พ่อเชื่อสาเหตุ นักเรียน ม.3 ดิ่งเสาสัญญาณโทรศัพท์เสียชีวิต เพราะลูกเครียดถูกลงโทษทรงผม หลังครูสั่งให้ตัดใหม่ถึง 3 ครั้ง แถมขู่ถ้าไม่ทำตามจะให้ย้ายโรงเรียน ด้าน ผอ. โต้ไม่น่าเกี่ยว แจงกฎระเบียบ ไม่ได้เข้มงวด ไว้สั้นหรือยาวก็ได้ แค่อย่าทำสีผม
เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2566 ข่าวช่องวัน รายงานข่าวนักเรียนกระโดดเสาสัญญาณโทรศัพท์ฆ่าตัวตาย
บริเวณในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ต.ปากแพรก อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช
เป็นเด็กชาย อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.3
สภาพศพนอนหงายเสียชีวิตในชุดพละของโรงเรียน
โดยที่เกิดเหตุพบหลังคากระเบื้องแตกทะลุเกลื่อนกระจาย และพบรองเท้านักเรียน และปากกาหล่นอยู่ คาดว่าศพเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 6-8 ชั่วโมง สอบถามพนักงานปั๊มน้ำมัน ที่มีบ้านพักใกล้ที่เกิดเหตุ เล่าว่า ได้ยินเสียงดังโครมสนั่นช่วงค่ำ เข้าใจเป็นเสียงรถชนจึงไม่ได้ออกมาดู จนรุ่งเช้าได้ออกมาก็พบศพดังกล่าว
ด้านอาจารย์ที่ปรึกษา ให้การกับตำรวจว่า ปกติน้องเป็นเด็กนิสัยดีร่าเริง เป็นที่รักใคร่ของเพื่อน ๆ และครูทุกคน แต่เมื่อวานน้องไม่มาเรียน ทางอาจารย์ที่ปรึกษาจึงโทรศัพท์ไปหาพ่อแม่ของน้อง ทราบว่าได้ออกจากบ้านมาโรงเรียนตั้งแต่เช้าแล้ว ซึ่งไม่ทราบหายไปไหนจึงไม่มาโรงเรียน กระทั่งมาพบศพ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานสาเหตุน่าจะมาจากความเครียดปัญหาส่วนตัว อยู่ระหว่างสอบสวนเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง
ล่าสุด (8 มิถุนายน) ข่าวเช้าช่องวัน รายงานเพิ่มเติม หลังมีการสอบถามไปยังพ่อของเด็กที่เสียชีวิต เผยว่า สาเหตุที่พ่อไม่ออกตามหาลูกตั้งแต่เมื่อคืน เพราะลูกบอกว่าจะไปค้างบ้านเพื่อนเลยไม่ได้เอะใจ แต่พอตอนเช้าลูกยังไม่กลับเลยโทร. หาเพื่อน ๆ จึงรู้ว่าลูกโกหก ก่อนจะได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ว่าลูกชายกระโดดเสาฆ่าตัวตาย
ส่วนสาเหตุที่ลูกตัดสินใจฆ่าตัวตายนั้น คาดว่าลูกชายน่าจะเครียดเพราะถูกครูลงโทษจับตัดผม ซึ่งลูกเคยมาเล่าให้ฟังว่า โดนครูทำโทษเรื่องทรงผมและเตือนหากไม่เปลี่ยนทรงผมจะให้ย้ายโรงเรียน ทำให้ตนติดใจเรื่องนี้ว่าอาจเป็นสาเหตุที่ลูกคิดสั้น เพราะก่อนหน้านี้ลูกชายก็ยอมไปตัดผมตามที่ครูสั่งถึง 2 ครั้งแล้ว แต่ก็ยังโดนลงโทษ และต้องไปตัดเป็นครั้งที่ 3 อีก แต่อย่างไรก็ตามครอบครัวก็ไม่ติดใจเอาความกับครู
ทั้งนี้ จากการสอบถามไปยังผู้อำนวยการโรงเรียน เผยว่า เด็กที่เสียชีวิตน้องเป็นคนนิ่ง ๆ อยู่ที่โรงเรียนน้องไม่มีเหตุการณ์ที่ต้องโดนลงโทษอะไรอยู่เป็นประจำ ส่วนประเด็นเรื่องทรงผมทางโรงเรียนไม่ได้เข้มงวด จะไว้สั้นหรือยาวก็ได้ แต่ต้องไม่ทำสีผมทั้งนักเรียนหญิงและชาย โดยทางโรงเรียนไม่ได้มีการไปกดดันหรือตัดคะแนนเด็กแต่อย่างใด ทางครูก็พยายามดูแลช่วยกันตลอด จึงเชื่อว่าสาเหตุไม่น่าเกิดมาจากเรื่องระเบียบทรงผม
ภาพจาก ข่าวช่องวัน