เปิดคลิปหน้ารถ กระบะชนขอบทางด่วน เด็ก 6 ขวบ ร่วงดับ - กูรูแจงปมพวงมาลัยล็อก

          เปิดคลิปในรถกระบะป้ายแดง จู่ ๆ พุ่งไปทางซ้ายจนชนขอบทาง ลูกชาย 6 ขวบร่วงทางด่วนดับสลด ครอบครัวยังทำใจไม่ได้ กูรูวิเคราะห์โอกาส พวงมาลัยล็อก มีหรือไม่


          จากกรณีอุบัติเหตุ กระบะโตโยต้า รีโว่ ป้ายแดง เสียหลักพุ่งชนขอบทาง บนทางด่วนพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) ขาเข้าจากพระราม 2 มุ่งหน้าด่านบางแก้ว ส่งผลให้เด็กชายวัย 6 ขวบ ที่นั่งอยู่เบาะหลัง กระเด็นออกมานอกรถ ตกลงมาที่พื้นถนนด้านล่าง จนเป็นสาเหตุให้เสียชีวิต ซึ่งทางพ่อเด็กเล่าว่า ขณะเกิดเหตุเหมือนพวงมาลัยล็อกไปฝั่งซ้ายกะทันหันและไม่สามารถหักกลับมาขวาได้ชั่วขณะ

อ่านข่าว : แม่กอดศพลูก 6 ขวบทั้งน้ำตา ขับรถบนทางด่วนพุ่งชนขอบทางร่วงดับ อ้างพวงมาลัยล็อก


           วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3 เปิดเผยคลิปจากกล้องหน้ารถกระบะคันที่เกิดเหตุ จะเห็นว่ารถคันนี้ขับมาตามเส้นทางอยู่ในเลนขวา จากนั้นจะได้ยินเสียงผู้ชาย (คนขับ) ส่งเสียงคล้ายว่า รถกำลังเกิดขัดข้องบางอย่าง ก่อนที่หัวรถจะเบี่ยงไปทางถนนเลนซ้ายมือ ก่อนที่ภรรยาซึ่งนั่งอยู่เบาะข้างคนขับจะส่งเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจ จากนั้นรถพุ่งชนกระแทกกับขอบข้างทางอย่างแรง ทำให้เด็กวัย 6 ขวบ กระเด็นตกทางด่วนเสียชีวิตสลด ขณะที่ภรรยาอยู่ในอาการตกใจอย่างหนัก พร้อมกรีดร้องเรียกชื่อลูก "โฟโต้ โฟโต้"

           เกี่ยวกับอุบัติเหตุดังกล่าว ตำรวจ สภ.สำโรงใต้ จ.สมุทรปราการ ได้อายัดรถคันดังกล่าวไว้ เนื่องจากผู้ขับขี่ให้การว่า ระบบเกี่ยวกับรถยนต์ขัดข้องจึงทำให้เกิดอุบัติเหตุ โดยทางคดีจะยังไม่ตัดประเด็นความประมาทของผู้ขับขี่ทิ้ง ในขั้นนี้ได้มีผู้เชี่ยวชาญเรื่องยานยนต์ของกองพิสูจน์หลักฐาน 1 เป็นผู้ตรวจสอบเพื่อยืนยันว่า เกิดจากปัญหาของรถยนต์ เครื่องยนต์ หรืออุปกรณ์ใด ๆ หรือไม่ โดยจะรอให้ครอบครัวทำพิธีกรรมทางศาสนาเสร็จสิ้น จึงจะเชิญผู้เสียหาย บริษัทผู้ผลิตรถ ช่างผู้ชำนาญการ และผู้เกี่ยวข้องมาสอบสวนเพื่อหาสาเหตุอีกครั้ง ขณะที่เรื่องคาร์ซีต ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องของความปลอดภัยของผู้ขับขี่รวมถึงเข็มขัดนิรภัยด้วย


