อดีตภรรยา เสี่ยปาน 30 ล้าน โชว์สำเนาพินัยกรรม-ใบแจ้งความพี่สาวเสี่ยปาน ทวงสิทธิ์ให้ลูกชาย หลังไม่จ่ายตามคำสั่งเสีย 3 ล้าน บอกเงินหมดแล้ว อยากได้ให้ไปฟ้องเอา
วันที่ 9 มีนาคม 2566 โหนกระแส รายงานว่า อดีตภรรยาเสี่ยปาน ได้โชว์สำเนาพินัยกรรมของเสี่ยปาน และใบแจ้งความดำเนินคดีกับพี่สาวเสี่ยปาน ซึ่งเป็นผู้จัดการมรดก ในข้อหายักยอกทรัพย์ โดยในพินัยกรรมของเสี่ยปานที่ทำไว้ก่อนเสียชีวิตมีใจความว่า บ้านและที่ดิน 10 ไร่ ที่เป็นที่ตั้งบ้านขุนวรเดช ให้ผู้จัดการมรดกเป็นผู้ขาย จำหน่ายถ่ายโอน แล้วนำเงินที่ได้จากการขาย แบ่งให้เด็กชาย... ซึ่งเป็นลูกชายเสี่ยปาน จำนวน 3 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเงินสด 2 ล้านบาท โอนเข้าบัญชีเด็กชาย... ส่วนอีก 1 ล้านบาท ให้โอนให้เด็กชาย... เดือนละ 7,000 บาท ไปจนกว่าจะครบ 20 ปีบริบูรณ์
อดีตภรรยาเสี่ยปาน เปิดเผยว่า เสี่ยปาน เสียชีวิตวันที่ 13 พฤษภาคม 2566 ต่อมาวันที่ 25 พฤษภาคม 2566 ทนายความก็มาอ่านพินัยกรรมที่เสี่ยปานเขียนเอาไว้ หลังจากนั้นพี่สาวเสี่ยปานก็รับปากจะทำตามพินัยกรรม คือส่งเงินให้ลูกชายเดือนละ 7,000 บาท และเงินสดจากการขายที่ดินอีก 2,000,000 บาท เข้าบัญชี แต่ลูกชายตนไม่ได้รับเงินกว่า 6 เดือนแล้ว และเงิน 2,000,000 บาท ที่ได้จากการขายที่ดินก็ไม่ได้
ที่ตนมาเรียกร้องครั้งนี้
เพื่อให้ลูกได้รับมรดกตามที่อดีตสามีตั้งใจไว้
ยืนยันไม่ได้มีเจตนาอย่างอื่น
ไม่ว่าจะเป็นเงินจากการถูกลอตเตอรี่ที่ทราบว่าเหลือในบัญชีเกือบ 10 ล้านบาท
ทรัพย์สินที่ดินอีกหลายแปลง รถยนต์ที่เสี่ยปานตั้งใจอยากให้ลูกชาย
แต่พอไปถามป้าและลุงบอกว่าเอาไปเข้าไฟแนนซ์แล้ว หากอยากได้ให้ไปไถ่เอาเอง
170,000 บาท ตนก็ไม่ขอไปยุ่งเกี่ยว
ตนได้โทร. ไปคุยกับพี่สาวเสี่ยปานแล้ว ก็บอกเขาไปว่าอย่าทำอะไรหนูกับลูกนะ เขาก็บอกว่าไม่ทำหรอกกลัวบาปเป็นเวรเป็นกรรม แต่พออดีตสามีเสียชีวิต เขาก็ไม่ทำตามพินัยกรรม และมีการแอบขายที่ดินโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้าตามที่ตกลงกันไว้ ไปรู้เพราะมีชาวบ้านมาบอก โทร. ไปหาอีกครั้ง เขาบอกว่าเงินหมดแล้ว หากอยากได้ให้ไปฟ้องเอา ทั้งนี้ตนอยากเรียกร้องให้ลูกชายคนเดียวของเสี่ยปาน ให้ได้เงินจำนวน 3 ล้านบาท ตามพินัยกรรม ส่วนอะไรอื่น ๆ ที่เหลือขอไม่ไปยุ่งเกี่ยว ขอเรียกร้องสิทธิ์ที่ลูกชายคนเดียวของเขาพึงจะได้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก โหนกระแส
วันที่ 9 มีนาคม 2566 โหนกระแส รายงานว่า อดีตภรรยาเสี่ยปาน ได้โชว์สำเนาพินัยกรรมของเสี่ยปาน และใบแจ้งความดำเนินคดีกับพี่สาวเสี่ยปาน ซึ่งเป็นผู้จัดการมรดก ในข้อหายักยอกทรัพย์ โดยในพินัยกรรมของเสี่ยปานที่ทำไว้ก่อนเสียชีวิตมีใจความว่า บ้านและที่ดิน 10 ไร่ ที่เป็นที่ตั้งบ้านขุนวรเดช ให้ผู้จัดการมรดกเป็นผู้ขาย จำหน่ายถ่ายโอน แล้วนำเงินที่ได้จากการขาย แบ่งให้เด็กชาย... ซึ่งเป็นลูกชายเสี่ยปาน จำนวน 3 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเงินสด 2 ล้านบาท โอนเข้าบัญชีเด็กชาย... ส่วนอีก 1 ล้านบาท ให้โอนให้เด็กชาย... เดือนละ 7,000 บาท ไปจนกว่าจะครบ 20 ปีบริบูรณ์
อดีตภรรยาเสี่ยปาน เปิดเผยว่า เสี่ยปาน เสียชีวิตวันที่ 13 พฤษภาคม 2566 ต่อมาวันที่ 25 พฤษภาคม 2566 ทนายความก็มาอ่านพินัยกรรมที่เสี่ยปานเขียนเอาไว้ หลังจากนั้นพี่สาวเสี่ยปานก็รับปากจะทำตามพินัยกรรม คือส่งเงินให้ลูกชายเดือนละ 7,000 บาท และเงินสดจากการขายที่ดินอีก 2,000,000 บาท เข้าบัญชี แต่ลูกชายตนไม่ได้รับเงินกว่า 6 เดือนแล้ว และเงิน 2,000,000 บาท ที่ได้จากการขายที่ดินก็ไม่ได้
ตนได้โทร. ไปคุยกับพี่สาวเสี่ยปานแล้ว ก็บอกเขาไปว่าอย่าทำอะไรหนูกับลูกนะ เขาก็บอกว่าไม่ทำหรอกกลัวบาปเป็นเวรเป็นกรรม แต่พออดีตสามีเสียชีวิต เขาก็ไม่ทำตามพินัยกรรม และมีการแอบขายที่ดินโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้าตามที่ตกลงกันไว้ ไปรู้เพราะมีชาวบ้านมาบอก โทร. ไปหาอีกครั้ง เขาบอกว่าเงินหมดแล้ว หากอยากได้ให้ไปฟ้องเอา ทั้งนี้ตนอยากเรียกร้องให้ลูกชายคนเดียวของเสี่ยปาน ให้ได้เงินจำนวน 3 ล้านบาท ตามพินัยกรรม ส่วนอะไรอื่น ๆ ที่เหลือขอไม่ไปยุ่งเกี่ยว ขอเรียกร้องสิทธิ์ที่ลูกชายคนเดียวของเขาพึงจะได้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก โหนกระแส
