ครอบครัวปล่อยโฮ ฟาดบริษัทประกันภัย สู้คดีมา 2 ปี สุดทุกข์ทรมาน ไม่จ่ายค่าสินไหมทดแทน ทั้งที่ทำประกันชั้น 1 อ้างผลแล็ปคำนวณย้อนหลัง 5 ชม. หาเมาแล้วขับ
จากกรณีครอบครัวหนึ่งขับรถประสบอุบัติเหตุ อาการสาหัสทั้งครอบครัว แต่ถูกประกันชั้น 1 ปฏิเสธจ่ายค่าสินไหมทดแทน อ้างผลตรวจแอลกอฮอล์ออกมาจากแล็ป 2.9 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เมื่อนำมาคำนวณย้อนหลัง 5 ชั่วโมง ประกันอ้างว่าคนขับรถเมา ทั้งที่ผู้เสียหายยืนยันไม่ได้เมา และไม่ได้ดื่มเหล้าดื่มเบียร์ สู้คดีเกือบ 2 ปี ศาลชั้นต้นตัดสินให้ประกันจ่ายค่าสินไหมทดแทน แต่ถึงตอนนี้ครอบครัวยังไม่ได้รับการเยียวยา
ล่าสุด รายการโหนกระแส ออกอากาศวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566 ดำเนินรายการโดย "หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย" ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ กานต์ - เดือน ผู้เสียหาย, ทนายจอมพล เต่าทอง ทนายความประจำสำนักงานวงศกรณ์, นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ, ผศ.นพ.ภาณุวัฒน์ ชุติวงศ์ อาจารย์ภาควิชานิติเวชศาสตร์ รพ.จุฬาลงกรณ์, ณัฐวิทย์ ศรีเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงาน คปภ.เขตท่าพระ
เดือน : วันที่ 7 พ.ย. 64 ปีกว่าค่ะ วันนั้นเดินทางกลับจากพาคุณแม่ไปทำบุญ กำลังไปส่งคุณแม่ที่บ้าน เป็นเส้นเขตบางขุนเทียน เป็นถนนสองเลน ก่อนหน้านั้นฝนตกมีน้ำท่วมขัง เราขับมาช้า ๆ จังหวะจะเบี่ยงออก มีรถอยู่ข้างหน้า เราจะแซงขวาขึ้นไป ถนนลื่น รถก็เลยปัด และเสียหลักเลยค่ะ แล้วก็ตกหลุมค่ะ
กานต์ : เหมือนล้อถูกตะแคง แล้วล้อมันฟรี พอล้อลงพื้นก็เหมือนยิงหนังสติ๊กหมุนไปเลย กระแทกเสาไฟฟ้า ตอนนั้นผมพอมีสติ แต่แฟนสลบ แม่ยายเลือดเต็มหน้ากะโหลกแตก ลูก 9 ขวบ ขาหัก ผมถลอกนิดหน่อย
- คุณพูดเหมือนจะร้องไห้ มันต่อสู้อัดอั้นตันใจเพราะอะไร ?
กานต์ : มันเดือดร้อนไปหมดเลยครับ (ร้องไห้) เดือดร้อนทุกอย่าง ส่งผลต่อครอบครัวผมหนักมากครับ
- ด้วยสาเหตุรถชนแล้วประกันไม่จ่าย ?
กานต์ : ใช่ครับ ผมไม่มีรถทำงาน ผมต้องไปขายของตลาดนัด ทุกวันนี้ใช้มอเตอร์ไซค์แบกของ แบกเครื่องใช้ไฟฟ้า บางทีก็จักรยานเอาไปขายครับ (เสียงสั่นเครือ)
- พอรถตบขวาออกไป ใช้ความเร็ว 49-55 กิโลเมตรต่อชม. จริง ๆ ก็ไม่ถึงขั้นเร็วมาก เพราะกล้องจับได้ มันบอกทั้งหมด วันนั้นมีการดื่มมั้ย ?
กานต์ : ผมเป็นคนไม่ดื่มเหล้าครับ
- เหตุการณ์พลิกชีวิตคุณคืออะไร ?
กานต์ : ตอนผมนำใบแอลกอฮอล์ให้กับทางประกัน
เดือน : หลังจากรถชนก็ไม่ได้จัดการหาทนาย พอได้รับผลตรวจแอลกอฮอล์ก็เอาให้เจ้าหน้าที่ ตร. เซ็นรับทราบ แล้วให้ประกันสาขาย่อย เพื่อส่งบริษัทใหญ่ ไม่กี่วันก็มีเอกสารส่งมาที่บ้าน เป็นหนังสือปฏิเสธการรับผิดชอบค่ะ
- วันนั้นที่ชนมีการตรวจปริมาณแอลกอฮอล์มั้ย ?
เดือน : ทั้งหมดบาดเจ็บสาหัสอยู่ในห้องฉุกเฉินรักษาตัวกัน ตอนนั้นหนูสลบไปฟื้นที่ รพ. แม่ก็บาดเจ็บสาหัสผ่าตัดคืนนั้นเลย ลูกสาวก็ขาหัก พอแฟนบอกว่ามีพยาบาลให้ใบมาจาก ตร. บอกว่าขอตรวจแอลกอฮอล์โดยการเจาะเลือด
- เวลาเจาะห่างจากที่ชนแค่ไหน ?
กานต์ : 5 ชม. ครับ ตอนนั้นผมก็บาดเจ็บ ถูกแอดมิตครับ
- บาดเจ็บสาหัสกันทุกคน หลัง 5 ชม. หลังจากชน พยาบาลขอตรวจเลือดคุณ แล้วผลออกมาเป็นยังไง ?
กานต์ : 2.920 เปอร์เซ็นต์
- ประกันว่ายังไง ?
กานต์ : ประกันส่งหนังสือปฏิเสธมา บอกว่าไม่รับผิดชอบครับ
เดือน : สิทธิ์รักษาที่ รพ. ทั้งหมด ทางบริษัทได้รับผิดชอบไปแล้วค่ะ
- เขาส่งหนังสือมาว่าจากการตรวจสอบปริมาณแอลกอฮอล์ เขาตีเลยว่าตอนคุณชน มีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 80.7 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งคุณยืนยันว่าไม่ได้ดื่มเหล้า ประกันเอาไปตีย้อนกลับมา 5 ชม. แล้วเอาเรื่องทางนิติเวช รพ.ตร. ที่บอกว่าจะลดลงไป 15 มิลลิกรัมทุก 1 ชม. ประกันบอกไม่รับผิดชอบแล้ว ง่าย ๆ อย่างนี้เลย ?
กานต์ : ครับ
- แล้วทนายทำไง ?
ทนาย : พอได้รับเรื่องจากตัวลูกความ ก็มีการยื่นร้องเรียนต่อสำนักงาน คภป. เขตบางนา เขาก็มีการนำส่งหนังสือของทางคุณหมอที่ยืนยันว่าค่าปริมาณแอลกอฮอล์ระดับนี้ไม่สามารถวัดค่าได้ ไม่สามารถมาคำนวณย้อนหลังได้ ให้กับทางประกันทราบ ประกันก็ปฏิเสธการจ่ายค่าสินไหมทดแทนเหมือนเดิม ซึ่งทาง คภป. ต้องยุติเรื่อง โดยอ้างว่าประกันปฏิเสธตามข้อยกเว้น ว่ามีการคำนวณนับแอลกอฮอล์ย้อนหลังได้ ก็เลยไม่จ่ายเหมือนเดิมครับ
- สิ่งที่คุณเจอ คือไม่มีตังค์ซ่อมรถเท่าไหร่ ?
กานต์ : 3 แสนครับ
- คุณแอดมิต ตอนนั้นทำยังไง ?
กานต์ : ใช้สิทธิ์ประกันกับ พ.ร.บ. ครับ เขาปฏิเสธมาต้องไปรักษาเองครับ พาลูกไปผ่าตัด 30 บาท เอาเหล็กออกครับ
เดือน : ตอนเกิดเหตุน้องอายุ 8 ขวบค่ะ ผ่านมาปีกว่าค่ะ
- ลูกสาวขาหัก ต้องหาเงินไปจ่ายรักษาลูก ?
กานต์ : ใช้เงิน 30 บาท ของเด็กครับ ผมต้องแบกลูกสองเดือนเข้าห้องน้ำ เพราะเขาเดินไม่ได้ (ร้องไห้)
- จ่ายประกันเท่าไหร่ ?
เดือน : ประกันชั้น 1 หมื่นกว่าค่ะ รถคันนี้ประมาณ 2 ปีกว่า
กานต์ : ผ่อนทุกเดือน เดือนละ 1.3 หมื่นครับ ตอนนี้ไม่มีรถใช้ครับ ก่อนหน้านั้นเป็นประกันอื่น ปีนี้เพิ่งทำของทิพยฯ ครับ
- ไปรู้จักทิพยฯ ได้ไง ?
