กรมสรรพากร แจงดราม่าเก็บค่าเดินทางออกนอกประเทศ 1 พันบาท ยัน เป็นแค่การรับฟังความคิดเห็นตามกฎหมายที่บังคับให้ทำ ไม่ได้เก็บจริง ๆ แย้ม อนาคตยังต้องรับฟังความเห็นกฎหมายปิโตรเลียมและมรดกอีกในปี 2567
ภาพจาก Gumpanat / Shutterstock.com
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่า กรมสรรพากร จะเก็บภาษีการเดินทางออกนอกประเทศทางอากาศครั้งละ 1,000 บาท ทางบกหรือทางน้ำ ครั้งละ 500 บาท เพื่อหารายได้แก่รัฐบาล และป้องกันไม่ให้คนไทยนำเงินตราออกนอกประเทศเกินสมควร แก้ปัญหาการขาดดุลทางการค้า รักษาดุลการชำระเงินระหว่างประเทศ โดยทางกรมจะเปิดรับฟังความคิดเห็นระหว่างวันที่ 3-17 พฤษภาคม 2566
ในเรื่องนี้ ประชาชนไม่เห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว มองว่า เป็นแนวคิดที่ขูดเลือดขูดเนื้อคนในชาติเกินไป เพราะปัจจุบันค่าครองชีพในประเทศก็แพงอยู่แล้ว
ล่าสุด วันที่ 7 พฤษภาคม 2566 เฟซบุ๊ก กระทรวงการคลัง : Ministry of Finance รายงานว่า นายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ รองอธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะโฆษกกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมเปิดรับฟังความคิดเห็นเพื่อประกอบการประเมินผลสัมฤทธิ์พระราชกำหนดภาษีการเดินทางออกนอกราชอาณาจักร พ.ศ. 2526 ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ถือเป็นการดำเนินการตามมติ ครม. วันที่ 19 มกราคม 2564 ไม่ได้เป็นการเตรียมการที่จะจัดเก็บภาษีการเดินทางออกนอกราชอาณาจักรแต่อย่างใด ถึงแม้กฎหมายดังกล่าวจะไม่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2534 ก็ตาม
ทั้งนี้ พระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562 กำหนดให้กรมสรรพากรยังต้องดำเนินการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย โดยการรับฟังความเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้องในระบบกลางตามมาตรา 35 ของ พ.ร.บ. ฉบับดังกล่าว
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก กระทรวงการคลัง : Ministry of Finance