พระราชประวัติ พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 กษัตริย์พระองค์ใหม่ แห่งสหราชอาณาจักร - ขั้นตอนพิธีขึ้นครองราชย์
ภาพจาก TOLGA AKMEN POOLAFP
หลังการสวรรคตของ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 สิ้นสุดการครองราชย์ที่ยาวนานถึง 70 ปี พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 (King Charles III) ได้เสด็จขึ้นครองราชย์ เป็นประมุขพระองค์ใหม่แห่งสหราชอาณาจักร และเครือจักรภพอื่น ๆ อีก 14 ประเทศ ภายหลังจากทรงอยู่ในตำแหน่งองค์มกุฎราชกุมาร (รัชทายาทอันดับหนึ่ง) มานานที่สุดในประวัติศาสตร์ราชวงศ์อังกฤษ
ด้วยเหตุนี้ส่งให้ พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ซึ่งปัจจุบันมีพระชนมพรรษา 73 พรรษา ทรงกลายเป็นพระมหากษัตริย์แห่งสหราชอาณาจักร ที่ขึ้นครองราชบัลลังก์ในขณะที่อายุมากที่สุด โดยมี คามิลลา พระวรราชชายา ทรงเคียงข้างในตำแหน่งพระราชินี (Queen Consort)
พระราชประวัติ
พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 หรือพระนามเต็ม ชาร์ลส์ ฟิลิป อาร์เธอร์ จอร์จ ประสูติที่พระราชวังบักกิงแฮม เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2491 ปีที่ 12 ในรัชสมัยของกษัตริย์จอร์จที่ 6 พระอัยกาของพระองค์ ซึ่งเป็นพระบิดาแห่งสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2
ในขณะที่ทรงมีพระชนมพรรษาได้เพียง 3 พรรษา พระองค์ทรงอยู่ในตำแหน่งรัชทายาทอันดับหนึ่งไปโดยปริยาย ภายหลังจากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ขึ้นครองราชย์ ในปี 2495 พระองค์จึงทรงได้รับการอบรมเลี้ยงดูมาแต่ทรงพระเยาว์ เพื่อเสด็จขึ้นครองราชย์ในวันหนึ่ง
ภาพจาก BEN STANSALL / POOL/ AFP
อย่างไรก็ตาม การเติบโตของพระองค์นั้น แตกต่างจากกษัตริย์องค์ก่อน ๆ ซึ่งได้รับการศึกษาโดยครูสอนพิเศษส่วนตัว ในขณะที่ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ทรงเข้าศึกษาในระบบสามัญ ที่โรงเรียนในกรุงลอนดอน จากนั้นทรงเข้าศึกษาด้านประวัติศาสตร์ที่วิทยาลัยทรินิตี เมืองเคมบริดจ์ และปีต่อมา ทรงกลายเป็นรัชทายาทราชวงศ์อังกฤษพระองค์แรกที่ได้รับปริญญา
ตลอดพระชนม์ชีพ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ทรงต้องเผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์และการประท้วงจากกลุ่มชาตินิยมและต่อต้านสถาบันกษัตริย์ ทั้งเรื่องอุปนิสัยที่ซับซ้อนแตกต่าง และการปฏิบัติพระองค์ที่พยายามจะปรับเปลี่ยนให้เข้ากับรูปแบบสมัยใหม่ ในขณะที่ยังคงต้องรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิมของสถาบัน รวมไปถึงเรื่องชีวิตการสมรสครั้งแรกกับเจ้าหญิงไดอาน่าผู้ล่วงลับ
เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มีพระราชพิธีเสกสมรสกับเจ้าหญิงไดอาน่าในปี 2524 โดยถ่ายทอดทางโทรทัศน์ไปทั่วโลก ซึ่งมีผู้ชมกว่า 750 ล้าน และต่อมาเจ้าหญิงไดอาน่า ทรงมีพระประสูติกาลพระโอรส 2 พระองค์ ได้แก่ เจ้าชายวิลเลียม ในปี 2525 และเจ้าชายแฮร์รี่ ในปี 2527 ชีวิตครอบครัวของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ดำเนินไปภายใต้สายตาจับจ้องของทั้งประชาชนและสื่อมากมายตลอดเวลา
ภาพจาก JANE BARLOWPOOL / AFP
จนกระทั่งปัญหาเบื้องหลังถูกเปิดเผย เจ้าหญิงไดอาน่า ทรงออกมากล่าวว่า ชีวิตสมรสของพระองค์อยู่กันแบบมี "เราสามคน" โดยมี คามิลลา เข้ามาข้องเกี่ยวในความสัมพันธ์ ทำให้ถึงจุดสิ้นสุดลง ในปี 2535 และท้ายที่สุด เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ และเจ้าหญิงไดอาน่า ก็หย่ากันในปี 2539 ก่อนที่จะเกิดโศกนาฎกรรม ไดอาน่า ประสบอุบัติเหตุรถชน เสียชีวิตในกรุงปารีส เมื่อปี 2540
หลังจากผ่านไปหลายทศวรรษ ในปี 2548 เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ได้แต่งงานกับคามิลลา ซึ่งกลายเป็นจุดสนใจของสาธารณชน คามิลลาได้รับการยอมรับและยกย่องมากขึ้น ด้วยสไตล์ที่ดูเรียบง่ายสบาย ๆ แม้ว่าจะมีเรื่องของไดอาน่า ที่เป็นเหมือนเงาติดตามชีวิตของทั้งสองอยู่เสมอ กลายเป็นดราม่าที่ถูกนำมาเผยแพร่ทางสื่อต่าง ๆ รวมทั้งซีรีส์
ภาพจาก DANIEL LEAL / AFP
ขั้นตอนพิธีขึ้นครองราชย์ กษัตริย์พระองค์ใหม่
ภายใน 24 ชั่วโมง หลังสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เสด็จสวรรคต พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 จะทรงมีพระราชโองการ ประกาศการสืบทอดราชบัลลังก์อย่างเป็นทางการ ต่อหน้าสภาภาคยานุวัติ หรือ สภาการขึ้นครองราชย์ (Accession Council) ที่พระราชวังเซนต์เจมส์ ในกรุงลอนดอน
ส่วนพิธีบรมราชาภิเษกพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 จะถูกจัดขึ้นอีกครั้งในภายหลัง เนื่องจากจำเป็นต้องมีการเตรียมงานพระราชพิธี โดยขั้นตอนไฮไลต์สำคัญ เป็นพิธีการทางศาสนาของแองกลิกัน ดำเนินการโดยอาร์คบิชอปแห่งแคนเทอร์เบอรี ที่จะสวมมงกุฎเซนต์เอ็ดเวิร์ด ซึ่งเป็นมงกุฎทองคำแท้ อายุกว่าหลายร้อยปี นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1661 ลงบนพระเศียรของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 จึงจะถือว่าพระองค์เป็นกษัตริย์องค์ใหม่แห่งสหราชอาณาจักร ขึ้นครองราชบัลลังก์โดยสมบูรณ์
ทั้งนี้ ในพระราชพิธีจะมีการประโคมเสียงแตรสัญญาณ มีเสียงป่าวร้องเป็นสัญญาณประกาศการขึ้นครองราชย์ขององค์ประมุขต่อสาธารณชน ด้วยใช้คำว่า God Save the King ซึ่งเป็นเพลงชาติ หรือเพลงสรรเสริญพระบารมีในราชอาณาจักรและเครือจักรภพ โดยนับเป็นครั้งแรกในรอบ 70 ปี ที่จะเปลี่ยนเนื้อร้องจากคำว่า Queen เป็น King
ภาพจาก TOBY MELVILLE POOLAFP
