สาวบอกลาอาชีพแอร์โฮสเตส หันมาเรียนการทำอาหารพื้นเมืองเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งชาเย็น ส้มตำ ล่าสุดไปขายที่ตลาดนัด ฟันกำไรเหนาะ ๆ วันละเกือบ 25,000 บาท พร้อมเผยเส้นทาง มาถึงจุดนี้ได้อย่างไร
ภาพจาก Sina
ในชีวิตคนเรา ย่อมมีจุดที่ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดและลงไปที่จุดต่ำสุดของชีวิต หากแต่เมื่อเราล้มนั้น เราต้องเรียนรู้ที่จะไม่ย่อท้อ พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส และมุ่งมั่นพยายามจนนำไปสู่ความสำเร็จ เหมือนเรื่องราวของสาวจีนคนนี้ ที่ลาออกจากงานแอร์โฮสเตสในช่วงโควิด หันมาเรียนรู้การทำส้มตำ ชาเย็น จนวันนี้รายได้เป็นกอบเป็นกำ
ทั้งนี้ เว็บไซต์ Sina รายงานว่า สาวจีนที่มีนามว่า เค่อ ได้ตั้งร้านขายส้มตำและชาไทยที่ตลาดนัดอู่หลินในเมืองหางโจว ประเทศจีน ซึ่งปรากฏว่าที่ร้านของเธอมีคนมาต่อคิวรอซื้อเป็นจำนวนมาก บวกกับแม่ค้าสวยหน้าตาดี จึงทำให้มีทั้งลูกค้าขาประจำและขาจรแวะเวียนมาบ่อย ๆ
ภาพจาก Sina
โดยในร้านของเค่อนั้น จะขายสินค้าทั้งเครื่องดื่มและอาหารคาว ซึ่งส่วนมากเป็นอาหารจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น กาแฟโบราณ, โอเลี้ยง, ชาเย็น ซึ่งมีราคาตั้งแต่ 20-25 หยวน (แก้วละ 100-120 บาท) ในส่วนของอาหารนั้นมีทั้ง ส้มตำ ขาไก่ ตำมะม่วงหอยนางรม หนังหมูกรอบ สนนราคาตั้งแต่ 28-40 หยวน (ประมาณ 140-200 บาท)
ในส่วนวิธีการทำกาแฟนั้นคล้ายกับกาแฟโบราณของไทยมาก โดยเริ่มจากการใส่ผงกาแฟ 2 ช้อนชา ใส่น้ำร้อนลงไปคน จากนั้นก็ใส่นมผง ละลายกาแฟและนมให้เข้ากัน แล้วก็ใส่นมข้นหวานและปิดท้ายด้วยนมข้นจืด แล้วเทใส่ถุงที่ใส่น้ำแข็ง ใช้หนังยางรัด แล้วใส่ถุงกระดาษเก็บความเย็น ซึ่งทั้งหมดนี้ใช้เวลาแค่ 2-3 นาทีเท่านั้น ในขณะที่ลูกค้าเมื่อได้ชิมก็บอกว่า รสชาติกาแฟโบราณนั้นอร่อยและความหวานพอดีมาก และยังชักชวนเพื่อน ๆ มาซื้อกินอีกด้วย
ในส่วนวิธีการทำกาแฟนั้นคล้ายกับกาแฟโบราณของไทยมาก โดยเริ่มจากการใส่ผงกาแฟ 2 ช้อนชา ใส่น้ำร้อนลงไปคน จากนั้นก็ใส่นมผง ละลายกาแฟและนมให้เข้ากัน แล้วก็ใส่นมข้นหวานและปิดท้ายด้วยนมข้นจืด แล้วเทใส่ถุงที่ใส่น้ำแข็ง ใช้หนังยางรัด แล้วใส่ถุงกระดาษเก็บความเย็น ซึ่งทั้งหมดนี้ใช้เวลาแค่ 2-3 นาทีเท่านั้น ในขณะที่ลูกค้าเมื่อได้ชิมก็บอกว่า รสชาติกาแฟโบราณนั้นอร่อยและความหวานพอดีมาก และยังชักชวนเพื่อน ๆ มาซื้อกินอีกด้วย
ภาพจาก Sina
แต่นั่นก็ไม่ทำให้เค่อหยุดทำงาน เพราะจากนั้นเธอก็ไปเป็นพริตตี้ไลฟ์ขายของ เธอสูง 168 ซม. และหนักเพียง 45 กก. แต่การทำงานเป็นพริตตี้ไลฟ์ขายของนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะดี เพราะการแข่งขันค่อนข้างสูง เธอทำงานได้เพียง 6 เดือนก็ลาออก แต่เธอก็ยังมองว่า การมาทำงานพริตตี้ได้ช่วยให้เธอมีประสบการณ์ด้านการขายของ
ภาพจาก Sina
อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกที่ลองมาขายของนั้น เค่อขายได้ไม่ค่อยดี เธอยังจับเครื่องมือและทำอาหารได้ไม่คล่อง ทำให้เธอไปบอกน้องสาวที่อยู่เมืองอู่ฮั่นให้มาช่วยกัน เธอตั้งร้านเล็ก ๆ ถ่ายคลิป และเอาลงโซเชียล ในช่วงแรกเค่อขายของได้แค่วันละ 500-1,000 บาท (100-200 หยวน) เท่านั้น แต่น้องของเธอก็บอกว่าอย่าเพิ่งท้อ ให้ทำต่อไป จนกระทั่งคลิปของเธอไปเตะตากับผู้จัดการตลาดอู่หลินเข้า และชวนให้เธอมาขายของที่นี่ นั่นทำให้เธอพลิกวิกฤตเป็นโอกาส สร้างกำไรมหาศาลจากการขายส้มตำและชาเย็น
ในตอนแรก เค่อไม่ค่อยอยากให้เพื่อนรู้ว่าเธอหันมาทำอาชีพแม่ค้าขายส้มตำ เธอกลัวว่าจะโดนเพื่อนดูถูก แต่พอขายดีมาก ๆ เธอก็รู้สึกว่าเพื่อน ๆ ต่างอยากมาหาและช่วยอุดหนุนเธอด้วย
"ถ้าหากคุณได้พยายามอย่างถึงที่สุดแล้ว สุดท้าย ดอกผลที่หว่านไว้ก็จะงอกงามเอง"
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่