กานต์ : เขามีโบรกเกอร์มาขายให้ เขาคุยสวยหรูว่าเบี้ยประกันเท่านี้ ๆ บอกตัวเลข ว่าดูแลยังไงบ้าง
- หนังสือฉบับนี้ มีความสำคัญยังไง ?
นพ.แท้จริง : แพทยสภามีหนังสือใหม่บอกว่าการที่เอาปริมาณ 15-20 เปอร์เซ็นต์มาคำนวณกลับ ใช้ไม่ได้แล้ว เมื่อก่อนแพทยสภาเคยบอกว่าอันนี้ใช้ได้ แต่ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่ออกหนังสือไม่ให้ใช้ เพราะว่าการคำนวณกลับอยู่ที่บุคคล ไม่ได้อยู่ที่จำนวนตรงนี้ อันนี้เป็นแค่ค่าเฉลี่ย
นพ.ภาณุวัฒน์ : ทางหลักการแพทย์ แอลกอฮอล์ เลข 15-20 มีอ้างอิงอยู่ในตำราเยอะมาก
ซึ่งเขามักใช้ค่านี้ในการคำนวณ
แต่แพทย์สภาออกมาเพราะว่าจะใช้อย่างนั้นอย่างเดียวไม่ได้ เช่นคนกินเหล้าจัด
ๆ บางทีลดลง 35 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ต่อ ชม. ก็ได้
ตรงนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัย คุณกินตอนนั้นมีกับแกล้มด้วยหรือเปล่า
ท้องว่างหรือเปล่า อ้วนหรือเปล่า
ฉะนั้นมันไม่สามารถเอาค่าตัวนี้มาตัดสินคนนึงได้
เขาเลยประกาศยกเลิกว่าต้องมีปัจจัยอย่างอื่นช่วยคำนวณด้วย
อย่าใช้ตัวเลขเปล่า ๆ ในการคิดครับ
- แล้ว 2 กว่า ๆ มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ที่อาจารย์ตรวจสอบครั้งแรกที่พยาบาลไปเจาะมาแล้วฝั่งนี้ยื่นให้อาจารย์ดู อาจารย์มองยังไง?
นพ.ภาณุวัฒน์ : สองคนนี้หลังออกจาก รพ. ก็เข้ามาหาผม ผมในฐานะหมอนิติเวชประจำ รพ. พอเห็นว่าบริษัทประกันปฏิเสธการจ่ายและขอเงินคืนทั้งหมด ผมก็มาดูค่าแอลกอฮอล์ ผมว่าเป็นการใช้หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่ไม่ถูกต้อง ในการแปรผล ก็เลยทำจดหมายชี้แจงและช่วยเขามาตลอด แต่ผมไม่เคยบอกนะครับว่าคนขับไม่ได้เมา หรือเมา หรือกินอะไร แต่ว่าค่าที่ขึ้นมา 2.92 ทางนิติเวช สถาบันฝึกอบรมหลาย ๆ ที่ ผมอยู่จุฬาฯ ศิริราช รามาฯ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จริง ๆ เราเคยพูดเรื่องนี้กันอยู่เสมอ ค่าส่วนใหญ่ที่เขาแปรผลแล็ปในแอลกอฮอล์ มีเรื่องขีดจำกัดในการบอกสารในเชิงปริมาณของเครื่องนั้น ๆ ได้ แอลกอฮอล์ก็เป็นตัวนึง ปกติอยู่ที่ประมาณ 5-10 ส่วนใหญ่เป็น 10 อย่าง รพ.จุฬาฯ ค่าเอทานอล หรือแอลกอฮอล์ในเลือดเขาจะบอกว่าน้อยกว่า 10 เขาจะไม่บอกว่า 2.9 หรือบอกว่าอะไร ถ้าน้อยกว่า 10 ส่วนใหญ่จะแปรผลไม่ได้ แปลว่าเขาอาจจะเมาก็ได้นะครับ แล้วแอลกอฮอล์มันลดลงมา หรือเขาอาจไม่ได้กินอะไรเลยก็ได้ มันเกิดจากความค่าคลาดเคลื่อนของเครื่องมือในการวัด เราต้องเข้าใจว่าข้อจำกัดของเครื่องมือทางการแพทย์ ไม่ใช่ศูนย์ ถึงร้อยถึงพันถึงหมื่น ที่จะบอกได้ทั้งหมด พอน้อยจัด ๆ ก็เริ่มลำบากในการตีความ ผมถึงได้บอกว่ามันมีความไม่ถูกต้องในเรื่องการนำผลไปใช้
- การเอา 2.9 กว่า ๆ ไปแปรผลผิด ?
