แม่วัย 40 ชะตากรรมสลด ต้องตัดแขน-ขาทิ้ง ทั้ง 4 ข้าง เหตุติดเชื้อ หลังกินปลาปนเปื้อน

          คุณแม่วัย 40 ปี เผชิญชะตากรรมสุดสลด ต้องตัดแขน-ขาทิ้งหมดทั้ง 4 ข้าง เหตุติดเชื้อ หลังกินปลาทิลาเปียปนปื้อนแบคทีเรีย ปรุงไม่สุก


          ย้อนกลับไปเมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ลอร่ามีอาการป่วย หลังจากกินอาหารมื้อเย็น ซึ่งเป็นปลาทิลาเปียที่เธอซื้อมาจากตลาดในท้องถิ่น ก่อนที่จะนำมาทำเมนูอาหารเองที่บ้าน ลอร่าต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลอยู่นานเป็นเดือน ๆ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 14 กันยายน ที่ผ่านมา แพทย์มีความจำเป็นต้องตัดแขนและขาของเธอทิ้ง เพื่อช่วยชีวิตของเธอ ภายหลังจากภาวะการติดเชื้อลุกลาม

          แอนนา เมสซินา เพื่อนของลอร่า เผยกับรายงานของสื่อท้องถิ่น กล่าวว่า "มันหนักหนามากสำหรับพวกเราทุกคน มันน่ากลัวจริง ๆ สิ่งนี้อาจเกิดขึ้นกับพวกเราคนใดก็ได้ ลอร่าเกือบจะสูญเสียชีวิตของเธอ เธออยู่ในอาการโคม่า ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ นิ้วของเธอเป็นสีดำ เท้าของเธอเป็นสีดำ ริมฝีปากล่างของเธอก็เป็นสีดำ เธอมีภาวะติดเชื้อและไตล้มเหลว"

          โดยกรณีของลอร่า ทางแพทย์เชื่อว่าเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดที่ชื่อว่า วิบริโอ วัลนิฟิคัส (Vibrio vulnificus) ซึ่งอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมทางทะเล น้ำกร่อย หรือพื้นที่ชายฝั่งทะเล โดยผู้ป่วยสามารถติดเชื้อได้จากกินปลาดิบ หรือปรุงไม่สุก รวมถึงอาหารทะเลอื่น ๆ 


          ดร.นาตาชา สปอตติสวูด แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อประจำศูนย์การแพทย์ซานฟรานซิสโก ของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เผยว่า วิธีที่สามารถติดเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้ได้คือ การรับประทานอาหารที่มีการปนเปื้อน รวมถึงการมีรอยแผลเปิดที่ไปสัมผัสกับน้ำที่มีแบคทีเรียชนิดนี้อาศัยอยู่ ก็สามารถทำให้ร่างกายติดเชื้อได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอจะยิ่งน่าเป็นกังวลอย่างยิ่ง

          ตามข้อมูลของศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐอเมริกา (CDC) มีรายงานผู้ป่วยติดเชื้อแบคทีเรียวิบริโอ วัลนิฟิคัส ปีละประมาณ 150-200 ราย โดย 1 ใน 5 ของผู้ป่วยที่ติดเชื้อชนิดนี้ เสียชีวิต

          เมสซินา และครอบครัวของลอร่าได้เปิดเพจระดมทุนบนเว็บไซต์ GoFundMe เพื่อขอรับบริจาคเงินช่วยเหลือค่ารักษาทางการแพทย์ที่ค่อนข้างสูงมาก และยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยล่าสุดมีผู้เข้าไปร่วมบริจาคมากเป็นจำนวนกว่า 100,000 ดอลลาร์ (ราว 3.6 ล้านบาท)  

          ข้อความบนเพจระดมทุน ระบุว่า "ลอร่าไม่รู้มาก่อนว่าการกระทำง่าย ๆ นี้ จะเปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล เธออยู่ในโรงพยาบาลมานานกว่าหนึ่งเดือนแล้ว และกำลังต่อสู้เพื่อชีวิตของเธอ ตอนนี้เธอกลายเป็นผู้พิการแขนขาทั้ง 4 ข้างไปแล้ว"


ขอบคุณข้อมูลจาก Daily Mail, New York Post