คืบหน้า น้องภูผา เด็ก 4 ขวบ เสียชีวิตหลังล้มในห้องเรียนอนุบาล 2 โรงเรียนเอกชนฝั่งธน พบสาเหตุจากเลือดออกในสมอง ด้านเพจดังแนะต้องสังเกตอาการ รีบให้หมอประเมิน
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
จากกรณีที่ ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ เปิดเคสร้องทุกข์ของครอบครัวหนึ่งที่สูญเสียลูกชายวัย 4 ขวบ หลังเข้าเรียนชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนเอกชนราคาแพง ต่อมาได้รับแจ้งว่าลูกล้มในห้องเรียน ก่อนจะกลับบ้านมาแล้วอาการทรุดหนัก และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ซึ่งกรณีนี้ยังข้อพิรุธเรื่องที่โรงเรียนอ้างว่ากล้องวงจรปิดเสียนั้น
อ่านข่าว : ลูกอนุบาล 2 สะดุดกระเป๋าล้ม เสียชีวิตที่บ้าน ผลชันสูตรทำแม่ช้ำ รร. บอกกล้องเสียพอดี
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 รายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ช่อง 3 รายงานว่า นางนภาพร อายุ 26 ปี คุณแม่น้องภูผา เล่าว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยช่วงเช้าคุณปู่ไปส่ง น้องภูผา ลูกชาย อายุ 4 ขวบ 6 เดือน เข้าเรียนชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนเอกชน ย่านปากน้ำภาษีเจริญ จากนั้นหลังเลิกเรียน 16.30 น. คุณครูแจ้งกับปู่ว่าน้องไปเหลาดินสอแล้วสะดุดกระเป๋าล้มร้องไห้ ซึ่งจากการดูตามร่างกายน้องภูผาไม่มีบาดแผล
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
เมื่อกลับมาที่บ้าน น้องภูผาบอกกับปู่ว่าน้องเจ็บที่แก้ม และง่วงนอน ปู่จึงให้กินยาแล้วเข้านอน ต่อมาเวลา 18.30 น. เธอและสามีกลับมาบ้าน ขณะนั้นน้องตื่นขึ้นมาพอดี และบอกว่าเจ็บแก้ม จากนั้นก็ให้น้องดื่มนมแล้วเข้านอน ต่อมาน้องอาเจียน หน้าซีด น้ำลายไหล จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลแจ้งว่าน้องไม่มีชีพจร ต้องรีบพาเข้าห้องฉุกเฉินแล้วปั๊มหัวใจ
หลังจากนั้น หมอบอกว่าได้ช่วยเหลือน้องอย่างเต็มที่แล้ว ให้คุณพ่อคุณแม่ทำใจ ก่อนจะแจ้งว่าน้องเสียชีวิตแล้ว ผลชันสูตรเบื้องต้นน้องได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะ มีเลือดออกที่บริเวณเยื่อหุ้มสมอง ยอมรับว่าเธอและสามียังทำใจไม่ได้ ติดใจการเสียชีวิตของลูกชาย จึงเดินทางไปที่โรงเรียนเพื่อขอดูกล้องวงจรปิด แต่ทางโรงเรียนบอกว่ากล้องเสีย และช่วยค่าทำศพ เพียงแค่สองหมื่นบาท
ด้านทนายรณณรงค์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่เกิดขึ้น ต้องตรวจสอบหาสาเหตุก่อนว่าเกิดจากสาเหตุใด เด็กล้มฟาดที่โต๊ะ หรือ ฟาดที่พื้น ซึ่งต้องให้คุณหมอพิสูจน์ว่า เกิดจากการกระแทกแบบไหน จากกรณีที่ไม่นำตัวเด็กส่งโรงพยาบาลทันทีที่เกิดเหตุ อาจเข้าข่าย เป็นการประมาทเลินเล่อ เนื่องจากไม่นำตัวเด็กส่งโรงพยาบาล จนประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายหรือไม่
ขณะที่ เพจเฟซบุ๊ก Drama-addict จากข่าวน้องคนนี้ที่ล้มที่โรงเรียน แล้วเสียชีวิตจาก เลือดออกในสมองในเวลาต่อมา ออกมาเตือนให้ทางโรงเรียนและผู้ปกครองต้องระวังเรื่องการเกิดอุบัติเหตุกระทบกระเทือนที่ศีรษะในเด็ก เมื่อเด็กได้รับบาดเจ็บจนมีเลือดออกในสมอง ขึ้นอยู่กับตำแหน่ง และปริมาณของเลือดที่ออก บางจุดอาจจะมีอาการอย่างรวดเร็ว บางจุดอาจจะต้องใช้เวลากว่าจะมีอาการผิดปกติ
สิ่งที่สำคัญคือการสังเกตอาการ หากเด็กมีอาการซึมลง ไม่สามารถทำตามคำสั่งได้ ปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน ปวดตา ตามัว เดินเซ อ่อนแรง ชัก หมดสติ ต้องรีบพาส่งโรงพยาบาลโดยทันที บางรายตอนแรกมีอาการเล็กน้อย แต่จะค่อย ๆ แสดงอาการหลังจากนั้น ดังนั้นถ้ามีความเสี่ยงบาดเจ็บกระทบกระเทือนที่ศีรษะจนหมดสติ ต่อให้ฟื้นมาถามตอบทำตามคำสั่งได้ ก็ควรให้แพทย์ประเมินโดยละเอียดว่าจำเป็นต้อง CT สมอง และนอนสังเกตอาการที่โรงพยาบาลหรือไม่