นพ.ภาณุวัฒน์ : ตัวเลขที่เกิดจากกราฟ มันเชื่อไม่ได้ เขาเลยบอกว่าน้อยกว่า 10 ถ้าใช้ 15-20 ในการคำนวณกลับ บอกว่าน้อยกว่า 10 สี่ ชม. คูณยังไงก็เกิน 50 เพราะคุณใช้ 15 เป็นตัวตั้ง ถ้าบอกว่าน้อยกว่า 10 มันเอาไปใช้อะไรไม่ได้
ทนาย : ตัดสินให้จำเลยจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับตัวโจทก์ แต่ถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่จ่าย เขาอ้างว่าเขาจะอุทธรณ์ เขาไม่เชื่อสิ่งที่แพทย์ได้กล่าวมาเมื่อกี้นี้ แต่ตัวเขาก็ไม่มีหลักฐานพิสูจน์นะครับ
- คนที่ฉิบคือทางนี้ ?
ทนาย : ถูกต้องครับ
นพ.ภาณุวัฒน์ : ผมก็เข้าใจนะครับ ถ้าเลข 2 เป็นตัวกำกับ แล้วคุณไปหาตำรามาคูณกลับ ยังไงก็ทำได้ แต่ถ้าคุณเข้าใจเรื่องหลักการ แอลกอฮอล์จากการตรวจของเครื่องว่าถ้าน้อยกว่าระดับแบบนี้ ชาวบ้านทั่วโลกไม่ใช้กันหรอกในการคำนวณ คุณก็จะเข้าใจและคุณก็จะแปรผลถูกครับ
- คุณหมอเป็นพยานในคดีด้วย ?
นพ.ภาณุวัฒน์ : ผมไปขึ้นศาลมาแล้ว จะเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วครับ โทร. มาตลอดครับ
- แต่เขาไม่เชื่อหมอนะ ?
นพ.ภาณุวัฒน์ : ศาลเชื่อ แต่บริษัทประกันขออุทธรณ์
นพ.แท้จริง : นี่คือช่องว่างกฎหมาย ถามคุณหมอสิ เขาออกมาแบบนี้เราไม่สามารถบอกได้เลยว่าคนนี้เมาหรือไม่เมา บอกไม่ได้นะ ทางที่ดีที่สุด เมื่อเกิดอุบัติเหตุรีบบอก ตร. เลยขอเช็กแอลกอฮอล์ก่อนเลย อย่างคนนี้ถ้าวันนั้นขอเช็กแอลกอฮอล์ ขอเป่ารับรองไม่มี เขาสาหัสแต่เขายังเป่าได้ ถึงเข้า รพ. ก็เป่าได้ จริง ๆ ตร. ตามหลักการ ถ้าเป่าได้ต้องให้เป่าก่อน ถ้าเป่าไม่ได้ สาหัส เข้า รพ. ถึงบอกให้หมอเจาะเลือด กฎหมายตรงนี้ยังมีช่องว่าง เรากำลังผลักดันกฎหมายว่าเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ต้องตรวจแอลกอฮอล์ทันที ตอนนี้จะตรวจหรือไม่ตรวจก็ได้ มาตรวจทีหลังก็ได้ เป็นช่องว่าง
- กรณีแบบนี้จะทำยังไงกันต่อไป ปริมาณ 2.9 กว่า ๆ เขาเอาค่าตรงนี้ไปตรวจย้อนหลัง ?
นพ.แท้จริง : ผมเคยบอกแล้วว่าการย้อนหลังตรงนี้มันใช้ไม่ได้กับกรณีคนคนนี้นะ เพราะเป็นเพียงค่าเฉลี่ย สมมติถ้าค่าเฉลี่ยชายไทยสูง 167 คุณหนุ่มสูงเท่าไหร่ มันก็ไม่ได้ แต่เอาทั้งหมดมาเฉลี่ย ถ้าคนนี้อยากรู้ว่าลดเท่าไหร่ต้องเอาไปพิสูจน์เอง หรือรีบตรวจแอลกอฮอล์ตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุเลย อย่ารอช้า เพราะถ้ารอช้า กฎหมายยังมีปัญหาอย่างนี้ เป็นผลเสียกับผู้เสียหาย
นพ.ภาณุวัฒน์ : วันนี้ผมบอกไม่ได้หรอกจะเป็น 15 17 18 หรืออะไรก็ตาม
ถ้าอยากรู้เอาเขามาดื่มเหล้าแล้ววัดทุก ชม.
