สรุปเงื่อนไข หากจะได้คะแนนตั้งรัฐบาลจากพรรคการเมือง สรุปจุดยืน 5 พรรคดังได้รับเทียบเชิญจาก เพื่อไทย ข้อแม้อะไรบ้างถึงจะร่วมงานกันได้
หลังจากที่ประชุมรัฐสภามีมติวันที่ 19 กรกฎาคม 2566 ว่าการเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น เป็นญัตติที่ไม่สามารถเสนอซ้ำได้ ทำให้ 8 พรรคร่วมต้องมีการหารือกันใหม่ ภายใต้การนำของ พรรคเพื่อไทย ว่าจะทำอย่างไรจึงจะสามารถรวมเสียงให้ได้เกิน 375 เสียง เพื่อจัดตั้งรัฐบาล เกิดเป็นแนวทางในการเข้าหารือกับพรรคการเมืองอื่น ๆ นอกเหนือจาก 8 พรรค
ทำให้เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม พรรคเพื่อไทย เริ่มเข้าเจรจากับพรรคการเมืองอื่น ๆ ได้แก่ "พรรคภูมิใจไทย" ที่มี 71 เสียง "พรรคชาติพัฒนากล้า" ที่มี 2 เสียง และ "พรรครวมไทยสร้างชาติ" 36 เสียง
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
"ภูมิใจไทย" ย้ำไม่เอา ก้าวไกล แม้ถอย ม.112
ภูมิใจไทย คือพรรคแรกที่เพื่อไทยนัดคุย โดย นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ตั้งโต๊ะแถลงภายหลังการพูดคุยกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่า วันนี้เป็นการหารือหาทางออกให้กับประเทศในการจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ ขณะที่ นายอนุทิน กล่าวว่า ได้รับทราบจุดประสงค์ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งตรงกันในเรื่องความต้องการแก้ปัญหาทางการเมืองให้ประเทศไทยมีรัฐบาลให้เร็วที่สุด
นายอนุทิน ได้บอกข้อกังวล และข้อจำกัดของพรรคว่า พรรคภูมิใจไทยไม่สามารถทำงานได้ หากยังมี "พรรคก้าวไกล" ซึ่งไม่ได้เป็นเรื่องของความขัดแย้งใด ๆ แต่เป็นแนวทาง ความคิด และวิธีการทำงาน หากสามารถผ่านจุดที่เป็นอุปสรรคของพรรคไปได้ภูมิใจไทยก็พร้อมให้ความร่วมมือกับพรรคในการจัดตั้งรัฐบาล "เพื่อประโยชน์ของพวกเราทุกคน และประเทศไทย"
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
"ชาติพัฒนากล้า" ไม่แก้ไข ม.112
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า ระบุหลังการหารือว่า พรรคชาติพัฒนากล้ายินดีสนับสนุนการจัดตั้งรัฐบาลให้ลุล่วงโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เกิดสุญญากาศในการบริหารบ้านเมือง แต่มีเงื่อนไขสำคัญว่า
- จะสนับสนุนให้เกิดรัฐบาลเสียงข้างมาก ไม่ส่งเสริมให้มีรัฐบาลเสียงข้างน้อย เพื่อเสถียรภาพทางการเมือง
- สนับสนุนพรรคที่มีเสียงอันดับหนึ่งในการริเริ่มเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล แต่หากพรรคอันดับหนึ่งไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ จะสนับสนุนพรรคลำดับรองลงมาจัดตั้งรัฐบาล
- ต้องเร่งรัดการแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจ โดยเฉพาะปัญหาสินค้าราคาแพง เพราะตอนนี้ประชาชนกำลังเดือดร้อนอย่างมาก
- ทางพรรคคงไว้ในมาตรา 112 ไม่ต้องการให้มีการแก้ไข
"รวมไทยสร้างชาติ" จุดยืนไม่ร่วมกับก้าวไกล ไม่แก้ ม.112
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงแนวทางความร่วมมือกับพรรคเพื่อไทยว่า จุดยืนของพรรครวมไทยสร้างชาติ ต่างกับแนวทางของพรรคก้าวไกล ค่อนข้างมาก หากยังมีพรรคนั้นอยู่กับพรรคเพื่อไทย ก็คงไม่ได้ร่วมกันได้ โดยจุดยืนของพรรคสรุปได้ดังนี้
