แห่ถล่ม ผอ. แจ้งจับเด็ก 11 เตะบอลทำกล้องวงจรปิดพัง แต่สุดท้ายคดีพลิก ?

           ภายหลังจากภาพและข้อความดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ส่วนใหญ่ตำหนิ ผอ.โรงเรียน มองว่า เรื่องดังกล่าวน่าจะสามารถตกลงกันได้ หรือหากไม่มีเงินจริง ๆ ก็ยังสามารถผ่อนจ่าย หรือประสานขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานเกี่ยวข้อง ไม่จำเป็นต้องแจ้งความดำเนินคดีกับเด็กอายุเพียง 11 ขวบ จนทำให้ต้องมีประวัติทางคดีเช่นนี้
           ล่าสุด (30 กันยายน 2565) จากเรื่องราวดังกล่าว ผู้อำนวยการโรงเรียน เปิดเผยว่า เกิดจากเด็กทั้ง 2 คน เล่นลูกวอลเลย์บอล จนไปโดนกล้องวงจรปิดพังเสียหาย แต่เด็กกลัวความผิด จึงนำไม้มาตีเพื่อทำลายกล้องวงจรปิด พร้อมทั้งตัดสายไฟ และสายสัญญาณเพื่อปกปิด แต่ปรากฏว่ากล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพไว้ได้ ทางโรงเรียนจึงเรียกผู้ปกครองของเด็กเข้ามารับทราบ พร้อมตกลงชดใช้ค่าเสียหายประมาณ 3,000 บาท โดยผู้ปกครองของทั้ง 2 ฝ่าย ยินดีชดใช้ค่าเสียหาย และจบเรื่องดังกล่าว

           แต่หลังจากนั้น พ่อของเด็กคนหนึ่งทราบเรื่อง และบอกว่าจะไม่ชดใช้ให้ โดยอ้างว่าลูกตนเองไม่เกี่ยว ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวหน่วยงานปกครอง และตำรวจในพื้นที่ทราบดี จึงเข้ามาไกล่เกลี่ย จนสุดท้ายมีความเห็นว่าควรจะแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่ไม่รับผิดชอบ ส่วนเด็กอีกคนได้มีการจ่ายค่าเสียหายแล้ว

           ซึ่งเหตุผลที่ต้องดำเนินคดี เพราะต้องการปรามเด็กไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง โดยเด็ก 1 ใน 2 คนนี้ มีวีรกรรมในโรงเรียน รวมถึงในชุมชนลักษณะนี้หลายครั้ง ทั้งงัดเข้าไปขโมยของในร้านค้าสหกรณ์ และงัดห้องเรียนในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เพื่อเข้าไปขโมยกระปุกออมสินและขนม อีกทั้งยังเคยมีปัญหากับเพื่อนในโรงเรียน ถึงขนาดพกมีดดาบเข้ามาจะทำร้ายกัน

           ทั้งนี้ หลังจากที่มีการเรียกทุกฝ่ายเข้ามาคุยกันอีกครั้ง ตอนนี้สามารถตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางผู้ปกครองของเด็กยินยอมชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 1,650 บาท ส่วนทางโรงเรียนก็จะดำเนินการถอนแจ้งความ

ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Survive - สายไหมต้องรอด, โหนกระแส