คราวนี้เราจะรู้ว่ามันลดกี่เปอร์เซ็นต์ ก็จะเป็นค่าของคนคนนี้ การแก้ไข
เนื่องจากบริษัทประกันเอาค่าแล็ปที่เป็นตัวเลขเอาไปใช้ ปกติถ้าเป็นเคสทั่ว ๆ
ไป ตร. มาขอผม เขาไม่ได้มาขอผลแล็ป ผมจะออกรายงานรีพอร์ตอีกตัว
อย่างบางที่บอกเลยน้อยกว่า 10 บอกไปเลยว่าไม่พบ มันจะได้จบ
แต่บางคนน้อยกว่า 10 ก็มีค่า บอกไม่ได้หรอกว่ามันมีหรือไม่มี
- คุณหมอพยายามบอกว่าเขาอาจไม่ได้ดื่มก็ได้ อาจเออเร่อร์ก็ได้ ?
นพ.ภาณุวัฒน์ : ถ้ารายนี้บริษัทประกันมาขอผ่านหมอก็จบเลยครับ เพราะหมอจะเขียนไปเลยว่ารายนี้ตรวจไม่พบแอลกอฮอล์ในเลือด จบเลย ค่าเดียวกันเลย แต่แปรผลคนละแบบ เพราะที่คุณเอาไปให้ประกันเป็นผลจากแล็ปเอาไปให้เขาเลย แต่ถ้าเป็นผลจากการวินิจฉัยจากแพทย์ก็จะเป็นอีกแบบ
- ประกันได้ผลจากแล็ปไป โดยไม่ผ่านคุณหมอ พอผลแล็ปอยู่ในมือประกัน ประกันก็ดูว่า 2. กว่าก็มีอยู่นี่กว่า ก็ไปไล่เช็ก ซึ่งเครื่องอาจเออเร่อร์ก็ได้ แต่มุมกลับกัน ถ้าผลแล็ปนี้ไม่ได้ส่งให้ ตร. หรือประกัน ส่งให้หมอก่อน หมอจะตีไปเลยว่าไม่พบแอลกอฮอล์ในเลือด เพราะมันตีไม่ได้ 2. กว่าเปอร์เซ็นต์นี้ แล้วขึ้นศาลแล้ว ศาลเชื่อคุณหมอแบบนี้ด้วย ศาลให้ชนะชั้นต้น แต่ประกันไม่เชื่อหมอ เป็นหมอจริง ๆ ใช่มั้ย ?
นพ.ภาณุวัฒน์ : ครับ (หัวเราะ)
- คุณกานต์ต่อสู้มาตลอด ชีวิตทุกวันนี้ลำบากมากจริง ๆ แกก็ร้องไห้ ?
กานต์ : (ร้องไห้) เจ็บใจครับ 2 ปี ไม่เคย โทร. หาผมเลย แต่พอจะมาออกรายการพี่หนุ่ม โทร. มาบอกว่าจะรับผิดชอบ
- โทร. มาเมื่อไหร่ ?
กานต์ : เมื่อวานกับเมื่อเช้าครับ ติดต่อมาจะรับผิดชอบ แล้ว 2 ปีนั้นหายไปไหน ปล่อยให้ผมทุกข์ทรมาน
- พี่ให้ลูกมานั่งอยู่ข้างล่าง ?
กานต์ : ผมมา 3 คน พ่อแม่ลูกครับ ผมไปทำเนียบมาก่อน ไปชูป้ายที่ทำเนียบแต่เขาไม่ให้ผมชู ผมไปสะพานอนุเชษฐ์ครับ
กานต์ : ใช่ครับ ผมไม่มีหนทางอะไรแล้ว อยากให้ผู้มีอำนาจช่วยผมหน่อยครับ ผมแค่ประชาชนตัวเล็ก ๆ ไม่สามารถสู้เขาได้ครับ (ร้องไห้)
- ระหว่างพักเบรกไป มีอาจารย์หมอคิว สราวุธ ตรวจศพคุณแตงโม คุณหมอจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม แกส่งข้อความมาหาผมระหว่างพักเบรก 13.15 น. แกบอกว่าแอลกอฮอล์ต่ำกว่า 10 ไม่เอามาคำนวณครับ การคำนวณย้อนกลับกรณีแบบนี้ไม่ถูกต้องครับ ยืนยันครับ เขียนมาแบบนี้เลยนะ คปภ. ยังไงกันดี ?
