x close

สัตวแพทย์โดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รู้ตัวแล้วแต่ไม่ทัน 15 นาทีเงินเหลือ 0 ทุบมือถือยังดูดได้


         เปิดเรื่องเล่า สัตวแพทย์ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกซึ่งหน้า กลยุทธ์ใหม่ให้ไปซื้อมือถือ ให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน เพียงแค่ 15 นาที เงินเหลือ 0 บาท ใช้ค้อนทุบก็ไม่ทัน เฉลยทำไมพวกนี้ชอบเล็งหลอกหมอ

แก๊งคอลเซ็นเตอร์
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

         แก๊งคอลเซ็นเตอร์ในปัจจุบันถือว่าระบาดอย่างหนัก จากแต่ก่อนที่เน้นพุ่งเป้าที่คนธรรมดา แต่เมื่อหลายคนเริ่มรู้ทริก และแกล้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับ ทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เริ่มใช้มุกใหม่ โดยครั้งนี้จะเล็งไปที่คนที่มีเงินในบัญชีเยอะ ๆ และมีการติดสินบนเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อดึงข้อมูลออกมา จนสามารถหลอกเหยื่อได้สำเร็จ ได้เงินไปนับร้อยล้านบาท

         อ่านเพิ่มเติม ชี้เป้า คนขายข้อมูลทะเบียนราษฎร ให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เป็น จนท. รัฐ อู้ฟู่รับเดือนละ 6 แสน !

         วันที่ 6 พฤศจิกายน 2565 ได้มีการเปิดเผยถึงกรณีที่สัตวแพทย์ท่านหนึ่งตกเป็นเป้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ถูกหลอกจนสูญเงินทั้งบัญชีภายใน 15 นาที ขนาดเอาค้อนมาทุบมือถือยังดูดเงินไปได้ โดยเล่าว่า ตนได้พาสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาลสัตว์ใกล้บ้าน ซึ่งเมื่อถึงโรงพยาบาลพบว่า คุณหมอเอ (นามสมมุติ) สัตวแพทย์ประจำ ไปที่ธนาคารด่วน เพราะเงินในบัญชีหาย ซึ่งพอเจอคุณหมอ 
ตนได้ถามไปว่า "หมอได้เงินคืนรึยัง"

แก๊งคอลเซ็นเตอร์
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

หมอเผย DSI โทร. มาคุย รู้ข้อมูลทุกอย่าง ก่อนรู้ตัวนี่คือมุกใหม่ ช็อกจริงจังทำมาเป็นวิดีโอคอล


         หมอเอ เผยว่า DSI ได้โทร. มาคุยกับหมอเอเป็นชั่วโมงแล้ว เพราะมีคนเอาข้อมูลของหมอไปเปิดบัญชี และบัญชีนี้เกี่ยวข้องกับการขายยาบ้า หมอเอเคยมีประวัติทำบัตรประชาชนหาย และทางอีกฝ่ายบอกว่าห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกใคร ไม่อย่างนั้นหมอเอจะติดคุก 3 ปี ตอนนี้กำลังสอบสวนอยู่

         พอตนได้ยินดังนั้นจึงเริ่มรู้ว่า นี่คือมุกของแก๊งคอลเซ็นเตอร์และมิจฉาชีพ เลยทักไป แต่หมอเอกลับบอกว่าไม่น่าใช่มิจฉาชีพ เพราะเขารู้รายละเอียดตนทั้งหมดว่าชื่ออะไร เบอร์โทร. อะไร ตนเลยทักไปว่า เรื่องการซื้อขายข้อมูลนั้นมันทำกันได้ บางทีค่ายต่าง ๆ เอาข้อมูลของลูกค้าไปขายเพื่อทำการตลาดก็มี

         เมื่อฟังแบบนี้ หมอเอถึงกับช็อก และบอกว่ามีคนใส่ชุดตำรวจและอ้างว่าเป็น DSI วิดีโอคอลมาคุย ทำให้หมอเอเริ่มตื่นตระหนกอย่างหนัก เพราะรู้แล้วว่าอีกฝั่งไม่ใช่ DSI หากแต่เป็นโจร และโจรยังอยู่ในสายที่วางในห้องตรวจด้วย

แฉกลยุทธ์ใหม่มิจฉาชีพ ซื้อโทรศัพท์แล้วรันโปรแกรมดูดเงินไปหมด


         หมอเอ เล่าว่า โจรได้ให้หมอเอไปซื้อมือถือเครื่องใหม่ ดาวน์โหลดแอปฯ ธนาคารกรุงไทย และโอนเงินทั้งหมดในบัญชี เข้าบัญชีธนาคารกรุงไทยของหมอ จากนั้นให้ดาวน์โหลดแอปฯ ที่ชื่อว่า DSI ปลอดภัย โดยอ้างว่าแอปฯ นี้สามารถตรวจสอบที่มาของเงินได้

