3 วัยรุ่นเปิดใจ นาทีถูกอุ้ม ทำร้ายร่างกาย - ไฟแช็กลนของลับ พ่อคู่กรณีอ้าง ลูกเป็นเด็กเรียบร้อย คอนโทรลอยู่ - ไม่เห็นปืนสักกระบอก
จากกรณีผู้ปกครองวัยรุ่น 3 คน ที่ถูกนักเรียนช่างกลโรงเรียนชื่อดังย่านมีนบุรี อุ้มไปกักขังภายในบ้านเรือนไทยหลังใหญ่ ซอยรามคำแหง 63 เขตหัวหมาก กรุงเทพฯ เข้าร้องเรียนกับ "ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์" ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อขอให้ช่วยติดตามคดี หลังผู้เสียหายทั้ง 3 คนถูกรุมทำร้าย ใช้ปืนข่มขู่ ถูกทำอนาจาร หวั่นเรื่องความไม่ปลอดภัย เพราะถูกข่มขู่
ล่าสุดในรายการ โหนกระแส วันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 ดำเนินรายการโดย "หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย" ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 ได้สัมภาษณ์ โอ๊ต, ทรัพย์, ฟลุ๊ค (นามสมมติ) ผู้เสียหาย มาพร้อม คุณแม่โอ๊ต คุณแม่ทรัพย์ และว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
- เรื่องเกิดอะไรขึ้น ?
โอ๊ต : วันนั้นวันที่ 27 ตุลาคม มีเติ้ล เพื่อนผมกลุ่มในนั้น ทักมาหาว่าจะมาหาที่บ้าน ช่วงเวลา 2-3 ทุ่ม ผมได้ลงไปรับเติ้ลข้างล่างตึก จากนั้นยืนคุยสักพักก็ขึ้นรถไปด้วย เติ้ลไม่ได้บอกว่ามากับกิ๊ฟ จากนั้นไปจอดตรงซอกตึก
- เติ้ลรู้จักมานานหรือยัง ?
โอ๊ต : สักพักหนึ่งครับ เคยเล่นด้วยกันตอนเด็ก ๆ ครับ ธรรมดาเราไปไหนมาไหนด้วยกันอยู่แล้ว รถมอเตอร์ไซค์เป็นของเติ้ล ผมเป็นคนซ้อน
- จากนั้นยังไง ?
โอ๊ต : ไปจอดไว้ซอกตึก แล้วมีกิ๊ฟ เพื่อนของเติ้ล กระโดดขึ้นมาปิดท้ายครับ ผมก็รู้จักกิ๊ฟ เป็นเพื่อนกันมาก่อนตอนที่เรียนด้วยกันครับ
- ตอนนั้นมี 3 คน เติ้ลเป็นคนขี่ เรา แล้วก็กิ๊ฟ นั่งปิดท้าย แล้วยังไง ?
โอ๊ต : ขับไปสักพักก็ถามว่าเติ้ลจะไปซื้อของที่ไหน เขาบอกว่าจะไปซื้อหลังรามฯ ผมให้เติ้ลจอด เขาก็ไม่จอด เอาศอกเข้าที่หน้า
- รู้ตัวเหรอว่าจะโดนอุ้ม ?
โอ๊ต : ผมรู้สึกแปลก ๆ ตรงที่บอกว่าจะไปซื้อที่อ่อนนุช 30 แล้วอยู่ดี ๆ พาไปรามคำแหง 24 ไปคนละที่กันเลย ก็บอกให้เขาจอดรถ แต่เขาไม่จอด แล้วก็โดนเติ้ลศอกเข้าที่หน้าครับ ผมก็หลบ กิ๊ฟก็ใช้อีกมือล็อกคอแล้วก็พูดว่ากูมีลูกกระสุนอีก 2 เม็ด มึงคิดว่ากูจะยิงพลาดไหม ถ้ามึงตุกติกให้รถล้มครับ
- แล้วเขาพาเราไปไหน ?
โอ๊ต : รามคำแหง 63 ครับ บ้านไม้เรือนไทย 2 ชั้นครับ จากนั้นผมก็ถูกเหวี่ยงไปในบ้าน ผมเห็นวัยรุ่นประมาณ 10 กว่าคนนั่งมั่วสุมกันอยู่ครับ แล้วผมโดนตะลุมบอนอยู่สักพักหนึ่ง
- ผู้ชายหมดเลยเหรอ ?
โอ๊ต : มีผู้หญิง 1 คนครับ ชื่อว่าพลอยครับ เขาแฟนนายอี ลูกเจ้าของบ้านครับ จากนั้นผมโดนกระทืบอยู่สักพัก ได้ยินเสียงมาจากข้างบนว่าทำอะไรกัน จากนั้นเขาก็ใช้ให้ผมไปหลังตึก ดึงตัวไปหลังตึก พอไปถึงหลังตึกก็ให้ผมทำท่าทหาร แล้วก็เตะเข้าอกครับ
- จากนั้นทำยังไงต่อ ?
โอ๊ต : มีเพื่อนเขามาล็อกผม บอกให้ผมถอดกางเกงและเสื้อผ้า แล้วใช้ไฟแช็กลนที่ขนเพชรครับ
- 16 คนเลยเหรอตรงนั้น ?
โอ๊ต : ออกมาประมาณ 7-8 คน ที่เหลือนั่งอยู่ในบ้าน หัวโจก ๆ ก็มีนายอี แฟนนายอี คือพลอย แล้วก็ร็อก แล้วก็อั๋นครับ ประมาณนี้ที่หนัก ๆ รวมถึงกิ๊ฟด้วยครับ จากนั้นก็กระทืบผมสักพักหนึ่งแล้วพาไปที่บ้าน ให้ผมแก้ผ้าอีกรอบ ใส่แค่บ็อกเซอร์ บังคับให้ผมช่วยตัวเอง จากนั้นใช้ไฟแช็กเผาขนอีกรอบ
- คนถือไฟแช็กคือใคร ?
โอ๊ต : เผาในบ้านคือนายอีครับ อีกครั้งน่าจะเป็นแฟนนายอีครับ
- คุณจำได้ใช่ไหม ?
โอ๊ต : จำได้ เพราะผมไม่ได้โดนปิดตา ครั้งแรกที่โดนคือนายอี ครั้งที่สองคือพลอย หลังจากนั้นพอเผาขนเสร็จ นายอีหยิบโทรศัพท์มาถ่ายคลิปผม ใช้มือตบหน้าประมาณ 4-5 นาที แล้วหยิบปืนมาตรงลิ้นชักมากระแทกที่หัวครับ
- คุณโดนก่อนคนแรก อีก 2 คนยังไม่มา วันที่โดนช่วงเวลากี่โมง ?
โอ๊ต : ประมาณ 4 ทุ่มครับ
- นอกจากเอาปืนกระแทกหัว มีรุมกระทืบอีกไหม ?
โอ๊ต : มีครับ แล้วเติ้ลเอาบุหรี่จี้ลิ้นครับ
- เพื่อนคุณที่เป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็ก ๆ เนี่ยนะ ?
โอ๊ต : ใช่ครับ
- 2 คนนี้มาได้ยังไง ?
โอ๊ต : ผมนอนอยู่ที่นั่น 1 คืน เขาไม่ได้ปล่อยกลับบ้าน ข้ามไปวันที่ 28 ตอนกลางวันมันไม่ทำอะไรเรา ปล่อยให้อยู่กับพวกเขา จากนั้นเขาหยิบโทรศัพท์ผมไป เลื่อนดูเจอเฟซทรัพย์ เขาถามว่าเรียนช่างอุตฯ เหรอ ผมบอกว่าใช่ แต่ตอนนี้ไม่ได้เรียนแล้ว แล้วมี 4-5 คนที่เอาโทรศัพท์ผมไป พิมพ์บอกน้องให้มารับหน่อยที่รามคำแหง 57
- คุณก็เลยไป ?
ทรัพย์ : ผมนั่งอยู่กับพี่ฟลุ๊ค อยู่แถว ๆ บ้าน ก็เลยไปกับพี่ฟลุ๊ค
- ฟลุ๊ครู้จักโอ๊ตไหม ?
