ชายปวดตับ เช่าที่จอดรถไว้แต่ถูกเพื่อนบ้านแย่ง ดื้อไม่ยอมย้าย งัดวิธีแก้เผ็ดสุดแสบ

          ชายปวดตับ เจอเพื่อนบ้านมักง่าย เอารถมาจอดในช่องจอดส่วนตัว อ้างสารพัดไม่ยอมย้าย งานนี้ต้องสั่งสอนให้ถึงใจ อยากจอดก็จอดไป จะเสียใจก็สายไปแล้ว


          และนั่นคือสิ่งที่เจ้าของรถรายหนึ่งในมณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน เพิ่งประสบมากับตัว เขารู้สึกหัวเสียมากเมื่ออยู่ ๆ ก็พบว่ามีคนนำรถมาจอดไว้ในช่องส่วนตัวของเขา แถมยังอิดออดไม่ยอมย้ายรถไปง่าย ๆ อย่างไรก็ตาม คู่กรณีอาจไม่รู้ซะแล้วว่ากำลังเล่นอยู่กับใคร จนต้องเจอการแก้เผ็ดที่ทำให้เข็ดไปอีกนาน

          โดยวันที่ 8 มิถุนายน 2566 เว็บไซต์ Mirror Media รายงานว่า นายสวี จากมณฑลเจ้อเจียง ขับรถกลับมายังคอนโดของเขา แต่กลับพบว่ามีคนอื่นนำรถมาจอดอยู่ในช่องจอดรถที่เขาเช่าไว้ เดิมทีเขาพยายามโทร. ตามเจ้าของรถคันนี้มาย้ายรถออกไป แต่อีกฝ่ายกลับอ้างว่าบริเวณดังกล่าวเป็นที่จอดรถสาธารณะ ใครจะนำรถมาจอดไว้ก็ได้

          หลังจากนั้นนายสวีจึงโทร. ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจัดการ แต่คู่กรณีก็ยังอ้างว่าตัวเองเมา ขับรถไม่ได้ สุดท้ายก็ทิ้งรถไว้แบบนั้นโดยไม่คิดจะมานำรถออกไป แม้เวลาจะผ่านไปนาน รถก็ยังจอดแช่ไว้แบบนั้น จนทำให้เจ้าของที่ตัวจริงโกรธจัด ตัดสินใจที่จะสั่งสอนบทเรียนอีกฝ่ายสักยก

          ในเมื่ออีกฝ่ายอยากจอดรถทิ้งไว้ เขาก็จะให้จอดเต็มที่แบบอย่าหวังจะนำรถออกไปง่าย ๆ ถ้าพูดคุยกันดี ๆ แล้วไม่เกิดประโยชน์ ก็จำต้องใช้วิธีการรุนแรงขึ้น นายสวีโทร. ตามช่างเชื่อมเหล็กมาจัดการตั้งเสาเหล็ก 8 เสา ล้อมรอบรถคันดังกล่าวไว้ รวมถึงนำอุปกรณ์ล็อกล้อมาใช้ เรียกว่าอยู่ในสภาพที่ต่อให้อยากจะใช้รถ ก็ไม่สามารถนำรถออกไปได้แน่ ๆ
 
          นายสวี ยังบอกอีกว่า ถ้าอีกฝ่ายไม่มาหาเขาถึงประตูและขอโทษอย่างเปิดเผย ก็อย่าหวังเลยว่าจะได้นำรถออกไป ปล่อยให้รถติดอยู่ตรงนี้ไปตลอดก็แล้วกัน

          เมื่อภาพดังกล่าวปรากฏออกไป ก็กลายมาเป็นกระแสถูกใจเพื่อนบ้านอย่างมาก หลายคนคิดว่านี่เป็นวิธีการแก้เผ็ดที่ดีมาก และสามารถนำไปใช้ได้ ขณะเดียวกันก็ได้เกิดข้อโต้เถียงในเชิงกฎหมาย ว่าวิธีการของนายสวีสามารถทำได้หรือไม่ โดย หลิวหยาน ทนายความรายหนึ่ง ชี้ว่าหากนายสวีซื้อที่จอดรถจุดนั้นแล้ว เขาก็มีสิทธิพิเศษที่จะใช้มัน หากช่องจอดรถนั้นมีคนอื่นนำรถมาจอด ก็สามารถขอให้บริษัทอสังหาริมทรัพย์จัดการได้ หรือจะล็อกรถก็ได้เช่นกัน สิ่งเดียวที่ห้ามคือห้ามทำให้รถของคนอื่นได้รับความเสียหาย


ขอบคุณข้อมูลจาก Mirror Media, Next Apple