ดราม่า เพจดังอวยเครื่องแบบ รร. อินเตอร์ ฝึกให้เด็กรับกติกา คอมเมนต์อย่างกับอยู่ในสนามรบ

          สรุปดราม่า เพจดังเลี้ยงลูก พูดถึงเรื่องเครื่องแบบโรงเรียนอินเตอร์ชื่อดัง ค่าเทอมเทอมละ 1 ล้าน ชี้คือการสอนให้ลูกเรียนรู้การรักษากฎและยอมรับกติกา รู้จักวินัยและกาละเทศะ คนมาตอบคอมเมนต์ อยากให้ลูดรู้จักกติกา ก็ส่งเรียนที่โรงเรียนไทยสิ ฟาดกันยับ ๆ คอมเมนต์ดั่งอยู่ในสนามรบ

           กำลังเป็นดราม่าร้อน ๆ ในตอนนี้บนโลกออนไลน์ เมื่อเพจเลี้ยงลูกเพจหนึ่ง ได้ออกมาพูดถึงเรื่องของเครื่องแบบนักเรียนโรงเรียนอินเตอร์ชื่อดัง ค่าเทอมเทอมละล้าน จิปาถะอีก 4 แสน และมีการคัดกรองอาชีพและผู้ปกครองก่อนรับนักเรียนเข้าเรียน ซึ่งทางเพจบอกว่า ตนเพิ่งเข้าใจเรื่องความสำคัญของเครื่องแบบและทรงผมของนักเรียนเมื่อเกือบ 20 ปีก่อน หลังจากที่ส่งลูกเข้าเรียนที่โรงเรียนอินเตอร์ และก่อนวันเปิดเรียนก็มีครูใหญ่ขึ้นมาพูด โดยใจความคือ ที่โรงเรียนแห่งนี้ ให้ความสำคัญกับเครื่องแบบและทรงผมของนักเรียน เพราะเป็นเรื่องของความปลอดภัย ใครที่ไม่ได้แต่งเครื่องแบบนักเรียน จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในพื้นที่ของโรงเรียน และที่สำคัญคือ เครื่องแบบและทรงผมของนักเรียน เป็นก้าวแรกในการปลูกฝังการยอมรับ การเคารพ และปฏิบัติตามกฎกติกาของสังคม ที่อบรมให้นักเรียนรู้จักวินัย ปฏิบัติตัวตามกาละเทศะ หากใครไม่เห็นด้วย ไม่ยอมรับ ให้แสดงตัว และไปหาที่เรียนใหม่เลย

           คนที่เป็นพ่อแม่ น่าจะเข้าใจว่าเรื่องกฎระเบียบเหล่านั้น มีหน้าที่และประโยชน์ต่อลูกหลานของเราอย่างไร และควรหาทางอธิบายให้ลูกเข้าใจและรับรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนนี้ ที่คนที่มีหน้าที่รักษากฎกติกา ไม่ต้องการทำหน้าที่ของตัวเอง สยบยอมให้มีการยกเลิกกฎระเบียบเหล่านี้ ด้วยข้ออ้างเรื่องเสรีภาพ ทั้งที่เสรีภาพไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้

           ในเวลานี้ หากลูกรู้จักยอมรับ ปฏิบัติตามกฎของสังคม มีระเบียบวินัย รู้จักกาละเทศะ ลูกก็จะมีโอกาสในชีวิตมากกว่าที่เด็กคนอื่นที่ไม่มี "การเป็นคนปกติในหมู่คนเลว ก็เหมือนกับการเป็นคนดี คนเก่งในหมู่คนปกติ"

ดราม่าระอุ คนคอมเมนต์ มีระเบียบวินัยกับเชื่อฟังโดยไม่ตั้งคำถาม ไม่เหมือนกัน โดนตอบกลับ คลั่งไปหรือเปล่า

           งานนี้กลายเป็นว่า โพสต์เดียวทำเอาทัวร์ลงเพจอย่างหนัก มีคนเข้ามาบอกว่า อยากให้ลูกมีระเบียบวินัย ก็ให้ลูกมาตัดผมและส่งมาเรียนที่โรงเรียนไทยสิ อะไรคือการส่งลูกเรียนอินเตอร์ แต่มาตั้งสเตตัสอวยระเบียบและความประสาทเสียของโรงเรียนไทยในทางอ้อม จนเจ้าของเพจเข้ามาตอบว่า จะมาคลั่งอะไรนักหนา มีตรงไหนที่อวยโรงเรียนไทย ที่อวยคือการปลูกฝัง อบรม สั่งสอน ให้นักเรียนยอมรับกฎกติกา มีระเบียบวินัย ถามจริง ๆ ทำไมสัxสามกีบโง่จัง อ่านภาษาไทยไม่กี่ย่อหน้าแต่จับใจความไม่ได้ พร้อมความเห็นเดือด ๆ อีก