ฟลุ๊ค : รู้จักครับ
- พอเป็นไลน์พี่เขาส่งมา เราเห็นก็ไป แต่ไม่ได้ไปคนเดียว โอ๊ตไม่ได้พิมพ์เลย เราเห็นว่าโอ๊ตเรียกเราก็ไป แต่เราเรียกฟลุ๊คไปด้วย พอไปถึงแล้วเป็นยังไง ?
ทรัพย์ : ประมาณ 10 นาที มีกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 10 กว่าคน ขับมอเตอร์ไซค์มา 2 คัน ประกบหน้าประกบหลัง วัยรุ่นถือปืนกรูกันมา บอกผมว่าอย่าวิ่ง ผมวิ่งไม่ได้ แล้วพี่ผมโดนกระทืบไปก่อน แต่ผมไม่ได้โดน เขาให้ผมนั่งรถไปท้ายซอยกับเขา ไปถึงรามคำแหง 63 เขาให้ผมถอดเสื้อปิดตา มีกิ๊ฟยืนรออยู่ แล้วไม่แน่ใจใครประกบพาผมเดินเข้าซอย พอถึงจุดเกิดเหตุกระทืบผมก่อน แล้วถามว่ามึงเรียนช่างอุตฯ เหรอ ผมก็บอกว่าผมเคยเรียนแต่ออกแล้ว เขาก็กระทืบอีกสักพักเลย พี่ฟลุ๊คก็โดนด้วย
- มีข้อมูลแจ้งพี่ธนกฤตว่ามีผู้ใหญ่กี่คน ?
ธนกฤต : ได้รับแจ้งว่าผู้ใหญ่จากเดิม 8 บวกอีก 3 เป็น 11 เยาวชน 6 คน แต่ระหว่างนี้ทางผู้ใหญ่มีการออกหมายจับแล้ว มาแล้ว 3 คนที่ตำรวจจับได้ ส่วนเยาวชน ศาลยังให้เป็นลักษณะออกหมายเรียกก่อน เดี๋ยวคงต้องมารับทราบข้อกล่าวหา เดิมเขาตั้งไว้ 3 ข้อหา ผมดูแล้วเมื่อสักครู่มีการพูดเรื่องเอาหัวเข็มขัดไปด้วย ก็จะมีข้อหาชิงทรัพย์เพิ่มเข้าไปอีก นักรบพวกนี้ต้องจัดให้เต็มสูบ เอาเลยเต็มที่ ส่วนเรื่องกระทรวงยุติธรรมได้ประสานทางนี้แล้ว เรื่องเยียวยา เรื่องดูแลร่างกายรักษาพยาบาล 4 หมื่น ฟื้นฟูจิตใจ เรื่องค่าทดแทนอื่น ๆ อีก 5 หมื่น ผมได้ประสานรองผู้บัญชาการนครบาลเรียบร้อย ท่านก็ได้เร่งรัดแล้ว ทั้งหมดตื่นตัวหมดแล้วที่ต้องตามคนเหล่านี้มา เพราะก่อเหตุอุกอาจเกินไป น่าเกลียดด้วยในสิ่งที่ทำ
- ทรัพย์ถูกจับไปวันที่ 28 โดนทรมานค่อนข้างเยอะ ตัวฟลุ๊คเองโดนยังไงบ้าง ?
ฟลุ๊ค : เขาถามผมว่าเรียนที่ไหน ผมก็บอกว่าไม่ได้เรียน เขาก็ไม่ฟัง เขาถามผมว่าเพื่อนมึงเรียนไหน ก็บอกว่าเพื่อนไม่ได้เรียนเหมือนผม เขาก็เอาโทรศัพท์ทรัพย์ไปดูครับ แล้วก็เห็นว่าทรัพย์เคยเรียนช่างอุตฯ เขาก็กระทืบเลย เขาบอกว่ามึงโกหกช่วยเพื่อนเหรอ ประมาณนี้ครับ
- คุณโดนพลอยทำร้ายด้วย ?
ฟลุ๊ค : ใช่ครับ จิกหัว ตบ จับแล้วให้ผู้ชายล็อกแขน แล้วเอารองเท้าผู้หญิงที่ส้นหนัก ๆ มาฟาดย้ำ ๆ ตรงหน้า พลอยแฟนอีเป็นคนทำเองครับ เขาเอารองเท้าฟาด ๆ ๆ หลายทีครับ
- มันซ้อมจนดั้งหักเลย เห็นว่าเขาให้เราต่อยกัน ?
โอ๊ต : ใช่ครับ ถ้าไม่ต่อยกันจะโดนหนักกว่าเดิม บอกว่าพวกมึงไม่ต่อยจะโดนส้นตีนพวกกูต่อ เราก็ต้องต่อยกัน แต่ไม่ได้ต่อยจริงจัง แต่เขาถ่ายคลิปไว้ ถือปืนไว้ล้อมรอบวง
- ปืนอะไรบ้าง ?
โอ๊ต : แมกกาซีนแล้วหักลำไทยประดิษฐ์ แล้วก็อูซี่ โดนเอามาตบหน้า
- แล้วเขาบังคับเรายังไงอีก ?
ทรัพย์ : ถ่ายคลิปอนาจาร ให้แก้ผ้า ให้เราทำเขาด้วย แล้วก็เตะหน้าอกครับ
- พอแม่รู้เรื่องนี้แม่ทำยังไง ?
แม่โอ๊ต : ตอนแรกที่ได้น้องกลับบ้าน เราถามลูกว่าไหวไหม ไปโรงพยาบาลไหม แต่น้องเขาบอกว่าโอเค แต่อีกวันเหมือนน้องเขาเจ็บหนักตรงสะโพก เขาลุกเองไม่ค่อยได้ แม่เลยพาน้องไปโรงพยาบาลคืนวันที่ 31 แล้วคุณหมอเห็นอาการน้องก็สอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น เราก็ได้เรียนโรงพยาบาลไปตามความจริงทุกอย่าง คุยกับน้องว่าเราจะอยู่แบบนี้ไม่ได้ เราต้องแจ้งความนะ แต่น้องพยายามบอกว่าแจ้งความไม่ได้ มันขู่เอาไว้ มันรู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ แต่คุณแม่ไม่เชื่อ
- ทั้ง 3 คนหลุดรอดมาได้ยังไง ?
โอ๊ต : ผมหายไปประมาณ 3 วัน เริ่มมีเพื่อน ๆ ผมในเฟซแล้วก็แม่ผมตามหา โทร. หาติดต่อคนนั้นคนนี้ มีเพื่อนผมเป็นผู้หญิง เป็นแฟนเก่าร็อก ก็บอกว่าโอ๊ตอยู่กับกลุ่มนี้ แม่ก็เลยบอกว่าถ้าไม่ปล่อยออกมา อีก 30 นาทีแม่จะไปแจ้งความ เขาก็เลยปล่อยมาช่วง 6 โมง วันที่ 29 ตุลาคม
- เราหนีออกมาได้ยังไง ?
โอ๊ต : ผมกับทรัพย์ได้ออกมาพร้อมกัน แต่ฟลุ๊คได้ออกก่อน
- ฟลุ๊คออกมาก่อนได้ยังไง ?
ฟลุ๊ค : ผมได้ออกตอนตี 3 วันที่ 29 เขาให้ผมพาไปบ้าน เขาจะดูบ้านผม เขาบอกว่าถ้าผมแจ้งความเขาจะมาถล่มบ้าน
- "พ่อของอี" อยู่ในสาย เรื่องที่เกิดขึ้นพ่อไม่รู้เรื่องมาก่อนว่าลูกนำ 3 คนนี้ไปทำร้ายร่างกายในบ้าน ?
พ่อของอี : เอาจริง ๆ ผมไม่รู้เรื่องหรอก ผมไปงานแต่งงานที่สุโขทัย
- วันนั้นพ่อเจอ 3 คนนี้อยู่ที่บ้านไหม ตอนพ่อกลับมา ?