         หมอเอจึงเดินไปวางสายโจร และเอามือถืออีกเครื่องมาให้ดู และพบว่ามีการรันแอปฯ ไปแล้ว ปิดเครื่องไม่ได้ และเครื่องล็อกจนทำอะไรไม่ได้ ถอดแบตเตอรี่ไม่ได้ ตนจึงบอกหมอเอว่าให้รีบไปอายัดบัญชีกรุงไทยฯ ส่วนตนก็โทร. ไป 191 เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากตำรวจ ซึ่งตำรวจบอกว่าหากรันโปรแกรมไปแล้ว มันจะปลดล็อกข้อมูลและดูดข้อมูลส่วนตัว รวมถึงดูดเงินไปด้วย

         ในขณะเดียวกัน หมอเอได้โทร. ไปอายัดบัญชีที่ธนาคารกรุงไทย แต่กว่าจะอายัดได้ ปรากฏว่าไม่ทัน เงินในบัญชีเหลือ 0 บาท ภายใน 15 นาทีเท่านั้น

แก๊งคอลเซ็นเตอร์
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ภาพจาก Vinogradskaya Natalia / Shutterstock.com

เรื่องนี้มีชาวเน็ตสงสัยในบางจุด เจ้าของกระทู้จึงตอบคำถามดังนี้


         1. ทำไมไม่ปิด Wi-Fi ที่โรงพยาบาลสัตว์ เรื่องนี้กว่าจะถามว่ามีใครรู้ไหมว่า Wi-Fi อยู่ตรงไหน ต้องหาตำแหน่งของ Wi-Fi ซึ่งกินเวลานานกว่าเอาค้อนทุบ จึงตัดสินใจไปแบบนั้น เวลามีน้อย

         2. ทำไมไม่ถอดแบตเตอรี่ นั่นเป็นเพราะว่า โทรศัพท์รุ่นที่มิจฉาชีพให้ซื้อ จะถอดแบตเตอรี่ไม่ได้ พอรันแอปฯ แล้วหน้าจะค้าง กดอะไรไม่ได้อีกเลย ซึ่งเรื่องนี้ก็มีข้อผิดพลาดเล็กน้อยตรง น่าจะให้หมอเข้าแอปฯ ของธนาคาร ไปกดอายัดบัญชี น่าจะเร็วกว่าโทรศัพท์หาคอลเซ็นเตอร์ที่ต้องสอบถามข้อมูลอีกเพียบ

         3. เรื่องค้อนทุบ ไม่ใช่เรื่องแต่ง เพราะเราสามารถเรียกหาค้อนจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลได้ เพราะโรงพยาบาลมีอุปกรณ์ประมาณนี้อยู่แล้ว


         นอกจากนี้ เจ้าของเฟซบุ๊ก ยังยอมรับว่า เสียใจที่ทักหมอช้าไป ถ้าเป็นตอนนั้นหมอคงไม่โหลดแอปฯ และไม่เสียเงิน ตอนนี้ได้แต่แนะนำว่า ให้หมอแจ้งความ อายัดทุกบัญชี เปลี่ยนบัญชีตัวเอง ทำบัตรประชาชนใหม่

เหตุใดหมอถึงเป็นเป้าของมิจฉาชีพ


         ทางมิจฉาชีพเชื่อว่า หมอเป็นอาชีพที่ทำแต่งาน ไม่ค่อยอ่านข่าว ดังนั้นจึงอยากเสนอให้กระทรวงหรือผู้ที่เกี่ยวข้อง ให้ข้อมูลกับบุคลากรบ้าง อย่างประเทศสิงคโปร์ ที่ภาครัฐก็ทำป้ายเตือนใหญ่ ๆ แก่ประชาชนในที่สาธารณะ ให้ข้อมูลเชิงรุกมากกว่าออกสื่อกระแสหลัก เพราะสมัยนี้คนไม่ดูโทรทัศน์และไม่เล่นเฟซบุ๊กเยอะมาก


**อัปเดตข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 11.15 น. วันที่ 7 พ.ย. 65

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สัตวแพทย์โดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รู้ตัวแล้วแต่ไม่ทัน 15 นาทีเงินเหลือ 0 ทุบมือถือยังดูดได้ อัปเดตล่าสุด 9 พฤศจิกายน 2565 เวลา 13:59:46 60,625 อ่าน
TOP