พยาบาลสุดหลอน ได้ยินเสียงเด็กร้องกลางดึก เจอที่มาจากห้องเก็บศพ ช็อกเจอทารกถูกทิ้งให้อดน้ำ อดอาหาร 8 วัน บีบหัวใจจนอยากร้องไห้
เป็นเรื่องราวสุดสะเทือนใจสำหรับชะตากรรมของทารกน้อยรายหนึ่ง
ที่ถูกครอบครัวนำมาทิ้งไว้ในห้องเก็บศพของโรงพยาบาล
ปล่อยให้อดน้ำและอาหารนานถึง 8 วัน 8 คืน
แต่ใครจะคิดว่าปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้นกับชีวิตน้อย ๆ ที่ยังไม่ยอมแพ้
แม้จะถูกทอดทิ้งให้อยู่ท่ามกลางเหล่าคนตายก็ตาม
โดยจากรายงานของเว็บไซต์ sohu เผยว่าในช่วงกลางดึกวันที่ 14 กรกฎาคม 2554 พยาบาลซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในวอร์ดผู้ป่วยที่โรงพยาบาลประชาชนเขตจิงอัน มณฑลเจียงซี ประเทศจีน ได้ยินเสียงร้องของเด็กดังขึ้น ด้วยความที่เธอง่วงมากและผ่านการทำงานมาอย่างหนัก จึงคิดว่าแค่ประสาทหลอนไปเองเท่านั้น แต่เมื่อตั้งใจฟังดูอีกครั้ง ก็มั่นใจว่าเธอไม่ได้หูฝาด มีเด็กกำลังร้องไห้อยู่จริง ๆ
อย่างไรก็ตาม หลังผ่านไป 2 ชั่วโมง เด็กก็ยังร้องไม่หยุดราวกับไม่มีคนคอยดูแลเด็ก พยาบาลรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ จึงพยายามจะเดินหาที่มาของเสียง แต่อยู่ ๆ เสียงก็เงียบลงไป ด้วยบรรยากาศของโรงพยาบาลในตอนกลางคืนที่มีแสงสว่างน้อยนิด ประกอบกับเสียงร้องปริศนา ทำให้พยาบาลอดหลัวไม่ได้
โดยจากรายงานของเว็บไซต์ sohu เผยว่าในช่วงกลางดึกวันที่ 14 กรกฎาคม 2554 พยาบาลซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในวอร์ดผู้ป่วยที่โรงพยาบาลประชาชนเขตจิงอัน มณฑลเจียงซี ประเทศจีน ได้ยินเสียงร้องของเด็กดังขึ้น ด้วยความที่เธอง่วงมากและผ่านการทำงานมาอย่างหนัก จึงคิดว่าแค่ประสาทหลอนไปเองเท่านั้น แต่เมื่อตั้งใจฟังดูอีกครั้ง ก็มั่นใจว่าเธอไม่ได้หูฝาด มีเด็กกำลังร้องไห้อยู่จริง ๆ
อย่างไรก็ตาม หลังผ่านไป 2 ชั่วโมง เด็กก็ยังร้องไม่หยุดราวกับไม่มีคนคอยดูแลเด็ก พยาบาลรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ จึงพยายามจะเดินหาที่มาของเสียง แต่อยู่ ๆ เสียงก็เงียบลงไป ด้วยบรรยากาศของโรงพยาบาลในตอนกลางคืนที่มีแสงสว่างน้อยนิด ประกอบกับเสียงร้องปริศนา ทำให้พยาบาลอดหลัวไม่ได้
อย่างไรก็ตาม เสียงร้องนั้นยังไม่มีท่าทีจะหยุดลง เธอจึงข่มกลั้นความกลัว เดินไปขอให้ รปภ. นำกุญแจมาเปิดห้องและเข้าไปในห้องเก็บศพด้วยกัน และทุกคนก็ต้องช็อกหนักเมื่อเห็นว่ามีทารกน้อย ถูกนำมาวางไว้ตรงมุมหนึ่งของห้อง
ยิ่งได้เห็นสภาพของทารก พยาบาลก็ยิ่งปวดใจจนอยากจะร้องไห้ ด้วยอาชีพทำให้เธอบอกได้ทันทีว่านี่คือเด็กที่เพิ่งคลอดได้ไม่นาน แต่แขนขาของหนูน้อยกลับผอมแห้ง ราวกับไม่ได้กินนมแม่มาหลายวันแล้ว แถมยังมีรอยถูกยุงกัดอยู่เต็มตัว ดังนั้นเธอจึงรีบติดต่อแพทย์ให้มาตรวจร่างกายหนูน้อย พร้อมโทร. แจ้งเรื่องกับทางตำรวจทันที
หลังจากการตรวจร่างกาย แพทย์เผยว่าทารกมีอาการบาดเจ็บแค่ภายนอกเท่านั้น อวัยวะภายในไม่เสียหาย แต่น่าเศร้าที่พวกเขาพบว่าทารกมีลักษณะพิการตั้งแต่กำเนิด โดยมือทั้ง 2 ข้างและขาอีก 1 ข้าง พบว่านิ้วของทารกเชื่อมอยู่ติดกัน ทำให้พวกเขาเชื่อว่านี่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ทารกถูกทอดทิ้ง
ขณะที่ทางตำรวจได้เข้ามาสอบสวน เดิมพวกเขาสงสัยว่าทางโรงพยาบาลมีการวินิจฉัยผิดพลาด ทำให้ส่งทารกที่ยังไม่ตายไปยังห้องเก็บศพ แต่ได้รับการยืนยันว่าทารกที่เสียชีวิตในโรงพยาบาลจะไม่ถูกส่งมาที่นี่ แต่จะถูกส่งกลับไปยังครอบครัวทุกครั้ง ทำให้ตำรวจตัดประเด็นนี้ไป และคาดว่าจะต้องเป็นฝีมือของใครสักคนที่เจตนานำทารกมาทิ้งไว้
เบาะแสชี้เป้าไปยังพนักงานทำความสะอาดวัย 70 ปี ที่มีกุญแจห้องเก็บศพ และต้องเข้ามาทำความสะอาดเป็นประจำ ซึ่งในที่สุดเขาก็ยอมรับว่ามีชาย 3 คน มาขอให้เขาช่วยนำศพทารกที่ตายแล้วไปเก็บไว้ในห้องเก็บศพของโรงพยาบาล แต่ในตอนที่พวกนั้นนำทารกมาให้ กลายเป็นว่าเด็กยังไม่ตาย
อย่างไรก็ตาม ทั้ง 3 คนแสดงความตั้งใจแน่วแน่ที่จะให้นำทารกไปไว้ในห้องเก็บศพ โดยอ้างว่าทารกเกิดมาพร้อมโรค จะอยู่ได้ไม่นาน อีกทั้งครอบครัวยังมีสภาพการเงินไม่ได้ ทำให้ไม่สามารถเลี้ยงเด็กได้ ยังไงเด็กก็จะตายในเวลาไม่นานอยู่แล้ว จึงเลือกจะนำเด็กมาทิ้งไว้
เมื่อชายชราได้ฟังก็เห็นใจ จึงยอมรับเงินจากครอบครัวดังกล่าวเพื่อแลกกับการนำทารกไปไว้ในห้องเก็บศพ ตอนแรกเขาก็คิดว่าเด็กคงจะตายในไม่กี่วัน แต่ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น โดยคาดว่าเด็กน่าจะรอดชีวิตมาได้เพราะน้ำฝนที่หยดลงมาจากเพดาน
ในที่สุดทางตำรวจก็สืบสาวไปจนถึงตัวพ่อเด็ก ซึ่งเขายอมรับว่าหลังจากได้เห็นลูกพิการแต่กำเนิด ก็ทำให้เขาอดห่วงอนาคตลูกไม่ได้ เพราะตัวเขาเองก็เป็นคนพิการเช่นกัน เข้าใจดีว่ามีความลำบากมากมายในอนาคตของลูก จึงตัดสินใจนำลูกไปทิ้งในที่สุด โดยที่ภรรยาของเขาไม่รู้เรื่อง
ทั้งนี้ หลังเด็กน้อยรักษาตัวอยู่นาน 3 วัน ก็ถูกส่งคืนสู่อ้อมอกแม่ ซึ่งถึงกับหลั่งน้ำตาด้วยความเจ็บปวดเมื่อได้ทราบชะตากรรมลูกน้อย ที่ถูกทิ้งให้หิวโหยนาน 8 วันในห้องเก็บศพ โดยยอมรับว่าตัวเองแทบไม่ได้เห็นหน้าลูกเลยตั้งแต่คลอด
ขณะที่ทางตำรวจได้จับกุมพนักงานทำความสะอาด และบุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนำเด็กมาทิ้งแล้ว ส่วนพ่อเด็กนั้นทางเจ้าหน้าที่ตัดสินใจให้เขาได้รับการประกันตัว และเลื่อนการพิจารณาโทษออกไปก่อน เพื่อให้เขากลับมาช่วยภรรยาดูแลลูกก่อน แล้วค่อยตัดสินโทษจำคุกในภายหลัง
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก sohu, 163.com
