ทลายฮาเร็มเสี่ย ป. อุดร ต้อนเยาวชนไว้ในบ้าน รูปโป๊ - ถุงยางอื้อ อึ้งคิดเรตเปิดซิง 10,000

เหยื่ออีกรายอายุ 16 ปี แฉพฤติกรรมเสี่ย ป.

          หลังจากนั้นผ่านไปหลายเดือน ตนไม่มีเงิน จึงโทรศัพท์หาเสี่ย ป. พร้อมกับอัดคลิปเสียงเอาไว้ตามที่รายงานไปก่อนหน้า ทางนั้นบอกให้เอาเพื่อนมาด้วย จึงมีเพื่อนมาด้วยอีก 2 คน วันนั้นเสี่ย ป. ก็ให้แก้ผ้าถ่ายคลิป ถ่ายรูป แล้วก็อาบน้ำด้วยกัน ให้เงินมา 600 บาท

          ภายหลังข่าวเสี่ย ป. ดังขึ้น ตนกังวลว่า ภาพและคลิปตนจะหลุดออกมา จึงไปปรึกษากับเฮียเปี๊ยกซึ่งเฮียเปี๊ยก นำนางสาวเอไปแจ้งความตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี โดยนางสาวเอแจ้งข้อหาอนาจาร ส่วนผู้ปกครองแจ้งข้อหาพรากผู้เยาว์ จากนั้น ตำรวจก็นำหมายศาลไปที่บ้านของเสี่ย ป. เป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว หรูหรา มีพื้นที่บ้านมากกว่า 100 ตารางวา

          เมื่อตำรวจไปตรวจค้นภายในบ้าน พบหญิงสาวอายุไม่เกิน 20 ปี 4 คน เจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.อุดรธานี ก็พาขึ้นรถไปทันที ส่วนตำรวจก็ตรวจสอบภายในบ้าน พบว่า ที่นอนภายในบ้านมีเตียงนอนปูด้วยผ้าปูที่นอนสีชมพู รอบ ๆ ห้องนอนมีไฟสตูดิโอรอบห้อง เหมือนเป็นห้องที่ถ่ายรูปหรู และมีถุงยางอนามัยใช้แล้วบางส่วนตกตามพื้น

ยึดคอมพิวเตอร์ รูปโป๊เพียบ เจอถุงยาง เสี่ย ป. อ้างเด็กขอ

          เบื้องต้น ตำรวจยึดคอมพิวเตอร์ กล้องถ่ายรูป และโทรศัพท์มือถือเอาไว้ เมื่อตรวจสอบภายใน พบว่า มีภาพหญิงสาวโป๊เปลือยจำนวนมาก ตำรวจจึงยึดและตั้งข้อหา ครอบครองสื่อลามกอนาจาร โดยอาการเสี่ย ป. ตอนที่ไปตรวจค้น ค่อนข้างช็อกมาก

          เสี่ย ป. เปิดเผยว่า ห้องนอนผ้าปูที่นอนสีชมพู เป็นห้องนอนของเด็ก ๆ ที่จะมาถ่ายภาพ ซึ่งตนก็ไม่ได้บังคับให้เด็ก ๆ แก้ผ้า เด็ก ๆ ต้องการเงิน และเขาอยากถ่าย ตนจึงถ่ายให้เขา และสาเหตุที่ทำแบบนี้ ตนต้องการหัดถ่ายรูป เพิ่งฝึกประมาณ 1 เดือนหลังจากซื้อกล้องมา

          ส่วนสาเหตุที่พาเด็กมาอยู่บ้าน เพราะตนชอบเด็กและรักเด็ก ซื้อข้าวซื้อน้ำให้เขากิน เหมือนเขาไม่มีที่จะไป ส่วนเด็กผู้ชายตนไม่เอาเพราะจะวุ่นวายเรื่องชู้สาว เรื่องถุงยางอนามัย เด็กเขาขอมา ตนก็เอามาให้ เป็นของเด็กทั้งนั้น เรื่องที่โทรศัพท์หาเด็กอายุ 13-15 ปี ตนจำไม่ได้ว่ามีด้วยหรือ ถ้ามีจริงตนอาจจะพูดเล่น เพราะเด็กที่มาบ้านหลังนี้แต่ละคนเขามาเอง

เด็กบางคนยอมรับ มาเล่นที่บ้านเสี่ยเฉย ๆ ให้เรียกเขาว่าพ่อ

          นอกจากนี้ ยังมีเด็ก 2 คนที่อยู่ที่บ้านเสี่ย ป. เปิดเผยว่า มาเล่นที่บ้านเสี่ยเฉย ๆ ไม่ได้มีอะไร และไม่เคยเข้าไปในห้องเตียงสีชมพู แต่ยอมรับว่ามีเด็กลูกครึ่งมาอยู่ที่นี่จริง ไม่รู้ว่ามาทำอะไร ส่วนพ่อแม่ของตนก็รู้ว่า ตนอยู่ที่นี่ เสี่ยเลี้ยงดูเป็นอย่างดี ไม่มีการให้เรียกว่าเสี่ย แต่ให้เรียกว่า พ่อ

          "มันสร้างเรื่องแท้ ๆ ให้ตำรวจมา แต่ว่าตัวเองหนีกลับบ้าน หนูไม่ได้เต็มใจมา แต่ที่มาเพราะเพื่อนชวน" เด็ก 1 ใน 2 คนกล่าว


ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้