x close

ว่อนเน็ต ! จ้างนอนโรงแรม คืนละ 2,000 - ตำรวจไขคำตอบ เรื่องจริงหรือโกหก ?

           โลกออนไลน์แชร์คลิปโพสต์หาคนไปนอนโรงแรม จ่ายคืนละ 2,000 หรือเดือนละ 3 หมื่น ด้านตำรวจเตือนระวังโดนหลอก หลงเชื่อระวังเสียเงินหนัก

           วันที่ 17 เมษายน 2566 ตำรวจไซเบอร์ เตือนภัยมิจฉาชีพรับสมัครผู้ทดสอบการนอนโรงแรม อ้างแค่นอนหลับก็มีรายได้ จากกรณีที่ผ่านมามีผู้เสียหายหลายรายถูกมิจฉาชีพชักชวนหลอกลวงให้ทำงาน หรือทำภารกิจออนไลน์เพื่อหารายได้เสริม ผ่านการโฆษณาตามเฟซบุ๊ก, TikTok และอินสตาแกรม ลงคลิปสั้น ๆ ชักชวนรับสมัครผู้ทดสอบการนอนโรงแรม ระบุว่าได้ผลตอบแทนสูงกว่า 30,000 บาทต่อเดือน หรืออ้างว่าจะได้ค่าจ้างจากการนอนหลับจริงกว่า 2,000 บาทต่อคืน รวมถึงจะได้รับสวัสดิการ ค่าเดินทาง ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ฟรี

           เมื่อผู้เสียหายสนใจ มิจฉาชีพจะให้ทดสอบแสดงความเห็น หรือรีวิวโรงแรมต่าง ๆ ก่อนที่จะได้รับงานทดสอบการนอนที่โรงแรมจริง เพื่อประเมินว่าผู้เสียหายมีความสามารถเพียงพอหรือไม่ หากผู้เสียหายแสดงความเห็นเสร็จแล้วจะได้รับเงินจริง 50 บาทต่องาน จากนั้นจะให้เข้ากลุ่มในแอปฯ Telegram แจ้งว่ามีงานภารกิจเสริมให้ทำ หลอกลวงให้ลงทุนเทรดหุ้น อ้างว่าจะได้รับกำไรมากกว่านี้

           กระทั่งผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปร่วมลงทุน โดยในครั้งแรกที่ลงทุนด้วยจำนวนที่ไม่มากจะได้รับกำไรจากการลงทุนกลับคืนมาจริง จากนั้นมิจฉาชีพก็จะหลอกให้โอนเงินมาลงทุนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนไม่สามารถถอนเงินออกมาได้อ้างเหตุผลต่าง ๆ ผู้เสียหายเชื่อว่าถูกหลอกลวงจึงมาแจ้งความผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์ให้ดำเนินคดีกับมิจฉาชีพตามกฎหมายต่อไป

รับจ้างนอนโรงแรม

แนวทางการป้องกันการถูกหลอกลวงหารายได้จากการทำกิจกรรมผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ดังนี้

           1. เมื่อพบคำเชิญชวนให้ทำงานออนไลน์ ผ่านทางข้อความสั้น (SMS) หรือประกาศ โฆษณาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊ก, อินสตาแกรม, TikTok อย่าเข้าไปติดต่อสมัครทำงานเป็นอันขาด มักจะมีการแอบอ้างสัญลักษณ์ของหน่วยงาน หรือบริษัทที่เกี่ยวข้องมาเพิ่มความน่าเชื่อถือ

           2. หลีกเลี่ยงข้อเสนอที่ฟังดูดี หรือมีผลตอบแทนสูง ทำง่าย มีขั้นตอนไม่ซับซ้อน

           3. หากต้องการจะทำงานจริง ๆ ให้ปรึกษาสายด่วนของตำรวจไซเบอร์ ที่หมายเลข 1441 หรือ 08-1866-3000 เพื่อปรึกษา สอบถามว่างานดังกล่าวเข้าข่ายหลอกลวงเป็นมิจฉาชีพหรือไม่

           4. หากพบว่ามีการให้โอนเงินมัดจำ หรือเงินลงทุน หรือสำรองเงินใด ๆ ก่อน สันนิษฐานได้ทันทีว่ากำลังโดนมิจฉาชีพหลอกลวง อย่าโอนเงินไปเด็ดขาด

           5. ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลทางการเงินใด ๆ มิจฉาชีพมักให้เหยื่อส่งหลักฐาน ข้อมูลส่วนบุคคล อ้างว่าใช้ในการสมัครงาน เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ

           6. ระมัดระวังการโอนผ่านบัญชีของบุคคลธรรมดา โดยควรตรวจสอบหมายเลขบัญชีธนาคาร หรือชื่อนามสกุลเจ้าของบัญชี ก่อนโอนเงินทุกครั้งว่ามีประวัติไม่ดีหรือไม่ ผ่าน www.blacklistseller.com หรือ www.chaladohn.com เป็นต้น

           7. ช่วยกันตรวจสอบ สอดส่องบุตรหลาน บุคคลใกล้ชิดว่ามีพฤติกรรมทางการเงินผิดปกติหรือไม่ เพื่อจะได้สามารถให้คำปรึกษา ยับยั้งความเสียหายที่จะเกิดขึ้นได้ทันท่วงที


ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี บช.สอท. - CCIB



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ว่อนเน็ต ! จ้างนอนโรงแรม คืนละ 2,000 - ตำรวจไขคำตอบ เรื่องจริงหรือโกหก ? อัปเดตล่าสุด 19 เมษายน 2566 เวลา 09:36:13 14,171 อ่าน
TOP