สิงคโปร์ ลงโทษประหารชีวิต แขวนคอผู้ต้องหาชาย ในความผิดฐานค้ากัญชา นับเป็นคนที่ 2 ในรอบ 3 สัปดาห์
เว็บไซต์ลอสแอนเจลิสไทมส์ รายงานว่า ศาลสิงคโปร์ตัดสินลงโทษประหารชีวิต โดยการแขวนคอพลเมืองชายวัย
37 ปี ในข้อหาค้ากัญชาน้ำหนัก 3.3 ปอนด์ หรือราว 1.5 กิโลกรัม เมื่อวันที่
17 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นนักโทษรายที่ 2 ในรอบ 3 สัปดาห์
ที่ถูกตัดสินโทษประหารชีวิตในคดีเดียวกัน
ชายรายดังกล่าว ซึ่งไม่เปิดเผยชื่อเนื่องจากครอบครัวขอความเป็นส่วนตัว เคยมีประวัติจำคุกเป็นเวลา 7 ปี ก่อนที่จะถูกจับและตัดสินว่ามีความผิดฐานค้ากัญชาในปี 2562 จนกระทั่งในวันที่ 16 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ในการตัดสินคดีครั้งสุดท้าย ผู้ต้องหาชายรายนี้พยายามต่อสู้ด้วยหลักฐานดีเอ็นเอและลายนิ้วมือ ซึ่งเชื่อมโยงกับกัญชาในปริมาณที่น้อยกว่าที่ถูกตั้งข้อหา โดยเขาอ้างว่ามีไว้เพียงครอบครอง ไม่ใช่เพื่อการค้า แต่ท้ายที่สุดศาลปฏิเสธไม่รับฟัง และพิพากษาโทษประหารชีวิต
สำนักงานปราบปรามยาเสพติดกลางของประเทศสิงคโปร์ ระบุในแถลงการณ์ยืนยันการประหารชีวิต ว่า "การลงโทษประหารชีวิตเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การป้องกันอันตรายอย่างครอบคลุมของสิงคโปร์ โดยมีเป้าหมายเป็นทั้งผู้ซื้อและผู้ค้ายาเสพติด"
ตามกฎหมายของสิงคโปร์ ระบุไว้ว่า การค้ากัญชามากกว่า 1.1 ปอนด์ หรือราว 500 กรัมขึ้นไป มีโทษประหารชีวิต ส่วนการค้ายาเสพติดชนิดอื่นก็มีโทษประหารชีวิตเช่นเดียวกัน โดยกำหนดขั้นต่ำไว้ ได้แก่ เมทแอมเฟตามีน หรือยาบ้า 250 กรัม โคเคน 30 กรัม และเฮโรอีน 15 กรัม
ด้านนักเคลื่อนไหวสนับสนุนการยกเลิกโทษประหารชีวิตในสิงคโปร์ รวมทั้งกลุ่มสิทธิมนุษยชน และสหประชาชาติ ได้ออกมาเรียกร้องให้ทางการสิงคโปร์ยุติการประหารชีวิตนักโทษในคดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด พร้อมทั้งร้องเรียนให้มีการตรวจสอบฐานละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยเมื่อปีที่แล้ว สิงคโปร์ประหารชีวิตนักโทษคดียาเสพติดไปจำนวน 11 ราย หลังจากเว้นไป 2 ปี เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด 19
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่