ณัฐวิทย์ : ประเด็นแรก ตัวเงื่อนไขกรมธรรม์ กรณีเกี่ยวกับแอลกอฮอล์
ในเงื่อนไขเขาใช้คำว่าปริมาณแอลกอฮอล์ ณ ขณะเกิดเหตุ พอใช้คำว่า ณ
ขณะเกิดเหตุปุ๊บ ข้อเท็จจริงหลายอย่าง อาจตรวจหลังจากนั้น อาจห่างเป็นนาที
เป็น ชม. หลายชม. ฉะนั้นตัวเงื่อนไขกรมธรรม์ต้องรับผิดชอบหรือไม่
มันเลยจำเป็นต้องมีกรอบหรือหลักวิชาการมาคำนวณหรือดูว่าปริมาณแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่
ณ ขณะนั้นเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือเงื่อนไขกรมธรรม์กำหนดหรือไม่
เหมือนที่ทางคุณหมอทั้งสองท่านพูดในเบื้องต้น ว่า ณ
ขณะเราออกคู่มือตีความกับเงื่อนไขกรมธรรม์ เราก็ใช้หลักวิชาการทางการแพทย์
ของแพทยสภากับสมาคมแพทย์ว่าปริมาณแอลกอฮอล์จะลดลงทุก ๆ 15
มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ต่อ ชม. ฉะนั้นเราก็เลยเอาหลักวิชาการเป็นหลัก
ต้องใช้คำว่าเป็นกรอบในการเอามาอยู่ในเงื่อนไขกรมธรรม์
- เพราะงั้นจะไม่รู้เลยว่าเขาเมาหรือไม่เมาเพราะเหตุการณ์มันผ่านไป ก็ต้องเอากรอบที่เขาเคยตีไว้ให้มาอยู่ตรงนี้ ?
ณัฐวิทย์ : ยกตัวอย่างเคสร้องเรียนที่ คปภ. มีบริษัทนึงปฏิเสธ
เขาตรวจแอลกอฮอล์หลังเกิดเหตุ 1 ชม. ตรวจปุ๊บอยู่ที่ 20
มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ บริษัทปฏิเสธ ผมมีความเห็นให้จ่าย
เนื่องจากคู่มือตีความกับเงื่อนไขกรมธรรม์ มีการกำหนดว่าตรวจปุ๊บย้อนกลับไป
ณ ขณะเกิดเหตุ ลดลง 15 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
ในกรณีนี้ถือว่ายังไม่เกินที่กฎหมาย เงื่อนไขกรมธรรม์กำหนด
อันนั้นบริษัทจ่ายครับ
- อยู่ในสายกับ "คุณโกสนธ์ พิศภา" ผู้อำนวยการฝ่ายสินไหมรถยนต์ บมจ.ทิพยประกันภัย เรื่องนี้ทิพยฯ มีความคิดเห็นยังไง ขึ้นศาลชั้นต้นไปแล้ว ทิพยฯ อุทธรณ์และบอกว่าไม่เชื่อในสิ่งที่คุณหมอพูด และจะไม่จ่ายทางนี้เพราะคิดว่าเขาเมา ?
โกสนธ์ : ต้องเรียนก่อนว่าในส่วนทิพยประกันภัยเอง เรายึดถือหลักเกณฑ์ คปภ. เราปฏิบัติตามคู่มือตีความตามเงื่อนไขกรมธรรม์ แต่มีข้อเท็จจริงที่คุณหมอทั้งสองท่านได้พูดออกมาเรื่องการเป่าแอลกอฮอล์ เรื่องระยะเวลาถดถอย มันจะมีช่องว่างของกฎหมายตัวนี้อยู่ มุมทิพยประกันภัยเอง เคสนี้เรามองแล้วผู้เสียหายเหมือนเขาได้รับความเสียหาย มุมทิพยประกันภัยเอง เรามองว่าเราอยากหาทางออกยังไงในการช่วยเหลือกับผู้เสียหาย เมื่อกี้ผู้เสียหายบอกว่าอยากให้ผู้มีอำนาจหรือผู้บริหารเข้ามาดูแล เคสนี้เราพร้อมเข้ามาดูแลครับ
- กรณีอุทธรณ์ เป็นไปได้มั้ยที่จะมีการตกลงเจรจาไกล่เกลี่ยแล้วยอมจ่ายในมุมเขาไป ?
โกสนธ์ : หลังเราเจรจาเสร็จ การอุทธรณ์ในฝั่งทิพยฯ เองเรามองว่าเราต้องเยียวยาช่วยเหลือประชาชน ผมก็จะพิจารณาถอนอุทธรณ์เรื่องนี้ลงไปครับ เป็นการเจรจาเยียวยาเบื้องต้นครับ
กานต์ : สองปีกว่าหายไปไหนครับ (ร้องไห้) พอผมออกรายการพี่หนุ่มถึงมาติดต่อผม (ร้องไห้)
- เขาน้อยเนื้อต่ำใจว่าที่ผ่านมาอาจอยู่ในขั้นตอนเบื้องต้นไม่ถึงผู้บริหาร เขาน้อยใจว่าสองปีกว่าหายไปไหน ?
กานต์ : ผมต้องกู้ยืมเงินเดือนละ 1.3 หมื่น มาจ่ายค่ารถ และต้องส่งรายวันเพื่อให้รถยังอยู่ เพื่อให้ได้รถกลับมาทำงานเหมือนเดิม
เดือน : (ร้องไห้)
กานต์ : เคยเห็นใจเราบ้างมั้ย (ร้องไห้)
เดือน : เป็นรถเอาไว้ใช้หากินค้าขายค่ะ
โกสนธ์ : กรณีเรื่องซ่อมรถ ทิพยประกันภัยจะดำเนินการเรื่องค่าซ่อมรถ
ศาลพิพากษามาให้เราจ่าย 3 แสนกว่าบาท เราไม่ติดประเด็น เราจะเร่งดำเนินการ
จริง ๆ เรามีเรื่องขั้นตอนรับประกันภัยอยู่แล้ว แต่เคสนี้มี คปภ.
เข้ามาดูแล เขาเห็นว่าเคสแบบนี้มีเรื่องข้อกฎหมายบางอย่างเรื่องผลแอลกอฮอล์
เขาเลยโอเค ทิพยประกันภัยจะดูแลยังไง คปภ.
ก็อยากให้มีการช่วยเหลือดูแลเยียวยาช่วยประชาชน เราก็เลยติดต่อไปเมื่อวาน
เราพร้อมดูแลให้ เมื่อเช้าก็ติดต่ออีก ไม่ใช่มาออกรายการโหนกระแสแล้วจะดูแล
ไม่ใช่นะ เราดูแลลูกค้าของเราทุกเคสอยู่แล้ว
- นอกเหนือจากตัวซ่อมรถ ยังมีค่าอื่น ๆ ?
ทนาย : มีค่าเสียหาย ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ตัวน้องด้วย ตัวคุณแม่ของคุณเดือน และค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถด้วย รถผ่านมาปีกว่า ๆ ยังไม่ดำเนินการซ่อมให้ เขาขาดประโยชน์ไประหว่างนั้น ทิพยประกันภัยจะว่ายังไง
โกสนธ์ : เรื่องค่ารักษาพยาบาลต้องเรียนทุกท่านว่า ทิพยประกันภัยจ่ายค่ารักษาพยาบาลไปหมดแล้ว
กานต์ : จ่ายเฉพาะตอนเข้า รพ. ทีแรกครับ แค่นั้นครับ ตอนที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นไม่ได้จ่าย
- รักษาต่อเนื่องเหรอ ?
กานต์ : พวกผมไม่มีตังค์ไปหาหมอครับ พูดตรง ๆ เลย ก็เลยปล่อยให้หายเอง
ทนาย : ร่างกายไม่กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม
ตัวคุณแม่เองตรงศีรษะยังยุบลงไปอยู่ กะโหลกแตกก็ไม่ได้รักษาต่อเนื่อง
ออกจาก รพ. ก็ไม่ได้รักษาตัวต่อเลย ส่วนน้องก็ใช้สิทธิ์ 30 บาท
เอาเหล็กที่ขาออก จากนั้นก็ไม่ได้ทำอะไรต่อเลย
- ทิพยฯ จะเข้ามาดูแล หรือมีการดูแลส่วนอื่นเพิ่มเติมมั้ย ?
