ศาลมีคำสั่งให้คุ้มครอง แทนไท ณรงค์กูล กรณี สนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวหาเอี่ยวธุรกิจสีเทา-ฟอกเงิน สั่งให้จำเลยลบข้อมูลบนระบบคอมพิวเตอร์และสื่อสังคมออนไลน์ทั้งหมดที่ละเมิดต่อโจทก์โดยทันที
ภายหลังจากเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 ศาลมีคำสั่งให้รับคำฟ้องคดีที่ นายแทนไท ณรงค์กูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไททัน แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ได้ยื่นฟ้อง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ดำเนินรายการ สนธิทอล์ค (Sondhitalk) ทั้งคดีแพ่งและอาญา ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาและละเมิด โดยเรียกค่าเสียหายจำนวน 1,000 ล้านบาท พร้อมขอให้ศาลพิจารณาไต่สวนฉุกเฉินเพื่อคุ้มครองชั่วคราว ให้นายสนธิหยุดกระทำการเผยแพร่ข้อความและข้อมูลที่หมิ่นประมาทนั้น
ต่อมา เวลา 14.30 น. ในวันเดียวกัน ศาลแพ่งได้พิจารณาไต่สวนฉุกเฉินแล้วมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว โดยพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ข้อความและรูปภาพที่จำเลยกระทำโดยกล่าวอ้างว่าโจทก์เป็นเจ้าของเว็บไซต์เล่นพนันออนไลน์ ฟอกเงิน และบริษัท ไมนิ่งโปร จำกัด ซึ่งโจทก์เป็นผู้ถือหุ้น ลักกระแสไฟฟ้ามาใช้ อันเป็นการกระทำที่ถูกฟ้องร้องยังคงบันทึกอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ บุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ตลอดเวลา และจำเลยมีพฤติกรรมที่จะกระทำซ้ำต่อไป อันทำให้โจทก์ได้รับความเดือดร้อนเสียหายต่อไป ดังนั้น คำร้องของโจทก์มีเหตุผลเพียงพอและจำเป็นที่จะคุ้มครองประโยชน์ของโจทก์ไว้ชั่วคราวก่อนพิพากษา
จึงมีคำสั่งห้ามมิให้จำเลยเผยแพร่รายการโทรทัศน์ออนไลน์ "สนธิทอล์ค" พูดหรือแสดงข้อมูลใด ๆ ให้บุคคลทั่วไปเข้าใจว่าโจทก์เป็นเจ้าของเว็บไซต์เล่นพนันออนไลน์ ฟอกเงิน และบริษัท ไมนิ่งโปร จำกัด ซึ่งโจทก์เป็นผู้ถือหุ้น ลักกระแสไฟฟ้ามาใช้ รวมทั้งให้จำเลยปิดกั้นมิให้บุคคลทั่วไปเข้าถึงคลิปรายการโทรทัศน์ ข้อความ และรูปภาพที่ละเมิดต่อโจทก์ทั้งหมด ออกจากระบบคอมพิวเตอร์ทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ทุกช่องทาง เป็นการชั่วคราวในระหว่างการพิจารณา จนกว่าศาลจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น
ด้านนายแทนไท ณรงค์กูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไททัน แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด กล่าวว่า "ผมขอกราบขอบพระคุณกระบวนการยุติธรรมของศาล ที่ช่วยให้ประชาชนคนธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่มีกระบอกเสียงที่ใช้โน้มน้าวหรือชี้ชวนประชาชนให้เข้าใจผิด ได้มีหนทางในการต่อสู้เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตนเอง ที่ผ่านมาผมได้รับผลกระทบอย่างมากจากการถูกกล่าวหา ให้ร้าย ทำให้ประชาชนในประเทศจำนวนไม่น้อยเข้าใจผิด และเกิดความเสื่อมเสียทั้งทางด้านธุรกิจ ไปจนถึงชีวิตส่วนตัวเป็นอย่างมาก แต่ในวันนี้ผมได้รับความเมตตาจากศาลที่มีคำสั่งคุ้มครองให้เขาหยุดการกระทำที่ทำร้ายผมตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา นับจากนี้ เรื่องทั้งหมดได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว ผมพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อให้ความจริงปรากฏสู่สาธารณชนต่อไปครับ"
ภายหลังจากเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 ศาลมีคำสั่งให้รับคำฟ้องคดีที่ นายแทนไท ณรงค์กูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไททัน แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ได้ยื่นฟ้อง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ดำเนินรายการ สนธิทอล์ค (Sondhitalk) ทั้งคดีแพ่งและอาญา ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาและละเมิด โดยเรียกค่าเสียหายจำนวน 1,000 ล้านบาท พร้อมขอให้ศาลพิจารณาไต่สวนฉุกเฉินเพื่อคุ้มครองชั่วคราว ให้นายสนธิหยุดกระทำการเผยแพร่ข้อความและข้อมูลที่หมิ่นประมาทนั้น
ต่อมา เวลา 14.30 น. ในวันเดียวกัน ศาลแพ่งได้พิจารณาไต่สวนฉุกเฉินแล้วมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว โดยพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ข้อความและรูปภาพที่จำเลยกระทำโดยกล่าวอ้างว่าโจทก์เป็นเจ้าของเว็บไซต์เล่นพนันออนไลน์ ฟอกเงิน และบริษัท ไมนิ่งโปร จำกัด ซึ่งโจทก์เป็นผู้ถือหุ้น ลักกระแสไฟฟ้ามาใช้ อันเป็นการกระทำที่ถูกฟ้องร้องยังคงบันทึกอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ บุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ตลอดเวลา และจำเลยมีพฤติกรรมที่จะกระทำซ้ำต่อไป อันทำให้โจทก์ได้รับความเดือดร้อนเสียหายต่อไป ดังนั้น คำร้องของโจทก์มีเหตุผลเพียงพอและจำเป็นที่จะคุ้มครองประโยชน์ของโจทก์ไว้ชั่วคราวก่อนพิพากษา
จึงมีคำสั่งห้ามมิให้จำเลยเผยแพร่รายการโทรทัศน์ออนไลน์ "สนธิทอล์ค" พูดหรือแสดงข้อมูลใด ๆ ให้บุคคลทั่วไปเข้าใจว่าโจทก์เป็นเจ้าของเว็บไซต์เล่นพนันออนไลน์ ฟอกเงิน และบริษัท ไมนิ่งโปร จำกัด ซึ่งโจทก์เป็นผู้ถือหุ้น ลักกระแสไฟฟ้ามาใช้ รวมทั้งให้จำเลยปิดกั้นมิให้บุคคลทั่วไปเข้าถึงคลิปรายการโทรทัศน์ ข้อความ และรูปภาพที่ละเมิดต่อโจทก์ทั้งหมด ออกจากระบบคอมพิวเตอร์ทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ทุกช่องทาง เป็นการชั่วคราวในระหว่างการพิจารณา จนกว่าศาลจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น
ด้านนายแทนไท ณรงค์กูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไททัน แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด กล่าวว่า "ผมขอกราบขอบพระคุณกระบวนการยุติธรรมของศาล ที่ช่วยให้ประชาชนคนธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่มีกระบอกเสียงที่ใช้โน้มน้าวหรือชี้ชวนประชาชนให้เข้าใจผิด ได้มีหนทางในการต่อสู้เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตนเอง ที่ผ่านมาผมได้รับผลกระทบอย่างมากจากการถูกกล่าวหา ให้ร้าย ทำให้ประชาชนในประเทศจำนวนไม่น้อยเข้าใจผิด และเกิดความเสื่อมเสียทั้งทางด้านธุรกิจ ไปจนถึงชีวิตส่วนตัวเป็นอย่างมาก แต่ในวันนี้ผมได้รับความเมตตาจากศาลที่มีคำสั่งคุ้มครองให้เขาหยุดการกระทำที่ทำร้ายผมตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา นับจากนี้ เรื่องทั้งหมดได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว ผมพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อให้ความจริงปรากฏสู่สาธารณชนต่อไปครับ"