นักศึกษาสาวเรียนขับรถ ชนรถหรูแลมโบกินี่หรูพังยับ
คนจะเป็นลมไม่ใช่เจ้าของ หรือคนขับ แต่เป็นครูสอน
เผยใครเป็นผู้รับผิดชอบค่าเสียหาย

ภาพจาก Weibo
เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2566 เว็บไซต์ ETtoday รายงานว่า
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
บนโซเชียลมีเดียของจีนได้แชร์ภาพอุบัติเหตุที่น่าตกตะลึง
จนกลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจ
เหตุเกิดขึ้นที่บริเวณถนนกลางสี่แยกใหญ่ ในเมืองเซินเจิ้น มณฑลกวางตุ้ง
รถเก๋งของโรงเรียนสอนขับรถแห่งหนึ่ง
พุ่งชนกับรถสปอร์ตหรูแลมโบกินี่สีเหลืองสด
จนส่วนฝากระโปรงหน้ารถมีสภาพพังเสียหายยับเยิน
ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น เผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 มีนาคม ที่ผ่านมา ผู้ที่ขับรถของโรงเรียนสอนขับรถเป็นนักศึกษาสาวรายหนึ่ง เธอกำลังอยู่ระหว่างชั่วโมงการเรียนขับรถ โดยคุณครูที่สอนได้พาเธอออกไปขับบนถนนจริง แต่กลับเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น เคราะห์ดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเป็นอันตรายร้ายแรงจากเหตุดังกล่าว
ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น เผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 มีนาคม ที่ผ่านมา ผู้ที่ขับรถของโรงเรียนสอนขับรถเป็นนักศึกษาสาวรายหนึ่ง เธอกำลังอยู่ระหว่างชั่วโมงการเรียนขับรถ โดยคุณครูที่สอนได้พาเธอออกไปขับบนถนนจริง แต่กลับเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น เคราะห์ดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเป็นอันตรายร้ายแรงจากเหตุดังกล่าว

ภาพจาก Weibo
เจ้าของรถหรูออกมายืนดูสภาพความเสียหายของรถ พร้อมกับโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่บริษัทประกันให้มาจัดการ ส่วนทางด้านหญิงสาวคู่กรณี เธอยังอยู่ในช่วงทดลองขับ ดังนั้น ความรับผิดในการชดใช้ค่าเสียหายสำหรับอุบัติเหตุทางรถยนต์ครั้งนี้ จะได้รับการดูแลโดยโรงเรียนสอนขับรถยนต์ ซึ่งทางบริษัทประกันภัยของทางโรงเรียนจะเป็นผู้เจรจาตกลงเรื่องค่าเสียหายกับประกันของฝ่ายของรถแลมโบกินี่
อย่างไรก็ตาม แม้ว่ารายงานจะไม่ได้เปิดเผยเกี่ยวกับรายละเอียดค่าเสียหาย แต่ดูจากสภาพของรถยนต์ที่ถูกชน ก็น่าจะเป็นจำนวนเงินที่ไม่น้อยเลยทีเดียว ทั้งนี้ เมื่อชุดภาพอุบัติเหตุดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปบนสื่อออนไลน์ ผู้คนก็เข้าไปแสดงความคิดเห็นมากมาย โดยส่วนใหญ่ต่างเห็นใจผู้ประสบเหตุ โดยเฉพาะคุณครูสอนขับรถ ที่ดูเหมือนจะตกใจจนหน้าซีดยิ่งกว่าใคร
"ครูสอนขับรถถึงกับกุมขมับ ต้องขอเปิดระดมทุนแล้ว"
"ค่าเรียนขับรถหลายพันหยวน แต่ค่าเสียหายรถหรูที่ไปชนหลายล้านหยวน"
"ครูสอนขับรถเป็นลมแล้ว"
"ที่สุดของการขับรถโดยไม่ต้องมีใบอนุญาตขับขี่ ชนแล้วไม่ต้องจ่ายเงินค่าเสียหาย"
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่

ภาพจาก Weibo

ภาพจาก Weibo
ขอบคุณข้อมูลจาก ETtoday