โกสนธ์ : ยินดีครับ เคสนี้ทิพยประกันภัย ต้องขอโทษกับสิ่งที่ผิดพลาด เราพร้อมดูแลชดใช้ส่วนการเยียวยา หรือค่ารักษาพยาบาลหลังจากนี้ ถ้าครอบครัวไปรักษาพยาบาลก็เอาบิลมาเบิกที่ทิพยประกันภัยได้เลยครับ
- คปภ. มองเรื่องนี้ยังไง ?
ณัฐวิทย์ : ถ้าเรามองว่าบริษัทเขาไม่ใช้สิทธิ์อุทธรณ์ เราก็เยียวยาทางตัวลูกค้าในทุกสิ่งที่เขาต้องรับผิดชอบตามเงื่อนไขกรมธรรม์ มันเป็นสิ่งที่ คปภ. ประสงค์ให้เป็นแบบนั้นอยู่แล้ว
- อาจารย์ล่ะ ?
นพ.แท้จริง : กว่าจะมาถึงความยุติธรรมเขาลำบากแค่ไหน
นี่เป็นช่องว่างของกฎหมาย ว่าถ้าเกิดอุบัติเหตุควรตรวจแอลกอฮอล์ทันที
ถ้าเขาไม่ได้มาหาคุณหนุ่มก็จะทนแบบนี้ไปอีกกี่ปี
เราสามารถแก้กฎหมายอะไรบางอย่าง ทำให้สังคมดีขึ้นได้ เราควรบอก ตร.
ด้วยซ้ำพอเกิดอุบัติเหตุว่าไม่เมานะ ขอตรวจเลย ไม่ต้องไปตรวจที่ รพ.
- อาจารย์ล่ะ ?
นพ.ภาณุวัฒน์ : จริง ๆ อยากให้เป็นบรรทัดฐานทางสังคมว่าถ้าจะใช้หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ คุณต้องมีความเชี่ยวชาญ หรือไม่ก็ต้องมีผู้เชี่ยวชาญมา อย่าไปแปรผลกันเอง พอไปขึ้นศาลก็ต้องเสียเวลามานั่งอธิบาย ผมเจอเคสแบบนี้ไม่รู้เท่าไหร่แล้ว ถ้าไม่มีมาคุยในรายการ ปีหน้าก็มาอีกแล้ว ก็จะวนอยู่อย่างนี้
- ขอให้เป็นบรรทัดฐานสังคมเลย แพทยสภาก็ชี้มาแล้วว่าการนับคำนวณแบบนั้นไม่ถูกต้อง น่าจะต้องเพิ่มข้อกฎหมายเข้าไป ควรมีการตรวจเดี๋ยวนั้นเอง จะเป่า จะเจาะเลือดอะไรก็เดี๋ยวนั้นเลย เพื่อความเป็นธรรมของสังคม ถ้าเขาไม่ได้เมาก็จะได้รอด หรือคนเมาจริง ๆ ตรวจเลยเดี๋ยวนั้นก็จะได้จับเลยว่ามันเมาจริง ๆ ไม่ใช่ทิ้งเอาไว้แล้วมาหาบรรทัดฐานของสังคมว่าจะเอาตรงไหนกันแน่ บางวันคนหนีไป 5 ชม. กลับมาตรวจ แล้วบอกว่าไม่มีหรอก เพราะตรวจแล้ว บางคนไม่ได้เมาแต่ 5 ชม. ไปตรวจแล้วขึ้นมา 2 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ก็หาว่าเมา อยากบอกอะไร ?
เดือน : หนูกับครอบครัวขอบคุณพี่หนุ่ม ขอบคุณคุณหมอ ที่เห็นแก่พวกหนู ประชาชนคนธรรมดา (ร้องไห้) ตัวเล็ก ๆ ไม่ได้มีพาวเวอร์อะไร และขอบคุณบริษัทด้วยค่ะ ที่ติดต่อมาจะดูแลชดใช้ให้ครอบครัวหนู
กานต์ : พวกเราเดือดร้อนกันจริง ๆ ครับ
ทนาย : ที่อยากฝาก คดีนี้แอลกอฮอล์ไม่เกินกว่าตัวเงื่อนไขกำหนด บริษัทประกันควรซ่อมรถให้เขาก่อน หรือเยียวยาเขาไปก่อน หรือถ้าพิสูจน์ได้ มาฟ้องไล่เบี้ยเอาทีหลังก็ได้