x close

ลูกศิษย์ของขึ้น ! พุ่งใส่รูปปั้น หลวงพ่อเปิ่น - เพจวัดอธิบายอาการ... เกิดจากสิ่งนี้ !

 

          เพจวัดบางพระ จ.นครปฐม อธิบาย อาการของขึ้น คืออะไร ตามหลักพระพุทธศาสนา หลังเกิดเหตุลูกศิษย์ของขึ้น พุ่งใส่รูปปั้น หลวงพ่อเปิ่น กลางงานไหว้ครู

          วันที่ 4 มีนาคม 2566 ที่วัดบางพระ จ.นครปฐม ได้มีการจัดพิธีไหว้ครูหลวงพ่อเปิ่น ประจำปี 2566 ซึ่งท่านเป็นเกจิอาจารย์ดังแห่งลุ่มแม่น้ำนครชัยศรี เจ้าตำรับรอยสักเสือเผ่น โดยมีศิษยานุศิษย์และผู้ที่ศรัทธาจากหลายพื้นที่ เดินทางมาร่วมพิธีกันอย่างเนืองแน่น

          โดยระหว่างพิธีไหว้ครู "หลวงพ่อเปิ่น" ได้เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความฮือฮาให้กับหลาย ๆ คน ในช่วงที่ให้ผู้ร่วมพิธีนั่งสมาธิสงบนิ่ง ระลึกถึงพระรัตนตรัย และครูอาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชา รวมถึงบารมีหลวงพ่อเปิ่น ก่อนจะมีผู้ร่วมพิธีหลายรายเกิดอาการแปลก ๆ ซึ่งเรียกว่า "ของขึ้น" บางรายวิ่งกระโจนเข้าหารูปปั้นหลวงพ่อเปิ่น บางรายมีท่าทางคล้ายคนแก่ เดินย่อง ๆ เข้าไป บางรายมีท่าทางคล้ายเสือ ยืนชูแขน 2 ข้าง คำรามแล้ววิ่งเข้าใส่รูปปั้น

          ขณะที่ทางวัดได้จัดเจ้าหน้าที่คอยดูแล ป้องกันคนที่ของขึ้น ไม่ให้เข้าไปกระแทกกับรูปปั้น มีใช้มือจับที่ติ่งหู เพื่อช่วยให้สงบลงได้ในที่สุด โดยหลังเสร็จพิธี เจ้าอาวาสและคณะสงฆ์ก็ได้ร่วมกันพรมน้ำพระพุทธมนต์โดยวิธีฉีดพ่น ให้ผู้มาร่วมงานได้รับน้ำมนต์กันอย่างทั่วถึง

ลูกศิษย์ของขึ้น

          นอกจากนี้ทางเพจเฟซบุ๊ก วัดบางพระ จ.นครปฐม (หลวงพ่อเปิ่น) ยังได้โพสต์ อธิบาย "อาการของขึ้น" โดยอิงจากฐานความรู้ทางพระพุทธศาสนา อีกด้วย โดยยกข้อมูลเกี่ยวกับ "สมาธิ" ตามคัมภีร์วิสุทธิมรรค ว่าหมายถึง ภาวะที่จิตมีอารมณ์ตั้งมั่นในอารมณ์เดียวของฝ่ายกุศล สามารถแยกออกไปได้ตามความละเอียดปราณีตของจิต และอธิบายเกี่ยวกับฌาน และสมาบัติ ก่อนให้คำอธิบายเรื่อง อาการ "ของขึ้น" ว่าคืออะไร ดังนี้

          "จากกรณีที่ปรากฏขึ้นในงานไหว้ครูนี้ อาการของขึ้นอาจกล่าวได้ว่าเป็นผลของการที่จิตตั้งมั่นศรัทธาในรอยสัก และครูบาอาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชา ดังที่แสดงออกมาในขณะที่จิตเกิดอารมณ์ "ปีติ" หรือความอิ่มเอิบใจ ซึ่ง "ปีติ" นั้น สามารถจำแนกออกได้ 5 ประการ ดังนี้คือ

          1 ) ขุททกาปีติ คือ ปีติเล็กน้อย พอขนชูชันน้ำตาไหล

          2 ) ขณิกาปีติ คือ ปีติชั่วขณะ ทำให้รู้สึกแปลบ ๆ เป็นขณะ ๆ ดุจฟ้าแลบ

          3 ) โอกกันติกาปีติ คือ ปีติเป็นระลอก หรือปีติเป็นพัก ๆ ทำให้รู้สึกซู่ลงมา ๆ ในกายดุจคลื่นซัดต้องฝั่ง

          4 ) อุพเพคาปีติ หรือ อุพเพงคาปีติ คือ ปีติโลดลอย เป็นอย่างแรง ให้รู้สึกใจฟู แสดงอาการหรือทำการบางอย่างโดยมิได้ตั้งใจ เช่น เปล่งอุทาน เป็นต้น หรือให้รู้สึกตัวเบา เหมือนลอยขึ้นไปในอากาศ

          5 ) ผรณาปีติ คือ ปีติซาบซ่าน ให้รู้สึกเย็นซ่านเอิบอาบไปทั่วสรรพางค์


          ในคัมภีร์วิมุตติมรรค ได้จำแนกเหตุแห่งการเกิดปีติไว้ 6 ประการ คือ

          1 ) ปีติเกิดจากราคะ คือเกิดจากความอิ่มใจ เพราะความชอบ หลงใหล และความอิ่มใจที่ประกอบด้วยกิเลส
          2 ) ปีติเกิดจากศรัทธา คือเกิดจากความอิ่มใจของบุคคลผู้มีศรัทธาอย่างแรงกล้า
          3 ) ปีติเกิดจากความไม่ดื้อด้าน คือเกิดจากความอิ่มใจอย่างยิ่งของคนดี มีใจบริสุทธิ์
          4 ) ปีติเกิดจากวิเวก คือเกิดจากความอิ่มใจของผู้เข้าปฐมฌาน
          5 ) ปีติเกิดจากสมาธิ คือเกิดจากความอิ่มใจของผู้เข้าทุติยฌาน
          6 ) ปีติเกิดจากโพชฌงค์ คือเกิดจากความอิ่มใจที่เกิดจากการดำเนินตามโลกุตตรมรรค ในทุติยฌาน

          โดยสรุป - อาการของขึ้นตามที่ปรากฏนี้ จึงอาจกล่าวได้ว่าส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสมาธิ (ความตั้งมั่นแห่งจิต) อันเกิดจากความเชื่อมั่น ทำให้อารมณ์ของจิตเข้าสู่ "ปีติ" นั่นเอง"







เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ลูกศิษย์ของขึ้น ! พุ่งใส่รูปปั้น หลวงพ่อเปิ่น - เพจวัดอธิบายอาการ... เกิดจากสิ่งนี้ ! โพสต์เมื่อ 4 มีนาคม 2566 เวลา 22:16:31 4,350 อ่าน
TOP