           ส่วนกระแสข่าวว่า รถคันดังกล่าวอาจมีสายสิญจน์ผูกที่บริเวณพวงมาลัย จากการตรวจสอบรถที่เกิดเหตุ ซึ่งถูกเก็บไว้ที่สถานที่เก็บของกลาง ทางด่วนกาญจนาภิเษก ไม่พบสายสิญจน์ หรือผ้าสามสี ผูกไว้ที่พวงมาลัยแต่อย่างใด และพบว่ารถคันดังกล่าวถุงลมนิรภัยไม่ทำงาน

           วานนี้ (20 กุมภาพันธ์) พ่อแม่และลูกชายคนเล็กซึ่งอยู่บนรถคันดังกล่าว พร้อมญาติ ๆ เดินทางไปที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อรับศพของน้องโฟโต้ ลูกชายวัย 6 ขวบ พร้อมเคลื่อนร่างน้องโฟโต้มายังจุดที่ตกลงมาเสียชีวิต โดยมีพระสงฆ์ทำพิธีเชิญวิญญาณกลับบ้าน ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ระหว่างนั้น คุณแม่ยังคงเสียใจ ล้มทั้งยืนนั่งร้องไห้ปานจะขาดใจ พร้อมจุดธูปเรียกลูกกลับบ้าน ก่อนเคลื่อนร่างน้องไปประกอบพิธีที่ จ.ชลบุรี มีกำหนดฌาปนกิจในวันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566


พ่อเด็กยืนยันจู่ ๆ พวงมาลัยล็อกหักกลับไม่ได้ คิดว่าต้องตายทั้งคัน ช็อกภาพลูกตกไปถนนด้านล่าง

           ด้าน นายอาทิตย์ อายุ 41 ปี พ่อของเด็กชายวัย 6 ขวบ ผู้ขับรถคันเกิดเหตุ เปิดเผยว่า ตนขับรถมาตามปกติ มุ่งหน้ากลับ จ.ชลบุรี แต่จู่ ๆ พวงมาลัยรถก็บังคับหักออกไปทางซ้ายเอง ตอนแรกเข้าใจไปเองว่าอาจไปเหยียบขอบทางทำให้รถแฉลบออก จึงพยายามหักพวงมาลัยกลับมาทางขวา แต่ก็ไม่สามารถหักกลับมาได้ พวงมาลัยล็อกโดยไม่รู้สาเหตุ ตอนนั้นเริ่มตกใจพร้อมหันไปบอกภรรยาว่า พวงมาลัยรถหักไม่ไป ภรรยาจึงเอื้อมมาช่วยผลักพวงมาลัย แต่ก็หักไม่ไป รู้ตัวอีกทีรถเข้ามาชิดขอบทางแล้ว ตนจึงรีบเหยียบเบรก แต่รถก็กระแทกเข้ากับขอบทางอย่างแรงจนลอยขึ้น รู้สึกว่ามันแรงมาก ตอนนั้นคิดว่าต้องเสียชีวิตแน่

           จังหวะที่รถกระแทกเข้ากับขอบทาง ตนยังไม่เห็นว่าลูกชายวัย 6 ขวบ กระเด็นออกไปจากรถ พอตั้งสติได้ก็รีบหันไปดูภรรยากับลูกชายคนเล็กที่นั่งอยู่ด้านหน้าก่อน พอเห็นว่าทุกคนยังสามารถโต้ตอบได้ ก็หันไปดูลูกชายคนโตที่เบาะหลังแต่มองไม่เห็น ตอนแรกคิดว่าน้องลงไปนอนอยู่ใต้เบาะ พอเปิดประตูไปดูไม่เจอ เลยรีบวิ่งกลับไปที่จุดที่ชนครั้งแรก เห็นกองเสื้อผ้า แต่ไม่เจอตัวลูก จังหวะนั้นกลั้นใจ มองลงไปด้านล่างทางด่วน ก็เห็นลูกชายตกลงไปเสียชีวิตอยู่ด้านล่าง ตกใจมากจนเข่าทรุด

           รถคันนี้ตนเพิ่งออกมาเมื่อเดือนมกราคม ยังขับได้ไม่ถึง 1 เดือน ก่อนหน้านี้ ยังไม่เคยมีปัญหาหรือพบความผิดปกติใด ๆ ส่วนมากจะขับในระยะใกล้ ไปทำงานระยะทางไม่เกิน 20 กิโลเมตร และเป็นทางเรียบ ครั้งนี้เพิ่งนำรถคันนี้มาขับทางไกลเป็นครั้งแรกก็มาเกิดเหตุ ยืนยันว่าขับมาด้วยความเร็วประมาณ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไม่เกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพราะตนไม่ใช่คนขับรถเร็ว ส่วนสาเหตุจะมาจากพวงมาลัยล็อกจริงไม่ ตนไม่กล้ายืนยัน ขอให้เป็นเรื่องของคดีความ ตอนนี้จะขอจัดงานศพลูกชายให้เสร็จก่อน แต่ยืนยันว่าเหตุการณ์เป็นไปตามที่เล่าจริง ซึ่งต้องรอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบให้ได้ความชัดเจน หากผลว่าออกมาว่าสภาพรถบกพร่องจะปรึกษาทนายอีกครั้ง ขณะนี้ครอบครัวก็เสียใจอย่างที่สุดที่ต้องสูญเสียน้องโฟโต้ไป

ผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์ วิเคราะห์โอกาสเกิดพวงมาลัยล็อกแทบเป็นไปไม่ได้

           เกี่ยวกับข้อสงสัยเรื่องพวงมาลัยล็อก คุณพัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ประธานบริษัท คิง ออฟ ออโต้ โปรดักท์ จำกัด และเป็นกูรูด้านรถยนต์ ให้ข้อมูลว่าโอกาสที่จะเกิดอาการ พวงมาลัยล็อก ขณะขับรถ โอกาสแทบจะศูนย์ เพราะในทางเทคนิค รถกระบะรุ่นนี้ไม่มีระบบ Warning Lane Change หรือ ระบบช่วยเตือน เมื่อขับขี่รถออกนอกช่องจราจร ที่จะล็อกพวงมาลัย เมื่อรถวิ่งออกนอกช่องจราจร โดยที่ผู้ขับขี่ไม่ตั้งใจ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะมีปัญหาทางเทคนิคจุดนี้

           ถ้าจะมีโอกาสที่ทำให้พวงมาลัยล็อกได้คือ ผู้ขับบิดกุญแจไปที่ตำแหน่งแอค ACC (เปิดระบบไฟ) พวงมาลัยก็จะเกิดอาการล็อกเอง ซึ่งกรณีนี้คนขับคงไม่ได้ทำแบบนั้นเช่นกัน เพราะในรถมาเป็นครอบครัว ก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก ส่วนประเด็นแบตเตอรี่เสื่อมแบบฉับพลันจะส่งผลต่อระบบพวงมาลัยหรือไม่ มองว่าไม่มีทาง เพราะไม่ได้เกี่ยวกันอย่างสิ้นเชิง


           ข้อสังเกตถึงปฏิกิริยาทางร่างกายของคนขับรถ ในกรณีอื่น ๆ ที่ประสบเหตุก็คือ เวลาขับรถตามปกติ หมาตัดหน้ารถ หรือเด็กวิ่งตัดหน้ารถ คนขับมีโอการตกใจจนช็อกตัวแข็งไปชั่วขณะ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับสมองของคนขับรถ ที่ยังสั่งการให้หักหลบ แต่ร่างกายยังอยู่ในภาวะช็อก จึงไม่ได้หักหลบ จึงอาจจะเป็นที่มาของคำว่า พวงมาลัยล็อก ขณะขับรถ

           อย่างไรก็ตาม กรณีนี้สิ่งที่จะสามารถอธิบายได้ตามเหตุผลของวิทยาศาสตร์คือ รอยยางรถที่อยู่บนถนน ส่วนประเด็นว่า พวงมาลัยล็อกหรือไม่ ต้องไปดูที่ซากรถ เพราะถ้าใช้กุญแจเสียบแล้วเปิดก็ทราบได้เลยว่าล็อกหรือไม่ เพราะถ้าพวงมาลัยล็อกจริงตามคำบอกเล่า ไม่มีทางที่พวงมาลัยจะคลายล็อกเองได้ ชิ้นส่วนที่ล็อกมันต้องคงอยู่


ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้