อินเดียปลุกกระแสทวงคืน เพชรโคห์อินัวร์ เพชรประดับยอดมงกุฎสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 หลังเสด็จสวรรคต
![อินเดียปลุกกระแสทวงคืน เพชรโคห์อินัวร์]( "อินเดียปลุกกระแสทวงคืน เพชรโคห์อินัวร์")
ภาพจาก CARL COURT / POOL / AFP
วันที่ 9 กันยายน 2565 เว็บไซต์อินเดียนเอ็กเพรส รายงานว่า ภายหลังการสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร พบว่าชาวอินเดียได้เกิดกระแสเรียกร้องทวงคืน เพชรโคห์อินัวร์ (Kohinoor) อัญมณีล้ำค่าขนาด 105.6 กะรัต ซึ่งเป็นหนึ่งในเพชร 2,800 เม็ด ที่ประดับอยู่บนมงกุฎของราชินีอังกฤษ
สำหรับการทวงคืนเพชรโคห์อินัวร์จากทางอินเดีย นับว่าไม่ใช่เรื่องใหม่ โดยจากรายงานของเว็บไซต์ไทม์ส เผยว่า ก่อนหน้านี้รัฐบาลอินเดียเคยมีความพยายามในการทวงคืนหนึ่งในอัญมณีที่โด่งดังที่สุดในโลกเม็ดนี้มาหลายครั้งแล้ว เช่นเดียวกับรัฐบาลอิหร่าน อัฟกานิสถาน และปากีสถาน ที่ต่างก็ออกมาอ้างกรรมสิทธิ์ในเพชรโคห์อินัวร์ แต่ยังไม่เคยมีความพยายามใดที่ประสบผลสำเร็จ ขณะที่เพชรโคห์อินัวร์ยังอยู่ในการครอบครองโดยราชวงศ์อังกฤษจนถึงปัจจุบัน
แต่นับจากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เสด็จสวรรคต และมีโอกาสที่เพชรโคห์อินัวร์จะยังคงอยู่ในการครอบครองของอังกฤษต่อไป จึงกลายเป็นสิ่งกระตุ้นให้ผู้ใช้ทวิตเตอร์จำนวนมากในอินเดียปลุกกระแสทวงคืนเพชรขึ้นมาอีกครั้ง จนกลายเป็นหัวข้อที่ติดเทรนด์ในทวิตเตอร์
![อินเดียปลุกกระแสทวงคืน เพชรโคห์อินัวร์]( "อินเดียปลุกกระแสทวงคืน เพชรโคห์อินัวร์")
ภาพจาก AFP
ตำนานการเดินทางของเพชรโคห์อินัวร์
สำหรับ เพชรโคห์อินัวร์ ซึ่งหมายถึง "ภูเขาแห่งแสง" เป็นอัญมณีที่ถูกนำมาประดับบนมงกุฎราชินีมาตั้งแต่ปี 1937 เดิมถูกขุดพบครั้งแรกในช่วงศตวรรษที่ 19 ที่เหมืองของรัฐอานธรประเทศ อินเดีย ในสมัยราชวงศ์คาคาติยา ก่อนจะเปลี่ยนมือผู้ครอบครองไปสู่ราชวงศ์โมกุลในศตวรรษที่ 16
จากนั้นเมื่ออินเดียถูกกองทัพจากเปอร์เซียเข้ารุกราน เพชรโคห์อินัวร์ก็ถูกเคลื่อนย้ายไปยังอัฟกานิสถาน และถูกส่งต่อไปยังราชวงศ์ต่าง ๆ ก่อนที่มหาราชา รัญชิต ซิงห์ จะทรงนำเพชรกลับมายังอินเดียอีกครั้ง แต่แล้วอินเดียก็สูญเสียอัญมณีล้ำค่านี้ไปอีกเมื่อแคว้นปัญจาบถูกอังกฤษเข้ายึดครอง โดยบริษัทอินเดียตะวันออกของอังกฤษ ได้รับเพชรโคห์อินัวร์มาในช่วงปลายคริสต์ศักราช 1840 ก่อนจะนำไปถวายแก่สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย แห่งอังกฤษ
ด้วยประวัติอันยาวนานของเพชรโคห์อินัวร์ ทำให้แม้ขณะนี้เพชรจะอยู่ในการครอบครองของอังกฤษ แต่ก็ยังคงมีรัฐบาลจากหลายประเทศที่พยายามอ้างกรรมสิทธิ์ในอัญมณีชิ้นนี้