           บางคนก็บอกว่า ถ้าเครื่องแบบและทรงผมมันทำให้คนรักษากฎระเบียบได้ดีขึ้น ตำรวจ ทหาร ก็คงไม่มีข่าวอย่างทุกวันนี้ หรือบางคนก็บอกว่า คนที่ก้มหน้าก้มตาทำอย่างเดียวโดยที่ไม่ตั้งคำถาม โดยเฉพาะกฎที่มันละเมิดสิทธิ์ในร่างกายเรา ที่พอนึกออกคือ คนประเภทนี้ถูกเรียกว่า ทาส จนทำให้เจ้าของเพจมาโต้กลับเดือด ๆ ว่าจะคลั่งอะไรนักหนา เป็นมานานหรือยัง ไปหาหมอเถอะ กฎกติกาเรื่องการแต่งกายและทรงผมของนักเรียน มันไปละเมิดเนื้อตัวตรงไหน เขาแค่กำหนดว่าใครที่เป็นนักเรียนให้ทำ ถ้าไม่ชอบก็ไปเรียนที่อื่น ตามมาด้วยความตอบประเภทเกรี้ยวกราดอีกจำนวนหนึ่ง บางคนก็ถามว่า แล้วที่โรงเรียนมีครูมาคอยกล้อนผมนักเรียนไหม เจ้าของเพจก็บอกว่า ไปคลั่ง ไปแสดงความเป็นสัxสามกีบที่อื่น ที่นี่รังเกียจ

           บางคนก็บอกว่า ในเมืองไทย มักจะแยกไม่ออกระหว่าง Discipline (ความมีระเบียบวินัย) กับ Obedience (การเชื่อฟังโดยไม่ตั้งคำถาม) สองอย่างนี้อาจจะคล้ายกันแต่ทำงานคนละแบบ การเชื่อฟังโดยไม่ตั้งคำถาม เกิดขึ้นจากการใช้อำนาจผ่านกฎระเบียบและการลงโทษ แต่ความมีระเบียบวินัย มีประโยชน์ต่อตัวเด็กและสังคม มันคือสิ่งที่สอนกันได้ แต่สั่งกันไม่ได้

           ความคาดหวังของผู้ใหญ่คือให้เด็ก "เชื่อฟัง" และหลายเรื่องที่ระบบการศึกษาไทยใช้ประโยชน์จากการเชื่อฟังจนเลยเถิด จนเด็กต้องพูด รับได้หรือเปล่าที่ลูกหลานกลับมาแล้วผมแหว่งหรือถูกใช้ความรุนแรง ถูกทำให้อาย เราสามารถโต้เถียงกันได้ว่าระดับของความรุนแรงที่รับได้มันคือเท่าไร แต่สังคมที่มีอารยธรรมจะไม่เห็นดีเห็นงามกับการแก้ปัญหาแบบมักง่าย กฎระเบียบมันควรมี แต่วิธีการจัดการกับคนที่ละเมิดกฎนั้น เป็นการแสดงที่ไร้อารยธรรมมาก ๆ คุณอาจจะบอกว่ารับได้ แต่เด็กที่เจอมาเอง ก็สามารถบอกได้ว่าตัวเองรับไม่ได้เหมือนกัน

           สุดท้าย ได้มีคนบอกว่า สรุปต้องการให้คนมีส่วนร่วมในโพสต์นี้ หรือแค่ต้องการนำเสนอด้านเดียวโดยเฉพาะความคิดของตัวเอง เห็นแต่ละคอมเมนต์ที่ตอบกลับคือไม่ไหว คำพูดไม่มีอีคิวและไอคิว ไม่มีใครว่าเจ้าของเพจหยาบก่อนเลย ทุกคนคุยด้วยอารมณ์ปกติ ว่าใครคลั่ง ระวังตัวเองแหละที่จะบ้าจริง ๆ