แกนนำพรรคพลังประชารัฐ มองเร็วไปพรรคก้าวไกลประกาศจัดตั้งรัฐบาล เพราะมีเงื่อนไข ส.ว. ส่วนทิศทางของพรรคหลังจากนี้ ต้องรอ บิ๊กป้อม ตัดสินใจ
ภาพจาก พรรคพลังประชารัฐ
วันที่ 15 พฤษภาคม 2566 เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว รายงานว่า นายวราเทพ รัตนากร คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยถึงผลคะแนนการเลือกตั้งว่า พรรคพลังประชารัฐ ได้เป็นลำดับที่ 4 คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก ต้องรอผลที่ กกต. รับรอง และต้องดูว่าหลังจากนี้จะมีการร้องเรียนอะไรอีกหรือไม่ ล่าสุดทางพรรคยังไม่มีการหารือทิศทาง พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ยังไม่ได้ให้แนวทางอะไร อาจจะต้องรอประเมินสถานการณ์ของแต่ละพื้นที่
เมื่อถามว่าในพื้นที่กำแพงเพชรที่ได้ยกจังหวัด ถือว่าเกินความคาดหมายหรือไม่ นายวราเทพ กล่าวว่า กำแพงเพชรตั้งเป้าไว้ว่าจะยกทีมทั้งจังหวัด ซึ่งก็ทำได้
ภาพจาก พรรคก้าวไกล
ส่วนที่พรรคก้าวไกล ออกมาแถลงจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคฝ่ายค้านเดิม ถือว่าเร็วเกินไปหรือไม่ นายวราเทพ กล่าวว่า ที่ผ่านมาหลังทราบผลคะแนนพรรคการเมืองก็ย่อมแสดงท่าที ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ด้วยกติกาที่ต้องมีการเลือกนายกรัฐมนตรีรูปแบบใหม่ตามรัฐธรรมนูญ 60 ก็อาจมองได้ว่าเร็วไป เพราะยังมีสัดส่วนของการลงคะแนนในส่วนของสมาชิกวุฒิสภาด้วย
เมื่อถามว่าจนถึงตอนนี้แกนนำพรรคพลังประชารัฐมีการพูดคุยกับพรรคอันดับ 2 อย่างพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายวราเทพ กล่าวว่า ข้อมูลที่ตนรับรู้ยังไม่มีการพูดคุย และคาดว่าไม่น่าจะมี เมื่อถามว่าเชื่อมั่นว่า พรรคก้าวไกลจะจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จหรือไม่ นายวราเทพ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการพูดคุยของพรรคที่เป็นแกนนำหลัก
ถามต่อว่าพรรคพลังประชารัฐ กับพรรคเพื่อไทย สามารถที่จะร่วมกันได้อยู่แล้วใช่หรือไม่ นายวราเทพ กล่าวว่า คงพูดอย่างนั้นไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องที่พรรคอันดับ 1 และอันดับ 2 เป็นคนพูด เพิ่งเลือกตั้งมาเมื่อวานคนคงอยากเห็นรัฐบาลเร็ว ๆ เห็นรูปร่างหน้าตารัฐบาล แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับพรรคที่ได้รับคะแนนสูงสุด ซึ่งขั้นตอนก็มีอยู่แล้ว หากสามารถพูดคุยกันได้ก็เป็นที่ชัดเจน แต่ถ้ายังไม่ได้ ก็มีเวลาอยู่ เพราะต้องรอ กกต. รับรอง ภายใน 60 วัน และต้องรอดูว่าแต่ละพื้นที่ว่ามีการร้องเรียนมากน้อยแค่ไหน
เมื่อถามว่าสัดส่วนบัญชีรายชื่อของพรรคพลังประชารัฐ ดูเหมือนจะได้น้อยเกินไปหรือไม่ นายวราเทพ กล่าวว่า คงต้องไปวิเคราะห์ แต่ตนมองว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่มีใครคาดคิด หลายพรรคก็คงจะทราบว่าคะแนนที่คิดว่าน่าจะได้ก็หายไปหมด คือได้ผลลบมากกว่า ยกเว้นพรรคก้าวไกล ที่มีผลบวกมากกว่าผลลบ
นายวราเทพ แสดงความเห็นถึงกรณีบ้านใหญ่แพ้ราบคาบว่า ไม่ทราบว่าแต่ละพื้นที่เป็นอย่างไร เพราะดูรายละเอียดของแต่ละจังหวัด แต่อาจจะเร็วไปที่จะบอกว่า เอามาเป็นบทเรียนสำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไป เพราะเราอยากเห็นเสถียรภาพของรัฐบาล ไม่อยากเห็นการเลือกตั้งบ่อย ประเทศจะได้มีรัฐบาลที่เข้มแข็ง สามารถแก้ปัญหาให้ประชาชนได้
ส่วน พลเอก ประวิตร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 นั้นจะปฏิบัติหน้าที่เองหรือไม่ คงต้องรอฟังการตัดสินใจของพลเอก ประวิตร หลังจากมีการเปิดสภา
ข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
ภาพจาก พรรคพลังประชารัฐ
วันที่ 15 พฤษภาคม 2566 เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว รายงานว่า นายวราเทพ รัตนากร คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยถึงผลคะแนนการเลือกตั้งว่า พรรคพลังประชารัฐ ได้เป็นลำดับที่ 4 คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก ต้องรอผลที่ กกต. รับรอง และต้องดูว่าหลังจากนี้จะมีการร้องเรียนอะไรอีกหรือไม่ ล่าสุดทางพรรคยังไม่มีการหารือทิศทาง พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ยังไม่ได้ให้แนวทางอะไร อาจจะต้องรอประเมินสถานการณ์ของแต่ละพื้นที่
เมื่อถามว่าในพื้นที่กำแพงเพชรที่ได้ยกจังหวัด ถือว่าเกินความคาดหมายหรือไม่ นายวราเทพ กล่าวว่า กำแพงเพชรตั้งเป้าไว้ว่าจะยกทีมทั้งจังหวัด ซึ่งก็ทำได้
ภาพจาก พรรคก้าวไกล
ส่วนที่พรรคก้าวไกล ออกมาแถลงจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคฝ่ายค้านเดิม ถือว่าเร็วเกินไปหรือไม่ นายวราเทพ กล่าวว่า ที่ผ่านมาหลังทราบผลคะแนนพรรคการเมืองก็ย่อมแสดงท่าที ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ด้วยกติกาที่ต้องมีการเลือกนายกรัฐมนตรีรูปแบบใหม่ตามรัฐธรรมนูญ 60 ก็อาจมองได้ว่าเร็วไป เพราะยังมีสัดส่วนของการลงคะแนนในส่วนของสมาชิกวุฒิสภาด้วย
เมื่อถามว่าจนถึงตอนนี้แกนนำพรรคพลังประชารัฐมีการพูดคุยกับพรรคอันดับ 2 อย่างพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายวราเทพ กล่าวว่า ข้อมูลที่ตนรับรู้ยังไม่มีการพูดคุย และคาดว่าไม่น่าจะมี เมื่อถามว่าเชื่อมั่นว่า พรรคก้าวไกลจะจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จหรือไม่ นายวราเทพ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการพูดคุยของพรรคที่เป็นแกนนำหลัก
ถามต่อว่าพรรคพลังประชารัฐ กับพรรคเพื่อไทย สามารถที่จะร่วมกันได้อยู่แล้วใช่หรือไม่ นายวราเทพ กล่าวว่า คงพูดอย่างนั้นไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องที่พรรคอันดับ 1 และอันดับ 2 เป็นคนพูด เพิ่งเลือกตั้งมาเมื่อวานคนคงอยากเห็นรัฐบาลเร็ว ๆ เห็นรูปร่างหน้าตารัฐบาล แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับพรรคที่ได้รับคะแนนสูงสุด ซึ่งขั้นตอนก็มีอยู่แล้ว หากสามารถพูดคุยกันได้ก็เป็นที่ชัดเจน แต่ถ้ายังไม่ได้ ก็มีเวลาอยู่ เพราะต้องรอ กกต. รับรอง ภายใน 60 วัน และต้องรอดูว่าแต่ละพื้นที่ว่ามีการร้องเรียนมากน้อยแค่ไหน
เมื่อถามว่าสัดส่วนบัญชีรายชื่อของพรรคพลังประชารัฐ ดูเหมือนจะได้น้อยเกินไปหรือไม่ นายวราเทพ กล่าวว่า คงต้องไปวิเคราะห์ แต่ตนมองว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่มีใครคาดคิด หลายพรรคก็คงจะทราบว่าคะแนนที่คิดว่าน่าจะได้ก็หายไปหมด คือได้ผลลบมากกว่า ยกเว้นพรรคก้าวไกล ที่มีผลบวกมากกว่าผลลบ
นายวราเทพ แสดงความเห็นถึงกรณีบ้านใหญ่แพ้ราบคาบว่า ไม่ทราบว่าแต่ละพื้นที่เป็นอย่างไร เพราะดูรายละเอียดของแต่ละจังหวัด แต่อาจจะเร็วไปที่จะบอกว่า เอามาเป็นบทเรียนสำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไป เพราะเราอยากเห็นเสถียรภาพของรัฐบาล ไม่อยากเห็นการเลือกตั้งบ่อย ประเทศจะได้มีรัฐบาลที่เข้มแข็ง สามารถแก้ปัญหาให้ประชาชนได้
ส่วน พลเอก ประวิตร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 นั้นจะปฏิบัติหน้าที่เองหรือไม่ คงต้องรอฟังการตัดสินใจของพลเอก ประวิตร หลังจากมีการเปิดสภา
ข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว