พ่อร้องทุกข์ ลูก 2 คน ซึ่งอยู่กับอดีตภรรยาและพ่อเลี้ยง ดับปริศนา 1 ราย บาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย ทั้งคู่หนีหายติดต่อไม่ได้ แฉแชตคุยขู่จะให้ลูกตายเมื่อไหร่ก็ได้
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
วันที่ 2 กันยายน 2565 รายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ช่อง 3 รายงานว่า วานนี้ (1 กันยายน 2565) พ่อและย่าของ เด็กวัย 3 ขวบ และ 2 ขวบ เข้าร้องเรียนกับ ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ กรณีที่เด็ก 2 คน เสียชีวิต 1 คน ส่วนอีกคนบาดเจ็บสาหัส หลังจากที่เด็กไปอยู่กับแม่และพ่อเลี้ยง ซึ่งอดีตภรรยาและสามีใหม่เคยแชตมาต่อว่า ทำนองไม่ให้ติดต่อไปพบลูก ขู่ว่าจะทำให้เด็กตายเมื่อไหร่ก็ได้ ก่อนทั้งคู่จะหายตัวไป โดยหลังเกิดเรื่องได้แจ้งความไว้แล้ว แต่ผ่านไปกว่า 1 เดือนคดียังไม่มีความคืบหน้า
จุดเริ่มต้น พ่อสะเทือนใจ พบจู่ ๆ เงินอุดหนุนบุตรไม่เข้าบัญชี รู้อีกที ลูกคนเล็กเสียชีวิตไปแล้ว
พ่อของเด็ก เล่าว่า ตนกับภรรยาแยกทางกันเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยภรรยา ยืนยันจะเอาลูก 2 คน คือ น้องเจ้าขา ลูกสาวคนโต อายุ 3 ขวบ 4 เดือน และน้องพีพี ลูกชาย อายุ 2 ขวบ 1 เดือนไปเลี้ยง ซึ่งตอนนั้นตนยังตกงาน จึงไม่มีทางเลือกนอกจากยอมให้ลูกไปอยู่กับอดีตภรรยา
ต่อมาตนเริ่มเอะใจเนื่องจากเงินอุดหนุนบุตรไม่เข้าบัญชี เมื่อไปตรวจสอบที่อำเภอจึงทราบว่า น้องพีพี เสียชีวิตแล้ว เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม โดยถูกระบุสาเหตุการเสียชีวิตไว้ในใบมรณบัตรว่า เลือดออกในช่องท้อง คล้ายถูกของแข็งกระแทก ทำให้รู้สึกรับไม่ได้ เพราะลูกต้องจากไปไม่มีวันกลับ หลังจากไปอยู่กับอดีตภรรยาและพ่อเลี้ยงเพียงแค่ 3 วัน
ต่อมา ตนเองได้รับการติดต่อจากโรงพยาบาลเด็ก แจ้งกับตนว่า น้องเจ้าขา มีอาการบาดเจ็บสาหัส ต้องรักษาตัวในห้องไอซียู โดยแม่เด็กและพ่อเลี้ยงนำตัวลูกสาวมาส่งรักษาเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ที่ผ่านมา ก่อนจะหายตัวไปและติดต่อไม่ได้ ตนกับย่าเด็กจึงเดินทางมาดูอาการ
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
ย่าสะเทือนใจแรง เห็นสภาพ น้องเจ้าขา ช้ำไปทั้งตัว ตอนนี้สาหัส มีโอกาสพิการตลอดชีวิต
ย่าของเด็กเผยว่า ครั้งแรกที่เห็นหลาน น้องหน้าดำคล้ำจนจำแทบไม่ได้ หมอที่รักษายังพูดเลยว่า ตอนเห็นน้องวันแรก แทบจะไม่คิดเลยว่าจะยังมีชีวิตอยู่ เนื่องจากเด็กมีอาการชักเกร็ง เลือดคั่งในสมองชั้นนอก เลือดออกที่ตาข้างซ้าย ตามตัวมีรอยแผลฟกช้ำ ตนเข้าไปเยี่ยมน้องแล้ว พูดว่า ย่ามาหาแล้ว น้องน้ำตาไหลเหมือนมีอะไรจะบอก แต่ก็ทำได้เพียงกำนิ้วของย่าไว้เท่านั้น ปัจจุบันน้องยังมีปัญหาที่สมอง ติดเชื้อที่ทางเดินปัสสาวะ ต้องดูดเสมหะทุกครึ่งชั่วโมง หมอบอกว่าภายใน 6 เดือนนี้ ถ้าทำกายภาพบำบัดแล้วน้องไม่กลับมาเป็นปกติ ก็เสี่ยงที่จะพิการไปตลอดชีวิต จึงอยากรู้ว่าใครเป็นคนทำหลานจนสาหัสแบบนี้
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
เปิดแชตแม่ใจร้าย ขู่ไม่มีเงินส่งให้ลูก ก็ปล่อยให้ลูกตาย - กูจะให้ลูกตายตอนไหนก็ได้
ด้านทนายรณณงค์ กล่าวว่า หลังพ่อเข้าแจ้งความ ตำรวจได้เรียกแม่เด็กกับพ่อเลี้ยงมาสอบปากคำ ทั้งคู่บอกว่า ไม่รู้ว่าเด็กโดนอะไรมา แต่จากการลงพื้นที่ห้องพักที่เกิดเหตุ พบว่า ในห้องมีผู้พักอาศัยอยู่ 3 คน คือ แม่ของเด็ก พ่อเลี้ยง และตาของเด็ก ซึ่งตาของเด็กป่วยหนักไม่สามารถทำอะไรเด็กได้ เหลือแค่แม่แท้ ๆ กับพ่อเลี้ยง อาชีพ รปภ.เท่านั้น ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ไม่สามารถติดต่อทางฝั่งแม่ได้อีกเลย
ขณะเดียวกัน ทางย่าของเด็ก เปิดเผยแชตที่แม่ของน้องเคยส่งข้อความมาต่อว่าหลังจากที่ย่าโทร. ไปหาหลาน ระบุว่า "ไม่ต้องมาเสือก จำไว้นะ โทร. มากูก็ไม่ให้คุย พวกกูไม่ฟ้องก็บุญพวกมึงแล้ว ไม่มีเงินส่งให้ลูก แต่มีเงินเที่ยวมีเงินสัก ก็สมควรให้ลูกมันตาย"
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
นอกจากนี้ ยังมีแชตที่พ่อเลี้ยงส่งข้อความหาป้าของเด็ก เป็นการส่งภาพสุนัขมาให้ บอกว่า หน้ามึงเหมือนหมาบ้านกูเลย แล้วก็ส่งภาพบ้านมา บอกว่าให้มาอยู่บ้านกูมา ไก่กาพวกมึง วัน ๆ ดีแต่น้ำลายหลอกตัวเองไปวัน ๆ นอกจากนี้ยังทิ้งท้ายว่า "แล้วบอกแม่ไอ้โจ้ (ย่า) ด้วยไม่ต้องเสือกโทร. มาหาลูกมัน กูจะให้ตายเมื่อไหร่ก็ได้ บอกมันจำไว้นะ"
เพื่อนบ้านเล่าว่า หลังครอบครัวนี้ย้ายมาอยู่ได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ ร้องโหยหวน เหมือนถูกตีเป็นประจำ บางครั้งทนไม่ไหวจนต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ พม. ให้เข้ามาช่วยเหลือ วันหนึ่งเคยเห็นแม่เด็กอุ้มน้องวัย 3 ขวบลงมา สภาพหน้าตาเขียวช้ำ เมื่อถามว่าเด็กเป็นอะไร พ่อเลี้ยงตอบว่าเด็กวิ่งชนขอบประตู ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรเพราะเด็กอาจจะซนจริง ๆ ก็ได้ แต่หลังจากนั้นก็ยังได้ยินเสียงเด็กร้องทุกวันครั้งสุดท้ายที่เห็นเด็กคือ แม่กับพ่อเลี้ยงอุ้มเด็กมาในสภาพหมดสติ หน้าตาปูดบวม เขียวช้ำ เหมือนถูกทำร้าย แขนขาห้อยลงมาเหมือนไม่มีแรง พ่อเลี้ยงเอาผ้าห่มคลุมตัวไว้ ตนเห็นแล้วยังนึกอยู่เลยว่าเด็กจะฟื้นขึ้นมาได้ไหมจากสภาพนี้ เมื่อถามว่าเด็กเป็นอะไร พ่อเลี้ยงบอกว่า น้องไม่สบายหลังพาไปเที่ยวทะเล กำลังจะพาไปหาหมอ หลังจากนั้น 2-3 วัน ตนเห็นพ่อเลี้ยงกับแม่เด็ก จึงถามว่าเด็กเป็นอย่างไรบ้าง เขาตอบว่าเด็กหายแล้ว เด็กอยู่ในห้อง แต่ตนรู้สึกว่ามันเงียบผิดปกติ เพราะที่ผ่านมาถ้าเด็กยังอยู่จะร้องเสียงดังบ้าง พร้อมสังเกตว่าทุกครั้งที่ถามอะไรกับผัวเมียคู่นี้ ฝ่ายชายจะเป็นคนตอบทั้งหมด ส่วนแม่เด็กจะอยู่ข้างหลัง คล้าย ๆ เหมือนกลัวอะไรสักอย่าง
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
ล่าสุด ทาง สภ.บางบัวทอง เปิดเผยว่า ได้ทำการจับกุมตัวแม่ของเด็กและพ่อเลี้ยงได้แล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ (1 กันยายน) โดยอยู่ในขั้นตอนในการสอบปากคำ หากมีความคืบหน้าจะมีการแถลงชี้แจงต่อไป