ลูกชาย เผยอาการของหญิงที่โดนทางเลื่อนดอนเมืองดูดขาขาด ยอมรับสภาพจิตใจแม่ย่ำแย่มาก ตอนนี้ครอบครัวเลี่ยงที่จะพูดถึงเหตุการณ์ ภาวนาให้แม่ขาไม่ติดเชื้อเพิ่ม ยอมรับแม่ร้องไห้ เพราะคิดไม่ออกว่าจะใช้ชีวิตด้วยขาข้างเดียวอย่างไร
จากเหตุการณ์สะเทือนใจที่หญิงคนหนึ่งถูกทางเลื่อนในสนามบินดอนเมือง ดูดเข้าไปจนขาขาด ซึ่งล่าสุดทางลูกชายได้ออกมาอัปเดตอาการของคุณแม่ และยอมรับว่าคุณหมอได้แนะนำให้ตัดขาทิ้ง
อ่านเพิ่มเติม : ลูกชายเหยื่อถูกทางเลื่อนดูดขาขาด สภาพจิตใจแย่หนัก หมอให้ตัดขาทิ้ง !
ล่าสุด เฟซบุ๊ก Kit Kit หรือคุณกฤตย์ ซึ่งเป็นลูกของผู้โดยสารหญิง ที่สะดุดตรงทางเลื่อน และโดนดูดขาเข้าไปในทางเลื่อนจนขาขาด ซึ่งเขาบอกว่า ตั้งแต่เกิดเหตุทางครอบครัวยังไม่ได้คุยรายละเอียกับคณแม่ แต่โฟกัสไปที่การรักษา ซึ่งคุณแม่เสียเลือดมาก เหตุการณ์นี้ถือเป็นเหตุการณ์ที่บีบหัวใจครอบครัวเราจริง ๆ ทางครอบครัวยังตกใจและเสียใจทุกครั้งที่เห็นข่าว และตอนคิดถึงอาการของคุณแม่ พวกเรายังต้องสู้ คุณแม่ก็กำลังสู้เช่นกัน
โดยช่วงเช้าและเย็นของวันที่ 29 มิถุนายน 2566 ทางคุณแม่ได้เข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ซึ่งครอบครัวของเรามีประวัติการรักษาอยู่แล้ว คุณแม่ได้ออกจากห้องผ่าตัดในช่วงค่ำ ผลเป็นที่น่าพอใจ แต่ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าเป็นการผ่าตัดครั้งสุดท้ายของแม่ ทางทีมแพทย์แจ้งว่ายังต้องรอดูอาการ ภาวนาให้ไม่มีการติดเชื้อหรือเนื้อตาย ซึ่งจะต้องทำให้เราต้องผ่าเปิดแผลคุณแม่และตัดเนื้อของแม่ออกมาอีก กว่าจะทราบผลก็อีกหลายวัน
โดยช่วงเช้าและเย็นของวันที่ 29 มิถุนายน 2566 ทางคุณแม่ได้เข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ซึ่งครอบครัวของเรามีประวัติการรักษาอยู่แล้ว คุณแม่ได้ออกจากห้องผ่าตัดในช่วงค่ำ ผลเป็นที่น่าพอใจ แต่ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าเป็นการผ่าตัดครั้งสุดท้ายของแม่ ทางทีมแพทย์แจ้งว่ายังต้องรอดูอาการ ภาวนาให้ไม่มีการติดเชื้อหรือเนื้อตาย ซึ่งจะต้องทำให้เราต้องผ่าเปิดแผลคุณแม่และตัดเนื้อของแม่ออกมาอีก กว่าจะทราบผลก็อีกหลายวัน
คุณแม่จิตใจย่ำแย่ ไม่ว่าผลผ่าตัดจะเป็นอย่างไร แม่จะไม่ได้ขาเหมือนเดิม ลูกใจสลายเห็นกล่องโฟมใส่ขา
ในส่วนสภาพจิตใจของแม่ค่อนข้างน่าห่วง ทางครอบครัวได้คุยกับแม่นิดหน่อยทั้งก่อนและหลังผ่าตัด คุณแม่ต้องพักในห้องปลอดเชื้อ คุณแม่ยังแสดงความเข้มแข็งทั้งสีหน้าและน้ำเสียง แต่เรารู้ว่าในใจคุณแม่สลายเพราะอยู่ ๆ ก็ต้องเสียขาไป ซึ่งตอนนี้ครอบครัวห่วงสภาพจิตใจของแม่ และการใช้ชีวิตในระยะยาว เพราะเราทราบดีว่าไม่สามารถทำให้ขาของคุณแม่กลับมาเหมือนเดิม และทางครอบครัวได้ขอให้หมอจัดทีมนักจิตวิทยาเพื่อช่วยเหลือเยียวยาคุณแม่ คุณแม่ร้องไห้ไม่ใช่เพราะเจ็บแผล แต่เพราะจินตนาการถึงการมีขาข้างเดียวไม่ได้ ทางครอบครัวจึงต้องเลี่ยงพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และปล่อยให้ผู้ที่เกี่ยวข้องของสนามบินจัดการสืบค้นสาเหตุต่อไป ทางครอบครัวหวังว่าจะได้รับความโปร่งใสและเป็นธรรม
ตนในฐานะลูก เมื่อเห็นคุณแม่หลังเกิดเหตุการณ์ คือเห็นเจ้าหน้าที่ถือกล่องโฟมใส่ขาคุณแม่ลงจากห้องฉุกเฉิน แยกออกมาจากตัวแม่ที่นอนบนเปล เป็นความรู้สึกที่ตนอธิบายไม่ได้ และครอบครัวยังภาวนาให้แผลผ่าตัดของแม่ไม่ติดเชื้อ ขอให้เป็นการผ่าตัดครั้งสุดท้าย นอกเหนือจากนี้ ครอบครัวไม่ขอคิดถึงสิ่งอื่นใด เพราะครอบครัวเราจะไม่เหมือนเดิมจากนี้ แต่เราจะต้องมีสมาชิกในครอบครัวครบเท่าเดิม
อย่างไรก็ตาม คุณกฤตย์ ได้เผยอีกว่า ตอนนี้ทางครอบครัวได้ขอภาพจากกล้องวงจรปิดจากสนามบินดอนเมืองแล้ว แต่ยังไม่ได้รับ เนื่องจากคาดว่าต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอน
