x close

ชูวิทย์ ควักโชว์ถุงปริศนา พร้อมแฉนายกฯ คนต่อไป ห่วงเพื่อไทย ระวังไม่ได้อะไรเลย

          ชูวิทย์ เผยถุงปริศนา เอกสารพร้อมแฉนายกรัฐมนตรีคนต่อไป พร้อมวิเคราะห์ 2 สูตรทางการเมืองในการโหวตครั้งหน้า ที่ฟังแล้วอาจมีประวัติศาสตร์ซ้ำรอยยุคอภิสิทธิ์

โหวตนายกรัฐมนตรี

          หลังจากที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ถูกปฏิเสธการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 2 เท่ากับว่า นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของไทย จะไม่ใช่นายพิธาอย่างแน่นอน ซึ่งตัวเต็งที่หลายคนคาดการณ์ น่าจะมาจากพรรคเพื่อไทย อันดับ 2 คนที่เป็นแคนดิเดตมีทั้งหมด 3 คน ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร, นายเศรษฐา ทวีสิน และนายชัยเกษม นิติสิริ

ชูวิทย์เตรียมแฉว่าที่นายกฯ


โหวตนายกรัฐมนตรี

          ล่าสุด วันที่ 20 กรกฎาคม 2566 รายการ กรรมกรข่าว คุยนอกจอ เชิญนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ซึ่งมาพร้อมซองเอกสารเป็นปึก เกริ่นเลยว่า อันนี้คือเอกสารที่เกี่ยวกับนายกรัฐมนตรีคนถัดไปได้หลีกเลี่ยง ได้ทำผิดกฎหมาย พูดง่าย ๆ ชีวิตของนายกรัฐมนตรีคนถัดไปอยู่ในซองนี้

          นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา จึงถามกลับว่า เขายังไม่ทันเสนอชื่อ เตรียมแฉแล้วหรือ ? นายชูวิทย์ ตอบกลับตอนหนึ่งพร้อมวาดแผนผังนายกฯ คนถัดไปว่า ในมุมหนึ่งก็คือ นักการเมือง ทำงานเพื่อประชาชน อีกมุมหนึ่งก็คือ นักธุรกิจ ทำงานเพื่อกำไรของบริษัท

          ในอดีตที่ผ่านมา เราได้นักการเมืองที่เป็นนักธุรกิจมาก่อน เช่น นายทักษิณ ชินวัตร จะเห็นได้ว่า นายทักษิณทำคาบลูกคาบดอกระหว่าง 2 สถานะ จนมีผลประโยชน์ทับซ้อนหลาย ๆ ครั้ง ซึ่งคนเป็นนายกฯ จะต้องขาว จะต้องไม่มีรอยร้าว เพราะเป็นผู้นำประเทศ ถ้านายกฯ คนถัดไปเป็นนักธุรกิจ หากำไรจากประชาชนและเป็นนักการเมืองที่ทำงานเพื่อประชาชน สถานะต่างกัน คุณคิดว่าในสมองเขาจะกลับหลังหันไปคิดอีกแบบได้ไหม หลักฐานในแฟ้มนี้จะทำให้เห็นว่าทำไม่ได้

          จากนั้นนายชูวิทย์ก็เปิดซองเอกสาร มีกระดาษเป็นปึก แต่ให้ดูแค่ด้านหน้า มีทั้งโฉนดที่ดิน, รายงานการประชุมซื้อที่ดิน โอน 12 วัน ฯลฯ

เปิดสูตรการโหวตนายกฯ 27 ก.ค. เพื่อไทยคิดหนัก


โหวตนายกรัฐมนตรี

          นายชูวิทย์ ยังกล่าวถึงการเลือกนายกรัฐมนตรีอีกว่า วันที่ 27 กรกฎาคม นี้ จะมีการส่งชื่อนายเศรษฐาเป็นแคนดิเดต แต่เงื่อนไข สว. คือ ต้องไม่มีพรรคก้าวไกล เพราะถ้าหากมีพรรคก้าวไกล สว. ก็ไม่โหวตให้ผ่าน เสียโควตาไปอีก 1 คน ทีนี้ก็จะถึงคิวของนางสาวแพทองธาร ซึ่งทางบ้านก็ไม่อยากให้เป็นนายกฯ เท่าไร

          ขณะเดียวกัน ว่าที่ฝ่ายค้าน 188 เสียง เขาก็ไม่ได้อยู่นิ่งเฉย ตอนนี้ก็พยายามดีลกับพรรคเพื่อไทยว่าขอร่วมรัฐบาลได้ไหม เพื่อให้ สว. โหวตให้

2 สูตรรัฐบาล มีแววฟอร์มนี้ เพื่อไทยอาจเจอสถานการณ์เดียวกับก้าวไกล


โหวตนายกรัฐมนตรี

          ส่วนสูตรทางการเมือง ถ้าหากพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลโดยไม่มีก้าวไกล อำนาจต่อรองจะไปอยู่ที่พรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่ง 2 พรรคหลังก็พร้อมคุยอยู่ เนื่องจาก พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา วางมือทางการเมืองแล้ว ฉะนั้น สว. ของ พล.อ. ประยุทธ์ ก็จะไปอยู่กับ พล.อ. ประวิตร

          เรื่องการต่อรอง ถ้าหากพรรคเพื่อไทยที่มี 141 เสียงจะเป็นนายกรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทยอาจจะหลุดมือไปให้พรรคพลังประชารัฐที่มีแค่ 40 เสียง กระทรวงคมนาคมก็จะไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทย เรียกได้ว่า สถานการณ์เดียวกับพรรคก้าวไกล เกือบจะไม่ได้อะไรเลย

โหวตนายกรัฐมนตรี

          นายสรยุทธ กล่าวเสริมว่า เหตุการณ์นี้คล้ายกับยุครัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ต้องยอมยกกระทรวงใหญ่ให้ เพื่อที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้ ทางนายชูวิทย์ก็กล่าวเสริมว่า ก็คือเป็นนายกฯ แต่ตำแหน่ง แต่รัฐมนตรีต่าง ๆ ถูกยึดหมด ดังนั้นสูตรทางการเมืองจะมีอยู่ 2 สูตร ดังนี้

          1. นายกฯ เพื่อไทย มีพรรคภูมิใจไทยคุมกระทรวงคมนาคม และพรรคพลังประชารัฐคุมมหาดไทย

          2. นายกฯ คือ พล.อ. ประวิตร แต่พรรคเพื่อไทย จะได้กระทรวงมหาดไทยหรือคมนาคม


ขอบคุณข้อมูลจาก รายการ กรรมกรข่าว คุยนอกจอ


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ชูวิทย์ ควักโชว์ถุงปริศนา พร้อมแฉนายกฯ คนต่อไป ห่วงเพื่อไทย ระวังไม่ได้อะไรเลย อัปเดตล่าสุด 20 กรกฎาคม 2566 เวลา 15:27:37 11,007 อ่าน
TOP