หนุ่มคบแฟนสาว 4 ปี ไม่เคยเห็นหน้าจริง แกล้งหลับแอบดูสำเร็จ ตกใจจนต้องวิ่งหนี เรียกค่าเสียเวลา 4 ล้าน
ความซื่อสัตย์เป็นเรื่องสำคัญ ไม่ว่าเป็นเป็นความสัมพันธ์รูปแบบไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นคนรักกัน การโกหกหรือบิดบังกันแม้เพียงเรื่องเล็กน้อย อาจกลายเป็นปัญหาอย่างที่ไม่คาดคิดได้ในอนาคต
เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566 เว็บไซต์มิเรอร์มีเดีย เผยเรื่องราวจากชายหนุ่มรายหนึ่ง ชื่อสกุลเฉิน เมื่อเร็ว ๆ นี้เรื่องราวของเขาได้กลายเป็นประเด็นที่ถกเถียงร้อนแรงบนโซเชียล ภายหลังจากออกมาเล่าประสบการณ์ของ (อดีต) แฟนสาว ผ่านทางเว็บไซต์ Dcard ชุมชนออนไลน์ของไต้หวัน โดยกล่าวว่า "แฟนโกหกผมด้วยการแต่งหน้าเป็นเวลา 4 ปี !"
เฉินเผยว่า เขาคบกับแฟนสาวคนหนึ่ง ความสัมพันธ์ของทั้งสองเหมือนกับคู่ชาย-หญิงทั่ว ๆ ไป แต่แปลกตรงที่แฟนสาวของเขาปฏิเสธที่จะให้เขาเห็นใบหน้าที่แท้จริง ทุกครั้งเธอจะต้องมีเครื่องสำอางอยู่บนใบหน้าตลอดเวลา 4 ปี ที่คบกันมา แม้ว่าเขาจะขอให้เธอไม่แต่งหน้า แต่เธอก็ไม่ยอม
เฉินพยายามทั้งขอร้องและเกลี้ยกล่อมแฟนสาวซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่เธอก็ใจแข็งมาก เวลาเข้านอน แฟนสาวของเขาจะนอนทีหลังเสมอ และตื่นก่อนในตอนเช้าทุกครั้ง จึงทำให้เขาไม่มีโอกาสเห็นใบหน้าที่แท้จริงของเธอ เพราะเมื่อตื่นมา เธอก็ประโคมเครื่องสำอางเต็มหน้าเรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องอื่น ๆ ทั้งสองเข้ากันได้ดีมาก ยกเว้นเพียงเรื่องนี้เรื่องเดียว นี่จึงเป็นสาเหตุที่เขายังไม่มั่นใจที่จะแต่งงานกับเธอ จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ พ่อแม่ของเขาพูดถึงเรื่องการแต่งงาน เขาจึงคิดวิธีที่จะทำให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของแฟนสาว นั่นคือ การแกล้งหลับ
และในที่สุด เฉินก็ได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของแฟนสาว และมันทำให้เขาใจสลายมาก เขาตกใจจนถึงขนาดรีบวิ่งหนีออกไปนอนที่ห้องนั่งเล่น และหลังจากนั้นก็ไม่กลับบ้านอีกเป็นเดือน ก่อนที่จะเลิกกันไป
"ผมคิดว่าเธอทำเกินไป เธอไม่ใช่คนเดิมเลย ผมเคยนั่งหัวเราะโฆษณาหรือคลิปตลกที่ผู้ญิงเปลี่ยนไปหลังล้างหน้า แต่สุดท้ายแฟนผมเป็นแบบนั้นเลย มันน่ากลัวมาก" เฉิน กล่าว
ทั้งนี้ เฉินยังยอมรับว่า เขาไม่ต้องการให้ลูกของเขาในอนาคตหน้าเหมือนแฟนสาวคนนั้น ยิ่งปัจจุบันเป็นยุคที่ให้ความสำคัญกับหน้าตาและรูปร่าง เขาไม่ต้องการให้ลูกถูกหัวเราะเยาะ หรือต้องมาหมดเงินไปกับการศัลยกรรม อีกทั้งแฟนคนนี้ก็ยังไม่เคยเจอหน้าพ่อแม่ จึงคิดว่าน่าจะหาข้อแก้ตัวเลิกกับเธอได้
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เฉินยังไม่จบเพียงเท่านั้น เขาตั้งใจที่จะให้แฟนสาวรับผิดชอบเรื่องนี้ ด้วยการให้เธอจ่ายเงินชดเชย "ค่าเสียเวลา" 4 ปี เป็นจำนวนเงิน 4 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 4.5 ล้านบาท)
"มันคือการหลอกลวง มันแย่ยิ่งกว่าการนอกใจ" เฉิน กล่าว
ภายหลังจากเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่และแชร์ต่อกันออกไปกว้างขวาง ก็ได้รับความสนใจจากผู้คนพากันเข้าไปแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ นานา แต่ผู้ใช้โซเชียลไม่เห็นด้วยที่เขาโทษเป็นความผิดของผู้หญิงฝ่ายเดียว เพราะเขาก็ยอมรับเช่นนั้นมาตั้งแต่ต้น "ในเมื่อเขาเห็นว่าเรื่องหน้าตาเป็นสิ่งสำคัญกว่าความสัมพันธ์ ทำไมเขาไม่เคลียร์ให้มันชัดเจนไปตั้งแต่แรก"
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก Mirror Media