![อินเดียปลุกกระแสทวงคืน เพชรโคห์อินัวร์]( "อินเดียปลุกกระแสทวงคืน เพชรโคห์อินัวร์")
ภาพจาก ADRIAN DENNIS / POOL / AFP
ขอบคุณข้อมูลจาก อินเดียนเอ็กเพรส, time.com
ภาพจาก CARL COURT / POOL / AFP
วันที่ 9 กันยายน 2565 เว็บไซต์อินเดียนเอ็กเพรส รายงานว่า ภายหลังการสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร พบว่าชาวอินเดียได้เกิดกระแสเรียกร้องทวงคืน เพชรโคห์อินัวร์ (Kohinoor) อัญมณีล้ำค่าขนาด 105.6 กะรัต ซึ่งเป็นหนึ่งในเพชร 2,800 เม็ด ที่ประดับอยู่บนมงกุฎของราชินีอังกฤษ
สำหรับการทวงคืนเพชรโคห์อินัวร์จากทางอินเดีย นับว่าไม่ใช่เรื่องใหม่ โดยจากรายงานของเว็บไซต์ไทม์ส เผยว่า ก่อนหน้านี้รัฐบาลอินเดียเคยมีความพยายามในการทวงคืนหนึ่งในอัญมณีที่โด่งดังที่สุดในโลกเม็ดนี้มาหลายครั้งแล้ว เช่นเดียวกับรัฐบาลอิหร่าน อัฟกานิสถาน และปากีสถาน ที่ต่างก็ออกมาอ้างกรรมสิทธิ์ในเพชรโคห์อินัวร์ แต่ยังไม่เคยมีความพยายามใดที่ประสบผลสำเร็จ ขณะที่เพชรโคห์อินัวร์ยังอยู่ในการครอบครองโดยราชวงศ์อังกฤษจนถึงปัจจุบัน
แต่นับจากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เสด็จสวรรคต และมีโอกาสที่เพชรโคห์อินัวร์จะยังคงอยู่ในการครอบครองของอังกฤษต่อไป จึงกลายเป็นสิ่งกระตุ้นให้ผู้ใช้ทวิตเตอร์จำนวนมากในอินเดียปลุกกระแสทวงคืนเพชรขึ้นมาอีกครั้ง จนกลายเป็นหัวข้อที่ติดเทรนด์ในทวิตเตอร์
ภาพจาก AFP
ตำนานการเดินทางของเพชรโคห์อินัวร์
สำหรับ เพชรโคห์อินัวร์ ซึ่งหมายถึง "ภูเขาแห่งแสง" เป็นอัญมณีที่ถูกนำมาประดับบนมงกุฎราชินีมาตั้งแต่ปี 1937 เดิมถูกขุดพบครั้งแรกในช่วงศตวรรษที่ 19 ที่เหมืองของรัฐอานธรประเทศ อินเดีย ในสมัยราชวงศ์คาคาติยา ก่อนจะเปลี่ยนมือผู้ครอบครองไปสู่ราชวงศ์โมกุลในศตวรรษที่ 16
จากนั้นเมื่ออินเดียถูกกองทัพจากเปอร์เซียเข้ารุกราน เพชรโคห์อินัวร์ก็ถูกเคลื่อนย้ายไปยังอัฟกานิสถาน และถูกส่งต่อไปยังราชวงศ์ต่าง ๆ ก่อนที่มหาราชา รัญชิต ซิงห์ จะทรงนำเพชรกลับมายังอินเดียอีกครั้ง แต่แล้วอินเดียก็สูญเสียอัญมณีล้ำค่านี้ไปอีกเมื่อแคว้นปัญจาบถูกอังกฤษเข้ายึดครอง โดยบริษัทอินเดียตะวันออกของอังกฤษ ได้รับเพชรโคห์อินัวร์มาในช่วงปลายคริสต์ศักราช 1840 ก่อนจะนำไปถวายแก่สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย แห่งอังกฤษ
ด้วยประวัติอันยาวนานของเพชรโคห์อินัวร์ ทำให้แม้ขณะนี้เพชรจะอยู่ในการครอบครองของอังกฤษ แต่ก็ยังคงมีรัฐบาลจากหลายประเทศที่พยายามอ้างกรรมสิทธิ์ในอัญมณีชิ้นนี้
ภาพจาก ADRIAN DENNIS / POOL / AFP
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก อินเดียนเอ็กเพรส, time.com