- จะไม่เห็นชอบเพื่อไทย หากยังมีพรรคก้าวไกลร่วมเป็นรัฐบาลด้วย
- ไม่ร่วมเป็นรัฐบาล หรือร่วมกับพรรคการเมืองใดที่นำพรรคก้าวไกลมาร่วมเป็นรัฐบาล
- ไม่ร่วมทำงานร่วมกับพรรคที่มีนโยบายแก้ ม.112 อย่างเด็ดขาด
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
"ชาติไทยพัฒนา" พร้อมทำงานกับพรรคที่มีความคิดเชิงบวกกับสถาบัน ไม่แก้ ม.112
นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เปิดเผยหลังแนวทางการแก้ไขปัญหาวิกฤตและทางออกของประเทศร่วมกับพรรคเพื่อไทย สรุปจุดยืนว่า
- พรรคชาติไทยพัฒนา ทำงานเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ หากแนวทางของพรรคการเมืองใดมีแนวทางทัศนคติเชิงบวกกับสถาบัน ก็พร้อมร่วมมือด้วย
- พรรคเพื่อไทยจะต้องไม่ร่วมมือกับพรรคการเมืองใดก็ตาม ที่มีแนวคิดแก้ไข ม.112
ภาพจาก พรรคพลังประชารัฐ
"พลังประชารัฐ" ไม่ทำลายความมั่นคง ไม่ ยกเลิก-แก้ไข มาตรา 112
นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยหลังได้รับการเทียบเชิญจากพรรคเพื่อไทย เพื่อพูดคุยแนวทางแก้ไขปัญหาวิกฤต และทางออกประเทศ โดยสรุปจุดยืนของพรรคว่า
- ไม่มีแนวคิดทำลายความมั่นคงของประเทศ หรือการยกเลิก หรือแก้ไข ม.112 หากพรรคใดพรรคหนึ่งมีแนวนโยบายดังกล่าว ก็ไม่สามารถทำงานร่วมกันได้
- ต้องเป็น รัฐบาลที่รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และเป็นรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตย ต้องทำเพื่อพี่น้องประชาชน และความมั่นคงในประเทศ
หลังจากที่ประชุมรัฐสภามีมติวันที่ 19 กรกฎาคม 2566 ว่าการเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น เป็นญัตติที่ไม่สามารถเสนอซ้ำได้ ทำให้ 8 พรรคร่วมต้องมีการหารือกันใหม่ ภายใต้การนำของ พรรคเพื่อไทย ว่าจะทำอย่างไรจึงจะสามารถรวมเสียงให้ได้เกิน 375 เสียง เพื่อจัดตั้งรัฐบาล เกิดเป็นแนวทางในการเข้าหารือกับพรรคการเมืองอื่น ๆ นอกเหนือจาก 8 พรรค
ทำให้เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม พรรคเพื่อไทย เริ่มเข้าเจรจากับพรรคการเมืองอื่น ๆ ได้แก่ "พรรคภูมิใจไทย" ที่มี 71 เสียง "พรรคชาติพัฒนากล้า" ที่มี 2 เสียง และ "พรรครวมไทยสร้างชาติ" 36 เสียง
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
"ภูมิใจไทย" ย้ำไม่เอา ก้าวไกล แม้ถอย ม.112
ภูมิใจไทย คือพรรคแรกที่เพื่อไทยนัดคุย โดย นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ตั้งโต๊ะแถลงภายหลังการพูดคุยกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่า วันนี้เป็นการหารือหาทางออกให้กับประเทศในการจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ ขณะที่ นายอนุทิน กล่าวว่า ได้รับทราบจุดประสงค์ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งตรงกันในเรื่องความต้องการแก้ปัญหาทางการเมืองให้ประเทศไทยมีรัฐบาลให้เร็วที่สุด
นายอนุทิน ได้บอกข้อกังวล และข้อจำกัดของพรรคว่า พรรคภูมิใจไทยไม่สามารถทำงานได้ หากยังมี "พรรคก้าวไกล" ซึ่งไม่ได้เป็นเรื่องของความขัดแย้งใด ๆ แต่เป็นแนวทาง ความคิด และวิธีการทำงาน หากสามารถผ่านจุดที่เป็นอุปสรรคของพรรคไปได้ภูมิใจไทยก็พร้อมให้ความร่วมมือกับพรรคในการจัดตั้งรัฐบาล "เพื่อประโยชน์ของพวกเราทุกคน และประเทศไทย"
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
"ชาติพัฒนากล้า" ไม่แก้ไข ม.112
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า ระบุหลังการหารือว่า พรรคชาติพัฒนากล้ายินดีสนับสนุนการจัดตั้งรัฐบาลให้ลุล่วงโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เกิดสุญญากาศในการบริหารบ้านเมือง แต่มีเงื่อนไขสำคัญว่า
- จะสนับสนุนให้เกิดรัฐบาลเสียงข้างมาก ไม่ส่งเสริมให้มีรัฐบาลเสียงข้างน้อย เพื่อเสถียรภาพทางการเมือง
- สนับสนุนพรรคที่มีเสียงอันดับหนึ่งในการริเริ่มเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล แต่หากพรรคอันดับหนึ่งไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ จะสนับสนุนพรรคลำดับรองลงมาจัดตั้งรัฐบาล
- ต้องเร่งรัดการแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจ โดยเฉพาะปัญหาสินค้าราคาแพง เพราะตอนนี้ประชาชนกำลังเดือดร้อนอย่างมาก
- ทางพรรคคงไว้ในมาตรา 112 ไม่ต้องการให้มีการแก้ไข
"รวมไทยสร้างชาติ" จุดยืนไม่ร่วมกับก้าวไกล ไม่แก้ ม.112
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงแนวทางความร่วมมือกับพรรคเพื่อไทยว่า จุดยืนของพรรครวมไทยสร้างชาติ ต่างกับแนวทางของพรรคก้าวไกล ค่อนข้างมาก หากยังมีพรรคนั้นอยู่กับพรรคเพื่อไทย ก็คงไม่ได้ร่วมกันได้ โดยจุดยืนของพรรคสรุปได้ดังนี้
- จะไม่เห็นชอบเพื่อไทย หากยังมีพรรคก้าวไกลร่วมเป็นรัฐบาลด้วย
- ไม่ร่วมเป็นรัฐบาล หรือร่วมกับพรรคการเมืองใดที่นำพรรคก้าวไกลมาร่วมเป็นรัฐบาล
- ไม่ร่วมทำงานร่วมกับพรรคที่มีนโยบายแก้ ม.112 อย่างเด็ดขาด
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
"ชาติไทยพัฒนา" พร้อมทำงานกับพรรคที่มีความคิดเชิงบวกกับสถาบัน ไม่แก้ ม.112
นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เปิดเผยหลังแนวทางการแก้ไขปัญหาวิกฤตและทางออกของประเทศร่วมกับพรรคเพื่อไทย สรุปจุดยืนว่า
- พรรคชาติไทยพัฒนา ทำงานเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ หากแนวทางของพรรคการเมืองใดมีแนวทางทัศนคติเชิงบวกกับสถาบัน ก็พร้อมร่วมมือด้วย
- พรรคเพื่อไทยจะต้องไม่ร่วมมือกับพรรคการเมืองใดก็ตาม ที่มีแนวคิดแก้ไข ม.112
ภาพจาก พรรคพลังประชารัฐ
"พลังประชารัฐ" ไม่ทำลายความมั่นคง ไม่ ยกเลิก-แก้ไข มาตรา 112
นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยหลังได้รับการเทียบเชิญจากพรรคเพื่อไทย เพื่อพูดคุยแนวทางแก้ไขปัญหาวิกฤต และทางออกประเทศ โดยสรุปจุดยืนของพรรคว่า
- ไม่มีแนวคิดทำลายความมั่นคงของประเทศ หรือการยกเลิก หรือแก้ไข ม.112 หากพรรคใดพรรคหนึ่งมีแนวนโยบายดังกล่าว ก็ไม่สามารถทำงานร่วมกันได้
- ต้องเป็น รัฐบาลที่รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และเป็นรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตย ต้องทำเพื่อพี่น้องประชาชน และความมั่นคงในประเทศ