พ่อของอี : ผมเห็นกลุ่มเพื่อนลูก ผมกลับมาตอนเที่ยงคืน แล้วเห็นคนเจ็บนอนอยู่ ผมก็ถามว่าเป็นอะไร ไปโดนอะไรมา เขาก็บอกว่าถูกทำร้ายมาใน กกท. อยู่ตรงข้ามซอยบ้าน ผมก็บอกว่าทำไมไม่พาไปหาหมอ ไม่ไปแจ้งความ เพราะลักษณะอาการมันเยอะ มันหนัก หนักมาก ผมนี่แหละขึ้นไปเอายาให้เขาทา ให้ทานยาพาราฯ ไล่เขาไปแล้วว่าทำไมไม่ไปหาหมอ ไม่ตามมูลนิธิมาพาเขาไปส่งโรงพยาบาล เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร เพื่อน ๆ ก็เอาน้ำแข็งมาประคบ ผมรู้แค่นี้ ผมก็ถามว่าตอนนี้เป็นยังไง เขาบอกว่าเจ็บที่หน้า ที่ตัว เราเห็นเขาไม่ไปหาหมอ ผมก็ขึ้นบ้านไป สักพักลงมาก็เห็นเขาร้องโอย ๆ ก็ถามว่ามันยังไง เขาบอกว่าเจ็บตรงนั้นตรงนี้ ก็เข้าใจว่าเป็นคนกลุ่มเดียวกัน ผมไม่รู้หรอกว่าเขาคือใคร เข้าใจว่าเป็นเพื่อนของเพื่อน
- กรณีอาวุธสงครามไปอยู่ในบ้านพ่อได้ยังไง ?
พ่อของอี : เอาตรง ๆ ผมไม่รู้หรอก เขาก็เข้า-ออก ๆ กัน มันทำงานก็มี เรียนก็มี เรียนด้วยทำงานด้วยก็มี
- ไม่ใช่ของพ่อ ?
พ่อของอี : โอ้โห ถ้าเป็นของผม ระดับคุมกองกำลังเลยนะเนี่ย ผมไม่รู้ ผมได้แต่ประกาศว่าห้ามเอาของผิดกฎหมายเข้ามาในบ้านผม แต่เขาก็มีเล็ก ๆ น้อย ๆ บอกว่าป้องกันตัว เขาเรียนหนังสือ ฝึกงานอยู่ ผมก็ไม่ได้อะไร ก็ปล่อยไป ไม่ได้คิดอะไรไง
- พ่อเห็นภาพปืนแล้วใช่ไหม มีเยอะมากนะ ?
พ่อของอี : ผมเห็นแวบ ๆ ตอนผมอยู่ไม่มีสักกระบอก
- พฤติกรรมลูกพ่อเป็นแบบนี้ไหม พ่อเคยรู้ไหมว่าลูกมีพฤติกรรมแบบนี้ ?
พ่อของอี : ลูกผม ผมคอนโทรลอยู่ ผมเอาอยู่ อยู่ข้างนอกผมก็ไม่รู้หรอก แต่อยู่กับผมก็ไม่มีอะไร เรียบร้อย คุยดี คุยปกติ เพราะเขายังอยู่ในบังคับของคดี เขามีคดีก่อนหน้านั้น ทำอะไรเยอะไม่ได้ เขามาตรวจค้นแล้วเจอกระสุนนัดเดียว ยังเจอคดีอยู่ ยังรายงานตัวอยู่ ผมก็พาลูกไปอยู่แล้ว ถ้าไม่ไปก็ผิดอีก จะยุ่งอีก ก็ต้องคอนโทรลเขา เขาอยู่ที่บ้านไม่ได้ไปไหน
- ลูกชายพาเพื่อน ๆ มานั่งสมาธิหลังบ้านจริงไหม ?
พ่อของอี : มีรับน้องอยู่ช่วงหนึ่ง เขาก็มานั่งสมาธิกันอะไรกัน ผมก็ไม่รู้ ก็ให้ลูกน้องดูว่าอย่าทำอะไรให้มันเยอะ เพราะรับน้องมันผิดกฎหมาย โรงเรียนไม่ได้มีกิจกรรมประเภทนี้ แต่เขาอยากจัดกันก็เอากันนิด ๆ หน่อย ๆ มีกัน 4-5 คนไม่ได้อะไร มีกิจกรรมนั่งสมาธิกัน วิดพื้นกันบ้าง อะไรแบบนี้ ผมก็เดินไปดูอยู่ ไม่เห็นว่าทำรุนแรงอะไร
- พ่อจะเยียวยา 3 คนนี้ยังไง ?
พ่อของอี : ก็ต้องไปดู ตอนนี้ผมก็แย่ ไม่สบายด้วย เบาหวานขึ้นเมื่อคืน แฟนก็ไม่สบาย
- พ่อจะเอายังไง ?
พ่อของอี : ต้องส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผมก็ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผมพูดไม่ออก ใจจริงก็ไม่ได้อยากให้มันมาอยู่ที่นี่ แต่เหมือนเด็กมันทำงานบ้าง ก็ใกล้ไง ที่บ้านผม ผมก็อนุญาตกันไป ส่วนพฤติกรรมแอบแฝงผมไม่รู้
- พ่อจะเอายังไงกับพลอย แฟนอี ?
พ่อของอี : ตัวพลอยก็ต้องไปคุยกับพ่อเขาก่อน ผมได้คุยเบื้องต้นเองว่าได้รับหมายหรือยัง จะไปพร้อมกันหรือยังไงก็ว่ากันไป แต่ผมไม่สบายไง
- แฟนลูกพ่อจุดไฟเผาไข่เขา จับขึงแล้วเอารองเท้าตบหน้าเขาอีก ?
พ่อของอี : ผมไม่รู้หรอกพี่ ถ้าผมรู้เรื่องนี้ไม่มีทางเกิดขึ้น ผมไม่ยอมหรอก ผมก็เรียนสถาบันเดียวกับน้องที่บาดเจ็บนี่แหละ ผมจะยอมเหรอ มันมาทำน้องผม หยามหน้าผมถึงในบ้านผมอีก ผมไม่ยอมหรอก
- เขาบอกพ่อมีอิทธิพลจริงไหม ?
พ่อของอี : โอ๊ย ตอนนี้ก็แย่แล้ว เดินจะไม่ไหวแล้ว จะไปมีอิทธิพลกับใคร
- พ่อดูแลลูกด้วยนะ ลูกเปรี้ยวเหลือเกิน ?
พ่อของอี : เขาก็ว่ากันไป ตอนอยู่กับผมเรียบร้อย แต่อยู่ข้างนอกผมไม่รู้ไง
- อยู่ข้างนอกเป็นผู้แสดงอภินิหารเลย ?
พ่อของอี : ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน อยู่กับผม ผมก็ต้องควบคุมเขา ต้องเรียนหนังสือ ต้องฝึกงาน ก็ตามโปรแกรม ลูกผมจะจบอยู่แล้ว
- พ่อจะเครียดหนัก ได้ไปเรียนต่อในสถานพินิจ ?
พ่อของอี : ก็เครียดแน่นอน คิดอะไรไม่ออก มันแย่ไปหมด
ธนกฤต : ลูกพ่อเหมือนนักรบ เดี๋ยวผมจะเอาไปฝึกงาน
พ่อของอี : ผมก็ต้องขอโทษทุกคน ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นหรอกครับ
ธนกฤต : ไม่เป็นไร ถ้าพ่อดูแลไม่ไหว ผมดูแลให้
พ่อของอี : ท่านเข้าใจผิดแล้ว ผมไม่ได้บอกว่าผมดูแลไม่ไหวครับ
ธนกฤต : มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นพ่อยังไม่ทราบเลย
พ่อของอี : ผมไม่ได้อยู่บ้าน ท่านเข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า ผมอยู่ระหว่างเดินทาง ผมก็ไม่รู้
- ก็ว่ากันไปตามตัวบทกฎหมายเนอะพ่อ ?
