ดาราไต้หวัน ฟาดกลับตำรวจไทย ลั่นไม่ได้ดื่ม หลังถูกกล่าวหาว่าเมา ลั่นให้ชี้ตัวตำรวจที่รีดไถเงินไปก็ได้ เพราะจำไม่ลืม แซะถ้าจ่ายเงิน 7,000 บาท นำขบวน VVIP คงไม่ต้องปวดหัว
ภาพจาก Instagram charlene_an517
ภาพจาก Instagram charlene_an517
อ่านข่าว : สรุปไทม์ไลน์ ดาราไต้หวัน ถูก ตร. ไทยไถเงิน - ตร. ชี้ผิดบุหรี่ไฟฟ้า แต่คลิปเสียงหาย
วันที่ 27 มกราคม 2566 สรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศข่าวชื่อดัง รายงานว่า คนขับแกร็บ ที่ขับพาดาราสาวเข้ามาในจุดเกิดเหตุให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากที่ตนได้รับการเรียกให้ไปรับผู้โดยสารบริเวณหน้าร้านสถานบันเทิงแห่งหนึ่งย่าน RCA เวลาประมาณตี 2 กว่า เพื่อมาส่งยังจุดหมายปลายทางโรงแรมย่านห้วยขวาง ซึ่งกลุ่มผู้โดยสารกลุ่มนี้มีทั้งหมด 4 คน เป็นชาย 3 หญิง 1 มีผู้ชายคนหนึ่งพอจะพูดภาษาไทยได้ พูดจาโมโหใส่อารมณ์ตวาดใส่ตน และเมื่อขึ้นรถมาเห็นได้ทันทีเลยว่ามีอาการมึนเมา กลิ่นแอลกอฮอล์แรงมากจนต้องขับรถเปิดกระจก และตนจำผู้หญิงคนนี้ได้แม่น เพราะเมาแล้วโวยวายเสียงดังที่สุดในรถ
เมื่อกลุ่มผู้โดยสารเดินขึ้นรถ ตนได้วิ่งตามเส้นทาง GPS จากย่าน RCA มาตามทางเส้นพระราม 9 ก่อนจะมาเลี้ยวซ้ายเข้า อสมท. มาตามถนนรัชดา ก่อนจะมาเจอด่านตรวจที่หน้าสถานทูตจีน จากนั้นได้มีตำรวจเรียกขอตรวจ ตนก็เปิดไฟในรถ ตำรวจก็ว่าจะไปไหนตนก็บอกไปว่าเป็นแกร็บ ตำรวจก็บอกว่าขอตรวจเช็กผู้โดยสาร และหันไปพูดภาษาอังกฤษกับผู้โดยสารว่า Police Check ซึ่งตอนนั้นผู้หญิงมีอาการไม่พอใจชัดเจน ไม่อยากให้ตรวจค้นและเมาด้วย ตำรวจก็พยายามเชิญลงจากรถ ผู้โดยสารก็ทำทีท่าไม่อยากลง แต่สุดท้ายก็ลง
ซึ่งระหว่างที่ตรวจค้น มีตำรวจเข้ามาตรวจค้นทั้งหมด 3 นาย โดยตำรวจได้ให้ผู้โดยสารเปิดกระเป๋า และส่องไฟฉายลงไปให้ผู้โดยสารเป็นคนรื้อกระเป๋าให้ดูเอง ไม่ได้แตะต้องข้าวของ และแตะตัวเฉพาะผู้โดยสารผู้ชายเท่านั้น ใช้เวลาตรวจค้นนานประมาณ 30 นาที โดยตนไม่ค่อยได้หันไปมอง จะหันไปเฉพาะเวลาได้ยินเสียงผู้หญิงโวยวายเป็นภาษาจีนเสียงดังใส่ตำรวจ และมีพยายามจะพูดภาษาไทยด้วย ซึ่งตำรวจก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร และก็ไม่ว่ามีการพยายามจะถ่ายคลิป จากนั้นผู้โดยสารผู้ชายที่พูดไทยได้เดินมาหาตนแล้วจ่ายเงิน 80 บาท แล้วก็บอกให้ไป ตนยังคิดอยู่เลยว่าขาดทุน เพราะค่าโดยสาร 89 บาท แต่ก็ขับรถออกมา ขอยืนยันว่าระหว่างที่จอดรถอยู่ในด่าน ตนไม่สังเกตเห็นความผิดปกติใด ๆ ตำรวจตรวจค้นปกติ ส่วนผู้โดยสารมีบุหรี่ไฟฟ้าจริงหรือไม่ ตนไม่ได้สังเกต
อย่างไรก็ตาม หลังมีข่าวตนก็รู้สึกคุ้นหน้านักท่องเที่ยวหญิงจึงมาเปิดดูในไทม์ไลน์แอปพลิเคชัน ซึ่งส่วนมากตนจะจำลูกค้าประเภทที่เมาโวยวายได้แม่น เลยคิดว่าใช่แน่ พอตำรวจเรียกมาจึงให้ความร่วมมือ เพราะมองว่านักท่องเที่ยวหญิงให้ข่าวเกินไป ทำให้เสียภาพพจน์ประเทศไทย ส่วนที่เจ้าตัวออกมาชี้แจงผ่านอินสตาแกรมว่าไม่ได้ดื่ม ตนยืนยันได้ว่า เมา 100% อยากให้ออกมาพูดความจริง ก็ให้สังคมตัดสินว่าจะเชื่อคนเมาหรือคนไม่เมา ส่วนกล้องหน้ารถตนบันทึกเสียงได้ แต่ไฟล์ภาพถูกลบไปแล้ว เพราะตนจะฟอร์แมตทุก 7 วัน แต่ก็ได้นำเมมโมรี่การ์ดให้ตำรวจนำไปตรวจสอบแล้ว
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
- เธอไม่ได้ดื่ม ตอนนี้ตำรวจไทยพยายามเบี่ยงเบนใช้ประโยชน์ฉัน เพื่อล้างมลทินให้ตัวเอง
- เธอสามารถชี้ตัวตำรวจที่เอาเงินไปได้ เพราะว่าจำไม่มีวันลืม
- ท้าให้ตำรวจเอาภาพ CCTV ออกมา พร้อมกับบอกว่า ตอนนี้ตำรวจมาโยนความผิดใส่ ซึ่งมีคนอ้างว่าเป็นตำรวจติดต่อมาเยอะมาก ซึ่งเธอจะคุยกับตำรวจสากลและสื่อไต้หวันเท่านั้น
- พร้อมกับทิ้งท้ายไว้ว่า ครั้งหน้าหากฉันจ่าย 7,000 บาท นำขบวน คงไม่ต้องมานั่งปวดหัว
ภาพจาก เฟซบุ๊ก หนีห่าวไต้หวัน ฉันมาแล้ว
ภาพจาก เฟซบุ๊ก หนีห่าวไต้หวัน ฉันมาแล้ว
ภาพจาก เฟซบุ๊ก หนีห่าวไต้หวัน ฉันมาแล้ว
ภาพจาก เฟซบุ๊ก หนีห่าวไต้หวัน ฉันมาแล้ว
ภาพจาก เฟซบุ๊ก หนีห่าวไต้หวัน ฉันมาแล้ว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก หนีห่าวไต้หวัน ฉันมาแล้ว, สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว