พะยูนน้อย ไวรัลว่ายเกาะหลังเต่าอ่าวดงตาล ลอยตายยังไม่แน่ชัดสาเหตุ หลังอยู่ลำพังขาดแม่ที่ตายไปนับเดือน ด้าน ดร.ธรณ์ กังวลวิกฤตพะยูนสัตหีบ
จากภาพที่เพิ่งเป็นไวรัลสุดน่ารักช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา สำหรับภาพของ ลูกพะยูน ซึ่งว่ายเกาะอยู่บนหลังเต่าตนุ ที่อ่าวดงตาล อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หลังจากลูกพะยูนตัวดังกล่าวต้องใช้ชีวิตในทะเลเพียงลำพังมานานนับเดือนเพราะแม่ของมันได้ตายไปแล้วนั้น
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยทางทะเลหน่วยกู้ภัยสว่างโรจนธรรมสถาน พบซากพะยูนน้อย เพศผู้ ลอยตายบริเวณอ่าวสัตหีบ ม.2 ต.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยยังไม่ทราบสาเหตุการตายที่แน่ชัด ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ยังได้รับแจ้งเรือประมงว่า มีสัตว์ทะเลคล้ายพะยูนติดอวนประมงชาวบ้าน บริเวณใกล้เคียงที่พบพะยูนตายลอยอยู่ จึงได้จัดชุดประดาน้ำลงดำสำรวจ แต่ไม่พบว่ามีสัตว์ทะเลติดอวนอยู่ ซึ่งก่อนหน้านี้ ทางเจ้าหน้าที่กองทัพเรือ ได้มีการบันทึกภาพพะยูนตัวดังกล่าวลอยเล่นน้ำทะเลอยู่กับเต่าทะเลบริเวณอ่าวสัตหีบเป็นประจำอีกด้วย
ด้าน ชาวประมงในพื้นที่กล่าวว่า บริเวณหน้าอ่าวสัตหีบมักพบฝูงพะยูนเข้ามาหากินอาหารประจำ เพราะบริเวณนั้นเป็นแหล่งอาหารของพะยูน มีหญ้าทะเลขึ้นจำนวนมาก ส่วนพะยูนที่พบนี้รับว่าเป็นพะยูนที่กำลังเติบโต น่าเสียดายที่ต้องมาตาย ซึ่งต้องรอผ่าพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุการตายแน่ชัดต่อไป
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ผศ. ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat เล่าเรื่องราวชวนเศร้าของลูกพะยูนดงตาล ใจความว่า ดงตาลเป็นลูกพะยูนเพศผู้ อาศัยอยู่ในอ่าวสัตหีบกับแม่เมื่อปี 2565 แม่ลูกอยู่ด้วยกันแสนสุข แต่มันไม่ยืนยาว เมื่อต้นเดือนธันวาคม แม่พะยูนตาย เกยตื้นที่สัตหีบ หลายคนเชื่อว่าเป็นแม่ของดงตาล เพราะหลังจากนั้นมีรายงานว่าพบลูกพะยูนอยู่เพียงลำพังในอ่าวสัตหีบ มีข่าวเป็นระยะ เช่น เจอพะยูนอยู่กับเต่า จนมีการสำรวจร่วมกันระหว่างทหารเรือกับผู้เชี่ยวชาญเรื่องพะยูน ทำให้เกิดภาพและเรื่องราวที่น่าประทับใจ
อย่างไรก็ดี พอจะทราบอยู่ว่าโอกาสที่ดงตาลจะรอดมีน้อยยิ่งกว่าน้อย เนื่องจากดงตาลยาวแค่เมตรเดียว ยังไม่น่าจะหย่านม อยู่เพียงลำพัง ธรรมชาติโหดร้าย แต่อาจไม่โหดเท่ามนุษย์ที่ "อาจ" เป็นสาเหตุทำให้แม่ดงตาลจากไป จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของจุดจบ
นอกจากนี้ เรื่องที่เศร้าเช่นกันคือ ตามรายงานของกรมทะเลใน 2565 ที่สัตหีบมีพะยูน ราว 5 ตัว ในเวลา 6 เดือน พะยูนตาย 3 ตัว คงไม่ใช่เรื่องดีเลย สถานการณ์พะยูนที่สัตหีบกำลังวิกฤตถึงขีดสุด และหากเราไม่ทำอะไรเลย คำว่าจบบริบูรณ์อาจมาถึงอย่างแท้จริง