พ่อของอี : ครับ ผมเสียใจกับทั้ง 3 คนเลย
- พ่ออยากพูดอะไรกับแม่น้องเขาไหม ?
พ่อของอี : เสียใจอย่างสุดซึ้งครับ ถ้าลูกผมโดนบ้างก็เหมือนกัน ฉันใดก็ฉันนั้นครับ ผมรู้สึกเสียใจเหมือนกันถ้าลูกเราถูกกระทำบ้างก็เหมือนกันครับ เข้าใจมาก
- มันมีข่าวออกมาว่าพ่อจะไปแจ้งความ 3 คนนี้ ว่าแจ้งความเท็จ ?
พ่อของอี : ข่าวอะพี่ ข้อเท็จกับจริงไม่รู้ว่าข่าวมาจากไหน
- ลูกอยู่ไหน ?
พ่อของอี : เดี๋ยวจะพาไปมอบตัว พอดีผมมาทำเรื่องไว้นิดหนึ่ง
- พ่อเขาบอกว่าเขาไม่รู้เรื่อง โอ๊ตมองยังไง ?
โอ๊ต : ตอนผมโดนกระทืบ เหมือนพ่อโทร. มาหาอี โทร. มาบอกว่าพวกมึงทำอะไรเบา ๆ หน่อย คนในซอยเขาได้ยินกันหมดแล้ว อีก็บอกเพื่อนว่าพ่อไม่ได้ด่าอะไร แต่บอกให้ทำกันเบา ๆ พวกผมนั่งอยู่ตรงนั้นด้วยครับ
ธนกฤต : จะบอกว่าไม่รับรู้ เดี๋ยวไปให้การกับตำรวจว่าลักษณะที่พูดแบบนี้ ให้เอาหลักฐานเรื่องโทรศัพท์พูดคุยด้วย เป็นผู้สนับสนุนหรือเปล่า ถ้าเป็นผู้สนับสนุนต้องดำเนินคดีด้วย
- แม่ไปแจ้งความแล้ว ตำรวจบอกว่ายังไง ?
แม่โอ๊ต : วันที่ 3 พฤศจิกายน ที่ไปแจ้งความที่ สน.หัวหมาก เราก็เล่าทุกอย่างให้ตำรวจฟัง ตำรวจก็รับเรื่องเร็วนะคะ พอเขาได้คุยกับคุณแม่ก็สอบน้อง 3 คน ได้รายชื่อเด็กเร็วมาก แต่ตำรวจบอกว่าติดที่น้องพวกนี้เป็นเยาวชน คนที่ทำร้ายร่างกายตำรวจก็บอกว่าจะทำงานเต็มที่นะ ไม่ต้องกลัวค่ะ แต่ถามว่าเรากลัวไหม เรากลัวอยู่แล้ว แต่เรามั่นใจตำรวจว่าจะทำได้ค่ะ
- แม่ไปแจ้งวันที่ 3 นี่ 10 กว่าวันแล้ว มีอะไรคืบหน้าไหม ?
แม่โอ๊ต : ตำรวจบอกว่าได้รายละเอียดของเด็กเพิ่มขึ้น ผู้ใหญ่ที่อยู่ร่วมการกระทำเพิ่มขึ้น รู้รายชื่อทั้งหมด รู้ที่อยู่ทั้งหมด จับไปแล้วทั้งหมดน่าจะ 3 คนนะคะ
- แม่ทรัพย์กังวลใจอะไรไหม ?
แม่ทรัพย์ : กังวลใจความปลอดภัยในชีวิตลูกค่ะ มีการข่มขู่ว่าจะกลับมาถล่มบ้านทั้ง 3 คน จะติดตาม พูดว่าจะตามล่าพวกมึงทุกคน
ธนกฤต : ไม่ต้องกลัวตามล่า เดี๋ยวเราล่าก่อน ผมคงให้ตำรวจ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. น้องให้การว่ามีเรื่องเสพยาด้วย จะให้ลงพื้นที่ให้เต็มที่ ใครบอกว่าไม่รู้ไม่เกี่ยว ถ้าสอบปากคำว่าเกี่ยว ถ้าสอบปากคำถึงก็จะโดนข้อหา วันนี้เราต้องเอาความจริงให้ชัดเจน เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในสังคมไมได้หรอกครับ พยานหลักฐานถึงดำเนินคดีหมดทุกคน ไม่ปล่อย ผมก็จะเกาะติดและลงพื้นที่ด้วย
- คุณพ่อบอกว่าลูกชายไม่มีอะไร เวลารับน้องก็นั่งสมาธิกัน ?
ธนกฤต : คุณพ่อบอกว่าไม่รู้เรื่องก็ไม่เป็นไร ถ้าสอบปากคำถึงเมื่อไหร่ คุณพ่อก็รู้เรื่องเอง
- พ่อบอกเป็นศิษย์เก่าช่างอุตฯ ไม่ทำแบบนี้หรอก เขามีตึกแถว หรืออะไร ?
โอ๊ต : เป็นเหมือนอพาร์ตเมนต์ให้คนเช่าครับ แม่เขาน่าจะอยู่บนบ้าน
- เรื่องเยาวชน ครั้งก่อนเด็ก 18 ฆ่าเด็ก 13 ไม่ทันจะซา ครั้งนี้เยาวชนอีกแล้ว จริง ๆ สามารถผลักดันกฎหมายได้มากกว่านี้ไหมให้มีโทษที่รุนแรง ?
ธนกฤต : จริง ๆ แล้วเรามีกฎหมายต่างประเทศด้วยที่ให้การคุ้มครองเด็ก แต่ถ้าเยาวชนบางคนทำพฤติกรรมที่เป็นผู้ใหญ่ก็อาจถูกใช้กฎหมายลงโทษในลักษณะผู้ใหญ่ได้ด้วยเหมือนกัน ถ้าพฤติกรรมอุกอาจเกินไปก็เอาตัวไปไว้ที่เรือนจำผู้ใหญ่ได้เหมือนกัน เคสแบบนี้คงต้องสืบเสาะประวัติกันด้วยว่าเป็นอย่างไร และคงได้ดูเป็นกรณีพิเศษอีกนิดหนึ่ง คุณพ่อเขาบอกว่าดูแลได้ แต่ดูแลแล้วเป็นแบบนี้ ไม่เป็นไร ก็ว่ากันไปตามกฎหมาย นี่กระทืบกันในบ้าน อาวุธสงคราม อาวุธปืน เขาไม่เห็น ก็ต้องไปเปิดดูภาพสิ ภาพเมื่อกี้ คนหนึ่งพกที 2-3 กระบอก เดี๋ยวประสานตำรวจค้นหมด ตรวจหมดทุกที่ ถ้าพบเมื่อไหร่ มีอาวุธปืนเถื่อน เจ้าของบ้านรับผิดชอบด้วย
- เยาวชนเข้าไปไม่นานก็ออกมาอีก 1-2 ปีก็อาจไปตามแก้แค้นหรือเปล่า จะปรามยังไง ?
ธนกฤต : เดี๋ยวจะมีกฎหมายเรื่องการกระทำความผิดซ้ำ พวกนี้ก่อเหตุบ่อย ๆ เดี๋ยวจับใส่อีเอ็มให้หมด มอนิเตอร์ไม่ให้มีพฤติกรรมแบบนี้ และสิ่งสำคัญคือเพิ่มโทษผู้ปกครองด้วย
- บางคนอาจเหลิง ได้ใจ แล้วเหิมเกริม คิดว่าเข้าไปไม่นานก็คงได้ออกมา พี่ธนกฤตจะดูแลให้ ?
