สาวสุดช้ำ...เจอแฟนทำแสบ หลอกให้กู้ร่วมซื้อบ้าน ก่อนไล่ออก พาหญิงอื่นอยู่แทน !

          สาวสุดช้ำ...เจอแฟนทำแสบ หลอกให้กู้ร่วมซื้อบ้าน ก่อนไล่ออก พาหญิงอื่นอยู่แทน - ซื้อได้ไม่ถึงเดือน ก่อนจะรู้ว่าแอบมีคนใหม่ตั้งแต่ตอนกู้ซื้อบ้าน


          วันที่ 31 สิงหาคม 2565 คุณสมาชิกหมายเลข 5082585 สมาชิกเว็บไซต์พันทิป ได้ตั้งกระทู้ชื่อ "โดนแฟนหลอกให้กู้ร่วมซื้อบ้าน แล้วไล่เราออกทีหลัง จะทำเรื่องถอนชื่อออกจากการกู้ร่วมจะทำยังไงได้บ้างคะ" โดยเจ้าของเรื่องเล่าว่า ตนเองคบกับแฟนเข้าปีที่ 5 และมีแผนที่จะแต่งงานสร้างครอบครัวด้วยกัน

          กระทั่งต้นปี 2565 แฟนได้ชวนให้ซื้อบ้าน แต่แฟนมีภาระหนี้สินที่ไม่สามารถกู้ซื้อเองได้จึงมาขอให้ตนกู้ร่วม และด้วยความเชื่อใจ ไว้ใจ ตนจึงตอบตกลง และหลังจากกู้ผ่านตนก็จัดการเรื่องบ้านเองทั้งหมด ทั้งเซ็นสัญญา เมื่อเดือน พฤษภาคม 2565, จัดการเรื่องต่อเติมบ้าน ตกแต่ง ย้ายของเข้าเองหมดทุกอย่าง


          หลังจากนั้นผ่านไป ไม่ถึง 1 เดือน ประมาณต้นเดือนกรกฎาคม 2565 ตนก็จับได้ว่าแฟนมีผู้หญิงคนอื่นที่แอบคบกันมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งฝ่ายหญิงรู้เรื่องนี้มาโดยตลอด หลังจากนั้นแฟนก็ไล่ตนออกจากบ้าน ไม่ให้ตนอยู่ และมาบอกว่าจะเป็นคนส่งค่าบ้านเอง บอกกับตนว่าไม่ให้มายุ่งหรือข้องเกี่ยวกับบ้านนี้อีก

          "เขามีอคติที่ว่าเขาเป็นกู้หลักบ้านก็ต้องเป็นของเขา คนกู้ร่วมอย่างเราไม่มีสิทธิ์ ตอนนี้เราได้ย้ายออกมาอยู่คนเดียวแล้ว

          ในช่วงแรก ๆ เขาอาจจะส่งไหว แต่พอนาน ๆ ไปเราว่าเขาส่งไม่ไหวแน่เพราะหนี้สินเขาเยอะ โดยที่เราไม่อยากค้างคาและไม่อยากเกี่ยวข้องอีก เราพยายามชวนเขาไปปรึกษาเรื่องถอนชื่อเราออกจากการเป็นกู้ร่วม แต่เขาทำเป็นไม่สนใจ ตีมึนใส่ เอาแต่พูดว่าก็แค่คนกู้ร่วมเฉย ๆ แต่เราก็จะมีปัญหาตามมาที่หลังเราเลยจะถอนชื่อเราออกจากบ้านหลังนั้น

          ไม่ทราบว่าใครจะมีคำแนะนำ หรือทางออก หรือทำยังไงได้บ้างคะ (รบกวนช่วยหน่อยนะคะ)"


          ด้านความคิดเห็นอื่น ๆ มองว่าอดีตแฟนของเจ้าของเรื่องใจร้ายมาก ๆ แนะนำให้ปรึกษาทนายความ ให้กฎหมายจัดการดีกว่าจะปล่อยเวลายืดเยื้อกับคนแบบนี้ หรือหากยังไม่ได้นำชื่อกู้ร่วมออก เจ้าของเรื่องก็มีสิทธิ์ในบ้านครึ่งหนึ่งที่แง่บวกและแง่ลบ คือหากผ่อนไม่หมด เป็นหนี้เสีย เจ้าของเรื่องก็ต้องรับภาระครึ่งหนึ่ง แต่หากผ่อนหมด เจ้าของเรื่องก็จะมีสิทธิ์เป็นเจ้าของบ้านเช่นกัน

          นอกจากนี้ บางความคิดเห็นระบุว่าคนกู้ร่วมคือคนที่เป็นหนี้ร่วมเฉย ๆ เจ้าของจริง ๆ คือมีชื่อในโฉนด ถ้ามั่นใจว่าจะไม่กลับไปคืนดีกันแล้ว อาจจะต้องทำหนังสือแจ้งความจำนงไปยังธนาคารเพื่อขอถอนการกู้ร่วม ให้ทางธนาคารและผู้กู้ร่วมไปหาทางออกเอา ถ้าเขาหาคนกู้ร่วมแทนได้ เขากทำสัญญาใหม่ได้ แต่ถ้าเขาหาไม่ได้ เจ้าของเรื่องก็ยังจะต้องติดพันอยู่อย่างนี้ แต่อย่างน้อยก็ให้เขาดิ้นรนหน่อย

          ขณะที่เจ้าของเรื่องระบุว่าชื่อในโฉนดนั้นระบุเป็นชื่อของตนและอดีตแฟน ตอนนี้ยากตรงฝั่งผู้ชายไม่สนใจ ทำตีมึนใส่ และธนาคารสาขาที่กู้ไม่ค่อยให้คำแนะนำอะไรเลย ให้แต่รอครบ 3 ปีอย่างเดียว

ขอบคุณข้อมูลจาก คุณสมาชิกหมายเลข 5082585