงจดหมายขอบคุณ
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การส่งมอบอสุจิของคาซึโตะไม่ได้ราบรื่นเสมอไป หลายครั้งที่ต้องเจอกับเรื่องน่าอาย เขาเผยว่า เขาเคยจำเป็นต้องรีดน้ำเชื้อมากถึง 3 ครั้ง ใน 1 วัน หรือบางครั้งก็เกิดเหตุคับขัน ต้องไปจัดการรีดน้ำอสุจิในห้องน้ำที่สกปรกมาก หรือผู้รับบางคนก็ไม่ต้องการเปิดเผยตัวตน ให้เขานำอสุจิไปใส่ในตู้เก็บเหรียญที่สถานีรถไฟ
"ถึงแม้การได้ช่วยเหลือผู้อื่นจะมีความหมายมาก แต่ดูเหมือนว่าการเป็นอาสาสมัครบริจาคอสุจิ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย" คาซึโตะ กล่าว
ทั้งนี้ รายงานเผยว่า ญี่ปุ่นต้องเผชิญกับผลกระทบจากอัตราการเกิดที่ลดลง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และผู้ชายจำนวนไม่น้อยยังมีภาวะไม่มีตัวอสุจิในน้ำเชื้อ (Azoospermia) หรือมีอสุจิน้อย ทำให้อสุจิกลายเป็นที่ต้องการสูงในกลุ่มครอบครัวที่มีปัญหามีบุตรยาก และหากจะรอธนาคารสเปิร์มอย่างเป็นทางการ ก็ใช้เวลานานในการจับคู่ โอกาสทางธุรกิจในการบริจาคอสุจิออนไลน์จึงเกิดขึ้น และได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก ctwant.com, hk01.com