ธนกฤต : ใช่ครับ จะดูแลให้ ผมประสานแล้ว เดี๋ยวจะให้ค้นทุกจุดที่เกี่ยวข้อง มีเด็กกี่คน ผู้ใหญ่กี่คน ก็ค้นทุกบ้าน พลอยกับอีก็ต้องเอาหมด เพราะคนนี้ก็เป็นคนก่อเหตุ พลอยนี่ไปเผาเขาได้ยังไง มันก็ไม่ถูก เอาไฟแช็กไปลน ไม่ใช่ของที่ควรจะทำ น่าจะโหดไปนิดหนึ่ง แต่ไม่เป็นไร เอารวม ๆ กันไปหมด
จากกรณีผู้ปกครองวัยรุ่น 3 คน ที่ถูกนักเรียนช่างกลโรงเรียนชื่อดังย่านมีนบุรี อุ้มไปกักขังภายในบ้านเรือนไทยหลังใหญ่ ซอยรามคำแหง 63 เขตหัวหมาก กรุงเทพฯ เข้าร้องเรียนกับ "ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์" ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อขอให้ช่วยติดตามคดี หลังผู้เสียหายทั้ง 3 คนถูกรุมทำร้าย ใช้ปืนข่มขู่ ถูกทำอนาจาร หวั่นเรื่องความไม่ปลอดภัย เพราะถูกข่มขู่
ล่าสุดในรายการ โหนกระแส วันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 ดำเนินรายการโดย "หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย" ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 ได้สัมภาษณ์ โอ๊ต, ทรัพย์, ฟลุ๊ค (นามสมมติ) ผู้เสียหาย มาพร้อม คุณแม่โอ๊ต คุณแม่ทรัพย์ และว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
- เรื่องเกิดอะไรขึ้น ?
โอ๊ต : วันนั้นวันที่ 27 ตุลาคม มีเติ้ล เพื่อนผมกลุ่มในนั้น ทักมาหาว่าจะมาหาที่บ้าน ช่วงเวลา 2-3 ทุ่ม ผมได้ลงไปรับเติ้ลข้างล่างตึก จากนั้นยืนคุยสักพักก็ขึ้นรถไปด้วย เติ้ลไม่ได้บอกว่ามากับกิ๊ฟ จากนั้นไปจอดตรงซอกตึก
- เติ้ลรู้จักมานานหรือยัง ?
โอ๊ต : สักพักหนึ่งครับ เคยเล่นด้วยกันตอนเด็ก ๆ ครับ ธรรมดาเราไปไหนมาไหนด้วยกันอยู่แล้ว รถมอเตอร์ไซค์เป็นของเติ้ล ผมเป็นคนซ้อน
- จากนั้นยังไง ?
โอ๊ต : ไปจอดไว้ซอกตึก แล้วมีกิ๊ฟ เพื่อนของเติ้ล กระโดดขึ้นมาปิดท้ายครับ ผมก็รู้จักกิ๊ฟ เป็นเพื่อนกันมาก่อนตอนที่เรียนด้วยกันครับ
- ตอนนั้นมี 3 คน เติ้ลเป็นคนขี่ เรา แล้วก็กิ๊ฟ นั่งปิดท้าย แล้วยังไง ?
โอ๊ต : ขับไปสักพักก็ถามว่าเติ้ลจะไปซื้อของที่ไหน เขาบอกว่าจะไปซื้อหลังรามฯ ผมให้เติ้ลจอด เขาก็ไม่จอด เอาศอกเข้าที่หน้า
- รู้ตัวเหรอว่าจะโดนอุ้ม ?
โอ๊ต : ผมรู้สึกแปลก ๆ ตรงที่บอกว่าจะไปซื้อที่อ่อนนุช 30 แล้วอยู่ดี ๆ พาไปรามคำแหง 24 ไปคนละที่กันเลย ก็บอกให้เขาจอดรถ แต่เขาไม่จอด แล้วก็โดนเติ้ลศอกเข้าที่หน้าครับ ผมก็หลบ กิ๊ฟก็ใช้อีกมือล็อกคอแล้วก็พูดว่ากูมีลูกกระสุนอีก 2 เม็ด มึงคิดว่ากูจะยิงพลาดไหม ถ้ามึงตุกติกให้รถล้มครับ
- แล้วเขาพาเราไปไหน ?
โอ๊ต : รามคำแหง 63 ครับ บ้านไม้เรือนไทย 2 ชั้นครับ จากนั้นผมก็ถูกเหวี่ยงไปในบ้าน ผมเห็นวัยรุ่นประมาณ 10 กว่าคนนั่งมั่วสุมกันอยู่ครับ แล้วผมโดนตะลุมบอนอยู่สักพักหนึ่ง
- ผู้ชายหมดเลยเหรอ ?
โอ๊ต : มีผู้หญิง 1 คนครับ ชื่อว่าพลอยครับ เขาแฟนนายอี ลูกเจ้าของบ้านครับ จากนั้นผมโดนกระทืบอยู่สักพัก ได้ยินเสียงมาจากข้างบนว่าทำอะไรกัน จากนั้นเขาก็ใช้ให้ผมไปหลังตึก ดึงตัวไปหลังตึก พอไปถึงหลังตึกก็ให้ผมทำท่าทหาร แล้วก็เตะเข้าอกครับ
- จากนั้นทำยังไงต่อ ?
โอ๊ต : มีเพื่อนเขามาล็อกผม บอกให้ผมถอดกางเกงและเสื้อผ้า แล้วใช้ไฟแช็กลนที่ขนเพชรครับ
- 16 คนเลยเหรอตรงนั้น ?
โอ๊ต : ออกมาประมาณ 7-8 คน ที่เหลือนั่งอยู่ในบ้าน หัวโจก ๆ ก็มีนายอี แฟนนายอี คือพลอย แล้วก็ร็อก แล้วก็อั๋นครับ ประมาณนี้ที่หนัก ๆ รวมถึงกิ๊ฟด้วยครับ จากนั้นก็กระทืบผมสักพักหนึ่งแล้วพาไปที่บ้าน ให้ผมแก้ผ้าอีกรอบ ใส่แค่บ็อกเซอร์ บังคับให้ผมช่วยตัวเอง จากนั้นใช้ไฟแช็กเผาขนอีกรอบ
- คนถือไฟแช็กคือใคร ?
โอ๊ต : เผาในบ้านคือนายอีครับ อีกครั้งน่าจะเป็นแฟนนายอีครับ
- คุณจำได้ใช่ไหม ?
โอ๊ต : จำได้ เพราะผมไม่ได้โดนปิดตา ครั้งแรกที่โดนคือนายอี ครั้งที่สองคือพลอย หลังจากนั้นพอเผาขนเสร็จ นายอีหยิบโทรศัพท์มาถ่ายคลิปผม ใช้มือตบหน้าประมาณ 4-5 นาที แล้วหยิบปืนมาตรงลิ้นชักมากระแทกที่หัวครับ
- คุณโดนก่อนคนแรก อีก 2 คนยังไม่มา วันที่โดนช่วงเวลากี่โมง ?
โอ๊ต : ประมาณ 4 ทุ่มครับ
- นอกจากเอาปืนกระแทกหัว มีรุมกระทืบอีกไหม ?
โอ๊ต : มีครับ แล้วเติ้ลเอาบุหรี่จี้ลิ้นครับ
- เพื่อนคุณที่เป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็ก ๆ เนี่ยนะ ?
โอ๊ต : ใช่ครับ
- 2 คนนี้มาได้ยังไง ?
โอ๊ต : ผมนอนอยู่ที่นั่น 1 คืน เขาไม่ได้ปล่อยกลับบ้าน ข้ามไปวันที่ 28 ตอนกลางวันมันไม่ทำอะไรเรา ปล่อยให้อยู่กับพวกเขา จากนั้นเขาหยิบโทรศัพท์ผมไป เลื่อนดูเจอเฟซทรัพย์ เขาถามว่าเรียนช่างอุตฯ เหรอ ผมบอกว่าใช่ แต่ตอนนี้ไม่ได้เรียนแล้ว แล้วมี 4-5 คนที่เอาโทรศัพท์ผมไป พิมพ์บอกน้องให้มารับหน่อยที่รามคำแหง 57
- คุณก็เลยไป ?
ทรัพย์ : ผมนั่งอยู่กับพี่ฟลุ๊ค อยู่แถว ๆ บ้าน ก็เลยไปกับพี่ฟลุ๊ค
- ฟลุ๊ครู้จักโอ๊ตไหม ?
ฟลุ๊ค : รู้จักครับ
- พอเป็นไลน์พี่เขาส่งมา เราเห็นก็ไป แต่ไม่ได้ไปคนเดียว โอ๊ตไม่ได้พิมพ์เลย เราเห็นว่าโอ๊ตเรียกเราก็ไป แต่เราเรียกฟลุ๊คไปด้วย พอไปถึงแล้วเป็นยังไง ?
ทรัพย์ : ประมาณ 10 นาที มีกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 10 กว่าคน ขับมอเตอร์ไซค์มา 2 คัน ประกบหน้าประกบหลัง วัยรุ่นถือปืนกรูกันมา บอกผมว่าอย่าวิ่ง ผมวิ่งไม่ได้ แล้วพี่ผมโดนกระทืบไปก่อน แต่ผมไม่ได้โดน เขาให้ผมนั่งรถไปท้ายซอยกับเขา ไปถึงรามคำแหง 63 เขาให้ผมถอดเสื้อปิดตา มีกิ๊ฟยืนรออยู่ แล้วไม่แน่ใจใครประกบพาผมเดินเข้าซอย พอถึงจุดเกิดเหตุกระทืบผมก่อน แล้วถามว่ามึงเรียนช่างอุตฯ เหรอ ผมก็บอกว่าผมเคยเรียนแต่ออกแล้ว เขาก็กระทืบอีกสักพักเลย พี่ฟลุ๊คก็โดนด้วย
- มีข้อมูลแจ้งพี่ธนกฤตว่ามีผู้ใหญ่กี่คน ?
ธนกฤต : ได้รับแจ้งว่าผู้ใหญ่จากเดิม 8 บวกอีก 3 เป็น 11 เยาวชน 6 คน แต่ระหว่างนี้ทางผู้ใหญ่มีการออกหมายจับแล้ว มาแล้ว 3 คนที่ตำรวจจับได้ ส่วนเยาวชน ศาลยังให้เป็นลักษณะออกหมายเรียกก่อน เดี๋ยวคงต้องมารับทราบข้อกล่าวหา เดิมเขาตั้งไว้ 3 ข้อหา ผมดูแล้วเมื่อสักครู่มีการพูดเรื่องเอาหัวเข็มขัดไปด้วย ก็จะมีข้อหาชิงทรัพย์เพิ่มเข้าไปอีก นักรบพวกนี้ต้องจัดให้เต็มสูบ เอาเลยเต็มที่ ส่วนเรื่องกระทรวงยุติธรรมได้ประสานทางนี้แล้ว เรื่องเยียวยา เรื่องดูแลร่างกายรักษาพยาบาล 4 หมื่น ฟื้นฟูจิตใจ เรื่องค่าทดแทนอื่น ๆ อีก 5 หมื่น ผมได้ประสานรองผู้บัญชาการนครบาลเรียบร้อย ท่านก็ได้เร่งรัดแล้ว ทั้งหมดตื่นตัวหมดแล้วที่ต้องตามคนเหล่านี้มา เพราะก่อเหตุอุกอาจเกินไป น่าเกลียดด้วยในสิ่งที่ทำ
- ทรัพย์ถูกจับไปวันที่ 28 โดนทรมานค่อนข้างเยอะ ตัวฟลุ๊คเองโดนยังไงบ้าง ?
ฟลุ๊ค : เขาถามผมว่าเรียนที่ไหน ผมก็บอกว่าไม่ได้เรียน เขาก็ไม่ฟัง เขาถามผมว่าเพื่อนมึงเรียนไหน ก็บอกว่าเพื่อนไม่ได้เรียนเหมือนผม เขาก็เอาโทรศัพท์ทรัพย์ไปดูครับ แล้วก็เห็นว่าทรัพย์เคยเรียนช่างอุตฯ เขาก็กระทืบเลย เขาบอกว่ามึงโกหกช่วยเพื่อนเหรอ ประมาณนี้ครับ
- คุณโดนพลอยทำร้ายด้วย ?
ฟลุ๊ค : ใช่ครับ จิกหัว ตบ จับแล้วให้ผู้ชายล็อกแขน แล้วเอารองเท้าผู้หญิงที่ส้นหนัก ๆ มาฟาดย้ำ ๆ ตรงหน้า พลอยแฟนอีเป็นคนทำเองครับ เขาเอารองเท้าฟาด ๆ ๆ หลายทีครับ
- มันซ้อมจนดั้งหักเลย เห็นว่าเขาให้เราต่อยกัน ?
โอ๊ต : ใช่ครับ ถ้าไม่ต่อยกันจะโดนหนักกว่าเดิม บอกว่าพวกมึงไม่ต่อยจะโดนส้นตีนพวกกูต่อ เราก็ต้องต่อยกัน แต่ไม่ได้ต่อยจริงจัง แต่เขาถ่ายคลิปไว้ ถือปืนไว้ล้อมรอบวง
- ปืนอะไรบ้าง ?
โอ๊ต : แมกกาซีนแล้วหักลำไทยประดิษฐ์ แล้วก็อูซี่ โดนเอามาตบหน้า
- แล้วเขาบังคับเรายังไงอีก ?
ทรัพย์ : ถ่ายคลิปอนาจาร ให้แก้ผ้า ให้เราทำเขาด้วย แล้วก็เตะหน้าอกครับ
- พอแม่รู้เรื่องนี้แม่ทำยังไง ?
แม่โอ๊ต : ตอนแรกที่ได้น้องกลับบ้าน เราถามลูกว่าไหวไหม ไปโรงพยาบาลไหม แต่น้องเขาบอกว่าโอเค แต่อีกวันเหมือนน้องเขาเจ็บหนักตรงสะโพก เขาลุกเองไม่ค่อยได้ แม่เลยพาน้องไปโรงพยาบาลคืนวันที่ 31 แล้วคุณหมอเห็นอาการน้องก็สอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น เราก็ได้เรียนโรงพยาบาลไปตามความจริงทุกอย่าง คุยกับน้องว่าเราจะอยู่แบบนี้ไม่ได้ เราต้องแจ้งความนะ แต่น้องพยายามบอกว่าแจ้งความไม่ได้ มันขู่เอาไว้ มันรู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ แต่คุณแม่ไม่เชื่อ
- ทั้ง 3 คนหลุดรอดมาได้ยังไง ?
โอ๊ต : ผมหายไปประมาณ 3 วัน เริ่มมีเพื่อน ๆ ผมในเฟซแล้วก็แม่ผมตามหา โทร. หาติดต่อคนนั้นคนนี้ มีเพื่อนผมเป็นผู้หญิง เป็นแฟนเก่าร็อก ก็บอกว่าโอ๊ตอยู่กับกลุ่มนี้ แม่ก็เลยบอกว่าถ้าไม่ปล่อยออกมา อีก 30 นาทีแม่จะไปแจ้งความ เขาก็เลยปล่อยมาช่วง 6 โมง วันที่ 29 ตุลาคม
- เราหนีออกมาได้ยังไง ?
โอ๊ต : ผมกับทรัพย์ได้ออกมาพร้อมกัน แต่ฟลุ๊คได้ออกก่อน
- ฟลุ๊คออกมาก่อนได้ยังไง ?
ฟลุ๊ค : ผมได้ออกตอนตี 3 วันที่ 29 เขาให้ผมพาไปบ้าน เขาจะดูบ้านผม เขาบอกว่าถ้าผมแจ้งความเขาจะมาถล่มบ้าน
- "พ่อของอี" อยู่ในสาย เรื่องที่เกิดขึ้นพ่อไม่รู้เรื่องมาก่อนว่าลูกนำ 3 คนนี้ไปทำร้ายร่างกายในบ้าน ?
พ่อของอี : เอาจริง ๆ ผมไม่รู้เรื่องหรอก ผมไปงานแต่งงานที่สุโขทัย
- วันนั้นพ่อเจอ 3 คนนี้อยู่ที่บ้านไหม ตอนพ่อกลับมา ?
พ่อของอี : ผมเห็นกลุ่มเพื่อนลูก ผมกลับมาตอนเที่ยงคืน แล้วเห็นคนเจ็บนอนอยู่ ผมก็ถามว่าเป็นอะไร ไปโดนอะไรมา เขาก็บอกว่าถูกทำร้ายมาใน กกท. อยู่ตรงข้ามซอยบ้าน ผมก็บอกว่าทำไมไม่พาไปหาหมอ ไม่ไปแจ้งความ เพราะลักษณะอาการมันเยอะ มันหนัก หนักมาก ผมนี่แหละขึ้นไปเอายาให้เขาทา ให้ทานยาพาราฯ ไล่เขาไปแล้วว่าทำไมไม่ไปหาหมอ ไม่ตามมูลนิธิมาพาเขาไปส่งโรงพยาบาล เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร เพื่อน ๆ ก็เอาน้ำแข็งมาประคบ ผมรู้แค่นี้ ผมก็ถามว่าตอนนี้เป็นยังไง เขาบอกว่าเจ็บที่หน้า ที่ตัว เราเห็นเขาไม่ไปหาหมอ ผมก็ขึ้นบ้านไป สักพักลงมาก็เห็นเขาร้องโอย ๆ ก็ถามว่ามันยังไง เขาบอกว่าเจ็บตรงนั้นตรงนี้ ก็เข้าใจว่าเป็นคนกลุ่มเดียวกัน ผมไม่รู้หรอกว่าเขาคือใคร เข้าใจว่าเป็นเพื่อนของเพื่อน
- กรณีอาวุธสงครามไปอยู่ในบ้านพ่อได้ยังไง ?
พ่อของอี : เอาตรง ๆ ผมไม่รู้หรอก เขาก็เข้า-ออก ๆ กัน มันทำงานก็มี เรียนก็มี เรียนด้วยทำงานด้วยก็มี
- ไม่ใช่ของพ่อ ?
พ่อของอี : โอ้โห ถ้าเป็นของผม ระดับคุมกองกำลังเลยนะเนี่ย ผมไม่รู้ ผมได้แต่ประกาศว่าห้ามเอาของผิดกฎหมายเข้ามาในบ้านผม แต่เขาก็มีเล็ก ๆ น้อย ๆ บอกว่าป้องกันตัว เขาเรียนหนังสือ ฝึกงานอยู่ ผมก็ไม่ได้อะไร ก็ปล่อยไป ไม่ได้คิดอะไรไง
- พ่อเห็นภาพปืนแล้วใช่ไหม มีเยอะมากนะ ?
พ่อของอี : ผมเห็นแวบ ๆ ตอนผมอยู่ไม่มีสักกระบอก
- พฤติกรรมลูกพ่อเป็นแบบนี้ไหม พ่อเคยรู้ไหมว่าลูกมีพฤติกรรมแบบนี้ ?
พ่อของอี : ลูกผม ผมคอนโทรลอยู่ ผมเอาอยู่ อยู่ข้างนอกผมก็ไม่รู้หรอก แต่อยู่กับผมก็ไม่มีอะไร เรียบร้อย คุยดี คุยปกติ เพราะเขายังอยู่ในบังคับของคดี เขามีคดีก่อนหน้านั้น ทำอะไรเยอะไม่ได้ เขามาตรวจค้นแล้วเจอกระสุนนัดเดียว ยังเจอคดีอยู่ ยังรายงานตัวอยู่ ผมก็พาลูกไปอยู่แล้ว ถ้าไม่ไปก็ผิดอีก จะยุ่งอีก ก็ต้องคอนโทรลเขา เขาอยู่ที่บ้านไม่ได้ไปไหน
- ลูกชายพาเพื่อน ๆ มานั่งสมาธิหลังบ้านจริงไหม ?
พ่อของอี : มีรับน้องอยู่ช่วงหนึ่ง เขาก็มานั่งสมาธิกันอะไรกัน ผมก็ไม่รู้ ก็ให้ลูกน้องดูว่าอย่าทำอะไรให้มันเยอะ เพราะรับน้องมันผิดกฎหมาย โรงเรียนไม่ได้มีกิจกรรมประเภทนี้ แต่เขาอยากจัดกันก็เอากันนิด ๆ หน่อย ๆ มีกัน 4-5 คนไม่ได้อะไร มีกิจกรรมนั่งสมาธิกัน วิดพื้นกันบ้าง อะไรแบบนี้ ผมก็เดินไปดูอยู่ ไม่เห็นว่าทำรุนแรงอะไร
- พ่อจะเยียวยา 3 คนนี้ยังไง ?
พ่อของอี : ก็ต้องไปดู ตอนนี้ผมก็แย่ ไม่สบายด้วย เบาหวานขึ้นเมื่อคืน แฟนก็ไม่สบาย
- พ่อจะเอายังไง ?
พ่อของอี : ต้องส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผมก็ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผมพูดไม่ออก ใจจริงก็ไม่ได้อยากให้มันมาอยู่ที่นี่ แต่เหมือนเด็กมันทำงานบ้าง ก็ใกล้ไง ที่บ้านผม ผมก็อนุญาตกันไป ส่วนพฤติกรรมแอบแฝงผมไม่รู้
- พ่อจะเอายังไงกับพลอย แฟนอี ?
พ่อของอี : ตัวพลอยก็ต้องไปคุยกับพ่อเขาก่อน ผมได้คุยเบื้องต้นเองว่าได้รับหมายหรือยัง จะไปพร้อมกันหรือยังไงก็ว่ากันไป แต่ผมไม่สบายไง
- แฟนลูกพ่อจุดไฟเผาไข่เขา จับขึงแล้วเอารองเท้าตบหน้าเขาอีก ?
พ่อของอี : ผมไม่รู้หรอกพี่ ถ้าผมรู้เรื่องนี้ไม่มีทางเกิดขึ้น ผมไม่ยอมหรอก ผมก็เรียนสถาบันเดียวกับน้องที่บาดเจ็บนี่แหละ ผมจะยอมเหรอ มันมาทำน้องผม หยามหน้าผมถึงในบ้านผมอีก ผมไม่ยอมหรอก
- เขาบอกพ่อมีอิทธิพลจริงไหม ?
พ่อของอี : โอ๊ย ตอนนี้ก็แย่แล้ว เดินจะไม่ไหวแล้ว จะไปมีอิทธิพลกับใคร
- พ่อดูแลลูกด้วยนะ ลูกเปรี้ยวเหลือเกิน ?
พ่อของอี : เขาก็ว่ากันไป ตอนอยู่กับผมเรียบร้อย แต่อยู่ข้างนอกผมไม่รู้ไง
- อยู่ข้างนอกเป็นผู้แสดงอภินิหารเลย ?
พ่อของอี : ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน อยู่กับผม ผมก็ต้องควบคุมเขา ต้องเรียนหนังสือ ต้องฝึกงาน ก็ตามโปรแกรม ลูกผมจะจบอยู่แล้ว
- พ่อจะเครียดหนัก ได้ไปเรียนต่อในสถานพินิจ ?
พ่อของอี : ก็เครียดแน่นอน คิดอะไรไม่ออก มันแย่ไปหมด
ธนกฤต : ลูกพ่อเหมือนนักรบ เดี๋ยวผมจะเอาไปฝึกงาน
พ่อของอี : ผมก็ต้องขอโทษทุกคน ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นหรอกครับ
ธนกฤต : ไม่เป็นไร ถ้าพ่อดูแลไม่ไหว ผมดูแลให้
พ่อของอี : ท่านเข้าใจผิดแล้ว ผมไม่ได้บอกว่าผมดูแลไม่ไหวครับ
ธนกฤต : มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นพ่อยังไม่ทราบเลย
พ่อของอี : ผมไม่ได้อยู่บ้าน ท่านเข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า ผมอยู่ระหว่างเดินทาง ผมก็ไม่รู้
- ก็ว่ากันไปตามตัวบทกฎหมายเนอะพ่อ ?
พ่อของอี : ครับ ผมเสียใจกับทั้ง 3 คนเลย
- พ่ออยากพูดอะไรกับแม่น้องเขาไหม ?
