หนุ่มงง มีคนมาปลูกบ้านพร้อมประกาศขายที่ดินของตัวเอง ด้านคู่กรณีแจงหนังคนละม้วน ซื้อที่ดินผิดแปลงจริง พยายามขอซื้อต่อ แต่โดนโขกไม่ขาย ราคา 4 แสน โขกไป 2 ล้าน
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
วันที่ 20 พฤศจิกายน 2565 เฟซบุ๊ก โหนกระแส รายงานว่า นายเอ วัย 45 ปี ร้องเรียนผู้สื่อข่าว พร้อมกับพาเข้าไปดูในที่ดินของตัวเอง พื้นที่ ต.ลาดหญ้า อ.เมืองเมือง จ.กาญจนบุรี ในนั้นมีบ้านชั้นเดียว 2 หลังสร้างอยู่ และมีการประกาศขายบ้านทั้ง 2 หลังที่กำลังสร้างอีกด้วย
นายเอ ยืนยันว่า ที่ดินแปลงนี้ตนมีเอกสารสิทธิ์อย่างถูกต้อง ขนาด 110.5 ตารางวา ไม่เคยจ้างใครมาก่อสร้าง กระทั่งวันที่ 13 ธันวาค ปีที่แล้ว ตนได้รับหนังสือให้มานำชี้วัดแนวเขตที่ดินข้างเคียง พอมาถึงก็ตกใจ เจอบ้าน 2 หลังปลูกในที่ดิน ทั้งที่ไม่ใช่บ้านตน
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
เบื้องต้นจากการคุยคนที่มาขอรังวัด จึงทราบว่า เป็นการปลูกบ้านในที่ดินผิดแปลง ซึ่งเจ้าหน้าที่เทศบาลจะออกหนังสือคำสั่งระงับการก่อสร้าง เพราะบ้านที่ปลูกเป็นการปลูกสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต ต่อมาหนังสือระงับการก่อสร้างกลับแจ้งมาที่ตน แล้วมีการจะปรับเงินฐานก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต เรื่องนี้ตนงงมาก เพราะตนเป็นเจ้าของที่ดินที่ถูกบุกรุก และไม่ได้ก่อสร้างบ้าน
ด้วยเหตุนี้ ตนจึงไปแจ้งความที่ สภ.ลาดหญ้า แล้วเอาเอกสารยืนยันการถือครองที่ดินไปแจ้งความข้อหาบุกรุกกับผู้ที่มาสร้างบ้านในที่ดินของตน ตอนนี้คดีอยู่ที่ชั้นของอัยการ นอกจากนี้ยังมีการร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด และนัดไกล่เกลี่ยกับคู่กรณีมาหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถตกลงกันได้ ทำตนเสียเวลาและเสียค่าใช้จ่ายมาก
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
คู่กรณีแจงหนังคนละม้วน ขอซื้อแล้วแต่โดนโขกถึง 2 ล้าน ทั้งที่ราคาประเมิน 4 แสน
นางบี (นามสมมติ) วัย 50 ปี เป็นคนสร้างบ้านบนที่ดินนายเอ ยอมรับว่าตนสร้างบ้านบนที่ดินดังกล่าวจริง แต่ไม่ได้เจตนา เพราะตนไปขอซื้อที่ดินจากเจ้าของเดิม มีเจ้าของที่ดินมาชี้ที่ดินให้ จากนั้นตนก็จ้างฝ่ายเอกชนมาทำการรังวัดที่ดิน จึงทราบว่าตนไปสร้างบ้านบนที่ดินคนอื่น เจ้าของเดิมชี้ผิดแปลง พอรู้ว่าตนสร้างผิดก็หยุดสร้างทันที และติดต่อไปยังนายเอเพื่อเจรจา โดยจะขอซื้อที่ดินแปลงที่ตนถมที่และสร้างบ้าน ราคาประเมินเท่าที่ทราบ ราว 3-4 แสนบาท
อย่างไรก็ตาม การพูดคุยหลายครั้ง ไม่สามารถเจรจาได้ เพราะนายเอเรียกค่าขายเป็นเงินจำนวน 2 ล้านบาท แพงกว่าราคาประเมินหลายเท่า ตนต่อรองเหลือ 1.2 ล้านบาท ก็ยังไม่ยอม จึงอยากขอความเมตตาจากคู่กรณีช่วยลดราคาเพื่อจบปัญหาดังกล่าวด้วยดี