ภาณุวัฒน์ ยันซื้อหุ้นสื่อเพราะอยากเล่นหุ้น ย้ำไม่ได้เป็นนอมินีใคร แต่เล็งคืนหุ้น ITV ให้ นิกม์ ย้ำคำตอบในที่ประชุมผู้ถือหุ้นว่า ITV ยังดำเนินการอยู่หรือไม่ เป็นตามเอกสาร
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
เป็นประเด็นร้อนที่สังคมจับตา หลังมีการออกมาเผยคลิปประชุมผู้ถือหุ้น ITV ในรายการข่าว 3 มิติ โดย นายภาณุวัฒน์ ขวัญยืน หนึ่งในผู้ถือหุ้นได้ถามว่า ITV มีการดำเนินการเกี่ยวกับสื่อหรือไม่ แต่ปรากฏว่าคำตอบในเอกสารบันทึกการประชุม กับคลิปเสียงที่ถูกเผยแพร่ มีความขัดแย้งกัน
พบว่าคำตอบในเอกสารระบุ "ปัจจุบันยังดำเนินกิจการอยู่ ตามวัตถุประสงค์ของบริษัท และมีการส่งงบการเงินและยื่นแบบภาษีเงินได้นิติบุคคลตามปกติ" ในขณะที่คำตอบจากประธานตามที่ปรากฏในคลิป ระบุว่า "ตอนนี้บริษัทยังไม่มีการดำเนินการใด ๆ ก็รอผลคดีความให้สิ้นสุดก่อน"
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ล่าสุด (14 มิถุนายน 2566) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานว่า ทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ ได้ประสานไปยัง นายภาณุวัฒน์ ขวัญยืน ผู้รับซื้อหุ้น ITV ต่อจาก นายนิกม์ แสงศิรินาวิน อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ โดย นายภาณุวัฒน์ เปิดใจว่า การเข้ามาซื้อหุ้นเป็นเพราะสนใจวิธีเล่นหุ้น ต้องการมีรายได้เพิ่ม และยังสนิทกับนายนิกม์ จึงรับซื้อหุ้นมา มีการแนะนำสอนการเล่นหุ้น และเสนอขายหุ้นสื่อให้
โดยตอนนั้นเป็นหุ้น ITV และ อสมท. โดยอยู่ในพอต หลังจากเป็นเจ้าของหุ้น ITV แล้ว ตนก็มีการตรวจสอบและเกิดคำถามว่า หุ้น ITV ยังมีมูลค่าหรือไม่ หุ้นยังดำเนินการอยู่ และมีโอกาสที่จะเกิดรายได้
ส่วนการประชุมผู้ถือหุ้นผ่านระบบออนไลน์ แล้วมีคำถามประชุมในการประชุม ยอมรับว่าตนและนายนิกม์นั่งประชุมอยู่ด้วยกันและปรึกษากัน ซึ่งถ้ามีการถามเรื่องการเมือง จะเป็นนายนิกม์ถาม เพราะจะส่งต่อตัวเขาที่เป็นนักการเมือง
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ส่วนตนถามในที่ประชุมว่า ITV เป็นสื่อยังดำเนินการอยู่หรือไม่ "เขาตอบว่ามีการดำเนินการอยู่"
เมื่อสอบถามนายภาณุวัฒน์ ในประเด็นที่สังคมเกิดความสงสัย ว่าหุ้น ITV ไม่ใช่หุ้นที่ทำกำไรหรือมีรายได้ ทำไมถึงรับซื้อมา ได้รับคำตอบว่า บริษัทยังดำเนินกิจการ มีการปิดงบ ยืนยันว่าไม่ได้เป็นนอมินีให้ใคร การซื้อหุ้นนี้แบบพี่น้องจากใจจริง ไม่ได้เตี๊ยมกันแน่นอน
ทั้งนี้ นายภาณุวัฒน์ เผยว่า ส่วนตัวตอนนี้รู้สึกกังวลเรื่องความปลอดภัย ตนยืนยันความบริสุทธิ์ใจ ตนไม่มีเจตนาจะไปให้ร้ายหรือขัดขวางใคร อย่างกรณีเอกสารที่สื่อนำไปใช้ ก็ไม่เซ็นเซอร์ชื่อของตน ขอสังคมอย่าเอาหลายประเด็นมารวมกัน จับแพะชนแกะจนเกิดความเข้าใจผิด และย้ำว่าคนที่ร้องนายพิธา ไม่ใช่ตน
ตนเป็นคนหนึ่งที่ถือหุ้น ITV และมีสิทธิ์จะถามในที่ประชุม ส่วนเรื่องผิดหรือถูก กกต. และศาลจะเป็นผู้พิจารณา และจากปัญหาที่เกิดขึ้นกำลังคิดว่าอาจจะคืนหุ้นนี้ให้นายนิกม์ในอนาคต