พ่อของอี : เสียใจอย่างสุดซึ้งครับ ถ้าลูกผมโดนบ้างก็เหมือนกัน ฉันใดก็ฉันนั้นครับ ผมรู้สึกเสียใจเหมือนกันถ้าลูกเราถูกกระทำบ้างก็เหมือนกันครับ เข้าใจมาก
- มันมีข่าวออกมาว่าพ่อจะไปแจ้งความ 3 คนนี้ ว่าแจ้งความเท็จ ?
พ่อของอี : ข่าวอะพี่ ข้อเท็จกับจริงไม่รู้ว่าข่าวมาจากไหน
- ลูกอยู่ไหน ?
พ่อของอี : เดี๋ยวจะพาไปมอบตัว พอดีผมมาทำเรื่องไว้นิดหนึ่ง
- พ่อเขาบอกว่าเขาไม่รู้เรื่อง โอ๊ตมองยังไง ?
โอ๊ต : ตอนผมโดนกระทืบ เหมือนพ่อโทร. มาหาอี โทร. มาบอกว่าพวกมึงทำอะไรเบา ๆ หน่อย คนในซอยเขาได้ยินกันหมดแล้ว อีก็บอกเพื่อนว่าพ่อไม่ได้ด่าอะไร แต่บอกให้ทำกันเบา ๆ พวกผมนั่งอยู่ตรงนั้นด้วยครับ
ธนกฤต : จะบอกว่าไม่รับรู้ เดี๋ยวไปให้การกับตำรวจว่าลักษณะที่พูดแบบนี้ ให้เอาหลักฐานเรื่องโทรศัพท์พูดคุยด้วย เป็นผู้สนับสนุนหรือเปล่า ถ้าเป็นผู้สนับสนุนต้องดำเนินคดีด้วย
- แม่ไปแจ้งความแล้ว ตำรวจบอกว่ายังไง ?
แม่โอ๊ต : วันที่ 3 พฤศจิกายน ที่ไปแจ้งความที่ สน.หัวหมาก เราก็เล่าทุกอย่างให้ตำรวจฟัง ตำรวจก็รับเรื่องเร็วนะคะ พอเขาได้คุยกับคุณแม่ก็สอบน้อง 3 คน ได้รายชื่อเด็กเร็วมาก แต่ตำรวจบอกว่าติดที่น้องพวกนี้เป็นเยาวชน คนที่ทำร้ายร่างกายตำรวจก็บอกว่าจะทำงานเต็มที่นะ ไม่ต้องกลัวค่ะ แต่ถามว่าเรากลัวไหม เรากลัวอยู่แล้ว แต่เรามั่นใจตำรวจว่าจะทำได้ค่ะ
- แม่ไปแจ้งวันที่ 3 นี่ 10 กว่าวันแล้ว มีอะไรคืบหน้าไหม ?
แม่โอ๊ต : ตำรวจบอกว่าได้รายละเอียดของเด็กเพิ่มขึ้น ผู้ใหญ่ที่อยู่ร่วมการกระทำเพิ่มขึ้น รู้รายชื่อทั้งหมด รู้ที่อยู่ทั้งหมด จับไปแล้วทั้งหมดน่าจะ 3 คนนะคะ
- แม่ทรัพย์กังวลใจอะไรไหม ?
แม่ทรัพย์ : กังวลใจความปลอดภัยในชีวิตลูกค่ะ มีการข่มขู่ว่าจะกลับมาถล่มบ้านทั้ง 3 คน จะติดตาม พูดว่าจะตามล่าพวกมึงทุกคน
ธนกฤต : ไม่ต้องกลัวตามล่า เดี๋ยวเราล่าก่อน ผมคงให้ตำรวจ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. น้องให้การว่ามีเรื่องเสพยาด้วย จะให้ลงพื้นที่ให้เต็มที่ ใครบอกว่าไม่รู้ไม่เกี่ยว ถ้าสอบปากคำว่าเกี่ยว ถ้าสอบปากคำถึงก็จะโดนข้อหา วันนี้เราต้องเอาความจริงให้ชัดเจน เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในสังคมไมได้หรอกครับ พยานหลักฐานถึงดำเนินคดีหมดทุกคน ไม่ปล่อย ผมก็จะเกาะติดและลงพื้นที่ด้วย
- คุณพ่อบอกว่าลูกชายไม่มีอะไร เวลารับน้องก็นั่งสมาธิกัน ?
ธนกฤต : คุณพ่อบอกว่าไม่รู้เรื่องก็ไม่เป็นไร ถ้าสอบปากคำถึงเมื่อไหร่ คุณพ่อก็รู้เรื่องเอง
- พ่อบอกเป็นศิษย์เก่าช่างอุตฯ ไม่ทำแบบนี้หรอก เขามีตึกแถว หรืออะไร ?
โอ๊ต : เป็นเหมือนอพาร์ตเมนต์ให้คนเช่าครับ แม่เขาน่าจะอยู่บนบ้าน
- เรื่องเยาวชน ครั้งก่อนเด็ก 18 ฆ่าเด็ก 13 ไม่ทันจะซา ครั้งนี้เยาวชนอีกแล้ว จริง ๆ สามารถผลักดันกฎหมายได้มากกว่านี้ไหมให้มีโทษที่รุนแรง ?
ธนกฤต : จริง ๆ แล้วเรามีกฎหมายต่างประเทศด้วยที่ให้การคุ้มครองเด็ก แต่ถ้าเยาวชนบางคนทำพฤติกรรมที่เป็นผู้ใหญ่ก็อาจถูกใช้กฎหมายลงโทษในลักษณะผู้ใหญ่ได้ด้วยเหมือนกัน ถ้าพฤติกรรมอุกอาจเกินไปก็เอาตัวไปไว้ที่เรือนจำผู้ใหญ่ได้เหมือนกัน เคสแบบนี้คงต้องสืบเสาะประวัติกันด้วยว่าเป็นอย่างไร และคงได้ดูเป็นกรณีพิเศษอีกนิดหนึ่ง คุณพ่อเขาบอกว่าดูแลได้ แต่ดูแลแล้วเป็นแบบนี้ ไม่เป็นไร ก็ว่ากันไปตามกฎหมาย นี่กระทืบกันในบ้าน อาวุธสงคราม อาวุธปืน เขาไม่เห็น ก็ต้องไปเปิดดูภาพสิ ภาพเมื่อกี้ คนหนึ่งพกที 2-3 กระบอก เดี๋ยวประสานตำรวจค้นหมด ตรวจหมดทุกที่ ถ้าพบเมื่อไหร่ มีอาวุธปืนเถื่อน เจ้าของบ้านรับผิดชอบด้วย
- เยาวชนเข้าไปไม่นานก็ออกมาอีก 1-2 ปีก็อาจไปตามแก้แค้นหรือเปล่า จะปรามยังไง ?
ธนกฤต : เดี๋ยวจะมีกฎหมายเรื่องการกระทำความผิดซ้ำ พวกนี้ก่อเหตุบ่อย ๆ เดี๋ยวจับใส่อีเอ็มให้หมด มอนิเตอร์ไม่ให้มีพฤติกรรมแบบนี้ และสิ่งสำคัญคือเพิ่มโทษผู้ปกครองด้วย
- บางคนอาจเหลิง ได้ใจ แล้วเหิมเกริม คิดว่าเข้าไปไม่นานก็คงได้ออกมา พี่ธนกฤตจะดูแลให้ ?
ธนกฤต : ใช่ครับ จะดูแลให้ ผมประสานแล้ว เดี๋ยวจะให้ค้นทุกจุดที่เกี่ยวข้อง มีเด็กกี่คน ผู้ใหญ่กี่คน ก็ค้นทุกบ้าน พลอยกับอีก็ต้องเอาหมด เพราะคนนี้ก็เป็นคนก่อเหตุ พลอยนี่ไปเผาเขาได้ยังไง มันก็ไม่ถูก เอาไฟแช็กไปลน ไม่ใช่ของที่ควรจะทำ น่าจะโหดไปนิดหนึ่ง แต่ไม่เป็นไร เอารวม ๆ กันไปหมด